“ผมได้พูดคุยกับ เพย์ตัน (แมนนิง) และเขาก็พูดขึ้นมาว่าลงไปลุยเลยไอ้น้อง ไปสนุกกับมัน คุณทำมันได้อยู่แล้ว” นี่เป็นคำพูดของ อีลาย แมนนิง หลังพลิกสถานการณ์ช่วยให้ “ยักษ์ใหญ่” นิวยอร์ก ไจแอนท์ส โค่น “นักรบกู้ชาติ” นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ 17-14 คะแนน ผงาดคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 42 มาครอง
แม้ไม่ได้เดินทางไปเชียร์ อีลาย (แมนนิง) ลุยหนาวพา นิวยอร์ก ไจแอนท์ส เล่นงาน กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส ถึงแลมโบว์ ฟิลด์ ในเกมชิงแชมป์สายเอ็นเอฟซี (NFC) เมื่อสองสัปดาห์ก่อน แต่เมื่อคืนวันอาทิตย์ตามวัน-เวลาท้องถิ่น เพย์ตัน แมนนิง สุดยอดควอเตอร์แบ็กผู้พา “เกือกม้า” อินเดียนาโปลิส โคลต์ส โขยกคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ลเมื่อปีก่อน ควงแขนคุณพ่อคุณแม่ อาร์ชี และโอลิเวีย เดินทางมายังเกลนเดล อริโซนา เพื่อเป็นให้กำลังน้องชายสุดที่รักที่เดินลงสู่สนามไปสัมผัสกับเกมชิงแชมป์ประเทศเป็นครั้งแรกในชีวิต
นับตั้งแต่ถูกดราฟท์เข้าลีกเป็นคนแรกของปี 2004 อีลาย (แมนนิง) ตกอยู่ภายใต้ความกดดันมาโดยตลอด เพราะเขามีคุณพ่อเป็นถึงยอดควอเตอร์แบ็ก นิวออร์ลีนส์ เซ็นต์ส ขณะที่พี่ชายก็ถูกขนานนามว่าเป็นอัจฉริยะแห่งควอเตอร์แบ็ก และที่สำคัญเพิ่งพา โคลต์ส ผงาดคว้าแชมป์ในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ดังนั้นคงปฏิเสธไม่ได้ว่า อีลาย วัย 27 ปีต้องเดินลงสนามภายใต้ร่มเงาของพี่ชายมานานถึง 4 ปีเต็ม
อย่างไรก็ตามในที่สุด อีลาย ลูกชายคนสุดท้องของตระกูลแมนนิงก็พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าเขาสามารถก้าวผ่านพ้นเงาของพี่ชายผงาดขึ้นมาเป็นควอเตอร์แบ็กหัวแถวของลีก การพาทัพ “ยักษ์ใหญ่” คัมแบ็กจากเป็นรอง 10-14 เมื่อเหลืออีกสองนาทีเศษกลับมาขว้างทัชดาวน์ 13 หลาเข้ามือ แพล็กซิโก เบอร์เรสส์ ปีกคู่ใจก่อนนาฬิกาของควอเตอร์ที่สี่หมดลงแค่ 35 วินาทีทำให้ ไจแอนท์ส พลิกล็อกเล่นงาน แพทริออตส์ อย่างสุดมัน 17-14 คะแนน ผงาดคว้าแชมป์มาครองและก็เป็นซูเปอร์โบว์ครั้งที่ 3 ของเฟรนไชส์
ที่สำคัญจากจิตใจที่ห้าวหาญเดินผ่านช่วงเวลาวิกฤติมาได้ อีลาย ได้รับเลือกให้ครองตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ของซูเปอร์โบว์ล หลังขว้างเข้าเป้า 19 จาก 34 ครั้งได้ระยะ 255 หลา 2 ทัชดาวน์ เสียไปหนึ่งอินเทอร์เซปต์ และตระกูล “แมนนิง” ก็ถูกจารึกเข้าสู่หน้าประวัติศาสตร์เอ็นเอฟแอล เมื่อมีคู่พี่น้องสามารถพาทีมของตัวเองคว้าแชมป์สองปีติดต่อกันแถมยังได้รางวัลเอ็มวีพีไปครองด้วยกันทั้งคู่
ภายหลังการแข่งขัน อีลาย ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างมีบุคลิกความเป็นผู้นำ “มาถึงจุดนี้ผมต้องการบอลมาอยู่ในมือและก็ต้องการทำทัชดาวน์ อันที่จริงต้องชื่นชม เดวิด ไทรี (ผู้รับทัชดาวน์ให้ทีมนำ 10-7 เมื่อเริ่มควอเตอร์ที่สี่) เขารับบอลได้อย่างเหลือเชื่อและก็เซฟเกมเอาไว้ ทั้งนี้ทั้งนั้นมันเป็นอะไรที่เกี่ยวกับความเป็นทีม เรามีวิถีทางไปสู่ชัยชนะ ลงเล่นในเพลย์ออฟอย่างเหนียวแน่น ทุกคนมีความมั่นใจ เราต่างก็เชื่อมือกัน”
นอกเหนือจากเกมบุก การคว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ของเหล่า “ยักษ์ใหญ่” ต้องให้เครดิตกับทีมรับภายใต้ ไมเคิล สเตรแฮน และโอซี ยูเมนยิโอรา ช่วยกันทำลายออฟเฟนด์ซีฟ ไลน์ ของแพทริออตส์ ลงอย่างราบคาบ ไล่กวดไล่กดดันจน ทอม เบรดี เสียไปถึง 5 แซ็ค
ซึ่ง สเตรแฮน ที่คว้าแชมป์ก่อนรีไทร์กล่าว “เราต่างก็รู้อยู่แก่ใจว่าต้องลงไปเก็บ ทอม (เบรดี) ช่วงรับประทานอาหารเช้า โอซี (ยูเมนยิโอรา) มาบอกกับผมว่าถ้าเราไม่สามารถเล่นงาน เบรดี คงไม่สามารถชนะเกมนี้ได้”
ด้วยความเป็นมืออาชีพ เบรดี วัย 30 ปีผู้พา “แพทส์แมน” คว้ามาแล้วถึง 3 ซูเปอร์โบว์ล ให้สัมภาษณ์ยกเครดิตให้คู่ต่อสู้ “ พวกเขามีเกมรับที่ยอดเยี่ยม นิวยอร์ก (ไจแอนท์ส) สร้างความกดดันได้อย่างมาก พวกเขาเร่งจนเราทำคะแนนกันได้ไม่เพียงพอ นี่เป็นสกอร์ต่ำที่สุดในฤดูกาลของ นิวอิงแลนด์ (แพทริออตส์) และนั่นก็ทำให้เราต้องพ่ายแพ้ ”
สำหรับ แพทริออตส์ ชัยชนะ 18 เกมติดต่อกันในฤดูกาลนี้ไม่เพียงพอให้ลูกทีมของ บิลล์ บีลิชิก สร้างประวัติศาสตร์ทำ “เพอร์เฟกต์ ซีซั่น” ทำให้ฤดูกาลอันสมบูรณ์แบบของเหล่า “โลมามหาภัย” ไมอามี ดอลฟินส์ ชุดเถลิงแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 7 แบบไร้พ่าย (17-0 เกม) ยังคงอยู่ต่อไป ด้านของ ทอม คอฟลิน พาทีมไจแอนท์ส สร้างสถิติชนะนอกบ้านติดต่อกัน 11 เกม และก็เป็นไวลด์การ์ดทีมล่าสุดต่อจาก “คนเหล็ก” พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส เมื่อสองปีก่อนที่สามารถฟันฝ่านอกบ้านก่อนขึ้นมาประสบความสำเร็จสูงสุด
ในส่วนของ อีลาย แมนนิง การเดินทางกลับมหานครนิวยอร์กของควอเตอร์แบ็กซึ่งเรตติ้งการขว้างต่ำเป็นลำดับต้นๆ ของลีกในช่วงฤดูกาลปกติ คงสามารถแปรเปลี่ยนเสียงโห่ของแฟนๆ เมื่อต้นซีซั่นมาเป็นคำสรรเสริญเยินยอ ตอนนี้ อีลาย สามารถเดินได้อย่างอกผายไหล่ผึ่งในเมื่อเขามีตำแหน่งแชมป์อยู่ในตู้โชว์เหมือนๆ กับพี่ชาย เพย์ตัน (แมนนิง)
