อีลาย แมนนิง ตามรอยแชมป์ เพย์ตัน แมนนิง พี่ชายได้สำเร็จ เมื่อพาทัพ “ยักษ์ใหญ่” นิวยอร์ก ไจแอนท์ส กลับมาล้ม “เพอร์เฟกต์ ซีซั่น” ของ “นักรบกู้ชาติ” นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ช่วงท้ายเกม 17-14 คะแนน พร้อมกับผงาดคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 42
ที่เกลนเดล , อริโซนา : ทอม เบรดี และพลพรรค นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ เขยิบใกล้แชมป์ซูเปอร์โบว์ล สมัยที่ 4 ในรอบ 7 ปีสุดท้าย แต่ก่อนหมดเวลาแค่ 35 วินาที อีลาย แมนนิง ลูกชายคนสุดท้องของตระกูล “แมนนิง” ขว้างทัชดาวน์เข้ามือ แพล็กซิโก เบอร์เรสส์ เป็นสกอร์คว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ให้ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส
ณ ยูนิเวอร์ซิตี ออฟ ฟีนิกซ์ สเดียม แฟนๆ คนชนคน อเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) แห่แหนเข้ามาชมเกมชิงแชมป์ประเทศเกือบ 75,000 คน และนี่ก็เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่หัวหน้ากรรมการเป็นคนผิวสี ไมค์ แครี ได้รับเกียรติให้ทำหน้าที่ในเกมดังกล่าว ซึ่งการเสี่ยงเหรียญปรากฏว่า ไจแอนท์ส ชนะเลือกบุกก่อน ซึ่งการบุกวิ่งสลับขว้างสั้นเดินเกมอย่างต่อเนื่องกินเวลาถึง 9.59 นาที (รันไดรฟ์นานที่สุดของซุเปอร์โบว์ลในรอบ 41 ปี) แม้จะจบลงที่การเตะฟิลด์โกล 32 หลาของ ลอว์เรนซ์ ไทน์ส 3-0 ก็ถือเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยที่ยอดเยี่ยมสำหรับทีมที่เป็นรองห่างถึง 12 แต้ม ตามหน้าเสื่อของร้านรับพนันถูกกฎหมายในลาสเวกัส
แม้จะโดนทีมรับโดนเฉพาะดีเฟนด์ซีฟ ไลน์ ไล่จี้กดดันทำให้ เบรดี แทบไม่มีโอกาสมองหาปีกแต่ควอเตอร์แบ็กวัย 30 ปีอาศัยประสบการณ์ขว้างเข้าเอ็นด์โซนและ อันโตนิโอ เพียร์ซ กองกลางไจแอนท์สเสียโทษรบกวนปีกให้ เบนจามิน วัตสัน ก่อนที่ ลอว์เรนซ์ มาโรนีย์ จะลงมาวิ่งทะลวงที่เส้นหนึ่งหลาให้ “แพทส์แมน” พลิกขึ้นนำ 7-3 เมื่อเข้าสู่ช่วงต้นควอเตอร์ที่สอง และแล้ว อีลาย (แมนนิง) ก็มาเสียอินเทอร์เซปต์แรกจากความผิดพลาดของ สตีฟ สมิธ ปีกนอกรุคกี้ที่รับบอลกระฉอกไปเข้ามือ เอลลิส ฮ็อบบ์ส อย่างไรก็ตาม เกมรับอันแข็งแกร่งของ ไจแอนท์ส ที่ไล่แซ็คไล่กดดัน เบรดี เป็นว่าเล่นทำให้จบครึ่งแรก “ยักษ์ใหญ่” ยังอยู่ในเกม
หลังจากพักดู “Half Time Shows” ของ ทอม เพ็ตตี้ และเดอะ ฮาร์ทเบรกเกอร์ส ทาง “นักรบกู้ชาติ” ลงมาบุกก่อนในควอเตอร์ที่สาม แต่ลูกทีมของ บิลล์ บีลิชิก ยังแก้ปัญหาไม่ตกกับไล่กดดันควอเตอร์แบ็กและทาง ไจแอนท์ส ก็สามารถยื้อแบบได้ลุ้นถึงควอเตอร์สุดท้าย ก่อนที่ อีลาย จะลงมาเริ่มสร้างเพลย์ขว้างเจาะกลางให้ เควิน บอสส์ จากนั้นขว้างสั้นเข้าเรดโซนให้ สมิธ ก่อนปิดท้ายขว้างทัชดาวน์ 5 หลาให้ เดวิด ไพรี ให้ “ยักษ์ใหญ่” พลิกกลับมานำ 10-7 อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแผนลงไปตั้งรับลึกทำให้ เบรดี มีเวลาหายใจก่อนกระจายขว้างให้ เวส เวลเกอร์ และก็ปิดสกอร์ให้ แรนดี มอสส์ ระยะ 6 หลาก่อนจบเกม 2.42 นาที
โอกาสของ ไจแอนท์ส เริ่มเจอเวลาบีบเข้ามาทุกขณะ อีลาย พยายามดิ้นรนพาทีมคัมแบ็ก แบรนดอน จาค็อบส์ ช่วยวิ่งเปลี่ยนดาวน์ที่ 4 ระยะหนึ่งหลาสำเร็จก่อนที่ อีลาย จะสลัดหลุดการไล่แซ็คก่อนบอมบ์ให้ ไพรี รับระยะ 25 หลา แถมขว้างให้ สมิธ เปลี่ยนดาวน์ที่ 1 ได้อีก และวินาทีแห่งชัยชนะก็มาถึงเมื่อจอมทัพ “ยักษ์ใหญ่” ขว้างหยอด 13 หลาให้ เบอร์เรสส์ ปีกคู่ใจรับในเอ็นด์โซน เบรดี ได้โอกาสในช่วง 35 วินาทีท้ายแต่พา แพทริออตส์ กลับมาไม่สำเร็จ “นิวยอร์ก ไจแอนท์ส” จึงได้ชู “วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี” ประกาศศักดาคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 42 มาครอง
สำหรับผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ในเกมซูเปอร์โบว์ลประจำฤดูกาล 2007/08 ได้แก่ อีลาย (แมนนิง) ทำให้วงศ์ตระกูลถูกจารึกเข้าสู่ประวัติศาสตร์ เพราะเมื่อปีที่ผ่านมา เพย์ตัน (แมนนิง) ก็คว้าเอ็มวีพี หลังพา “เกือกม้า” อินเดียนาโปลิส โคลต์ส ผงาดคว้าแชมป์ด้วยชัยชนะเหนือ “พญาหมี” ชิคาโก แบร์ส 29-17 คะแนน
ด้านของ ไจแอนท์ส นี่ถือเป็นการคว้า “ซูเปอร์โบว์ล” สมัยที่ 3 ของทีมต่อจากปี 1986 และ 1990 ที่น่าชมเชยคือลูกทีมของ ทอม คอฟลิน สร้างสถิติพาทีมชนะนอกบ้านติดต่อกันถึง 11 เกม (รวมเกมชิงแชมป์ที่อริโซนาในเกมนี้) และ “ยักษ์ใหญ่” ก็เป็นทีมไวลด์การ์ดทีมล่าสุดต่อจาก “คนเหล็ก” พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ที่ฟันฝ่าเอาชนะเกมนอกบ้านในเพลย์ออฟก่อนประสบความสำเร็จสูงสุด (สตีลเลอร์ส คว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 40 เมื่อสองปีก่อนด้วยการเอาชนะ ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส)
ขณะที่ แพทริออตส์ เป็นทีมที่ชนะ 18 เกมเป็นสถิติลีก แต่สุดท้าย บีลิชิก และขุนพล “นักรบกู้ชาติ” สร้างเพอร์เฟกต์ซีซั่นกันไม่สำเร็จ ทำให้สถิติฤดูกาลที่สมบูรณ์แบบยังคงอยู่กับทัพ “โลมามหาภัย” ไมอามี ดอลฟินส์ ชุดปี 1972 ที่ทำสถิติชนะทั้ง 17 เกมก่อนผงาดคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 7 ที่เอาชนะ “อินเดียนแดง” วอชิงตัน เรดสกินส์ 14-7 คะแนน
ในส่วนของสถิติทีมที่น่าสนใจในซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 42 ไจแอนท์ส ทำระยะรวมได้ 338 หลา (จากการวิ่ง 91 หลา ขว้าง 247 หลา) ขณะที่ แพทริออตส์ ทำได้รวม 274 หลา (วิ่ง 45 ขว้าง 229) เปลี่ยนดาวน์ที่ 1 "ยักษ์ใหญ่" ทำเร็จ 17 ครั้ง "แพทส์แมน" ทำได้ 21 หน เวลาการครองบอลใกล้เคียงกันยิ่ง ไจแอนท์ส ใช้เวลารวม 30.27 นาที แพทริออตส์ ครองเกม 29.33 นาที
ส่วนสถิติสำคัญๆ ของผู้เล่น อีลาย (แมนนิง) ขว้างเข้าเป้า 19 จาก 34 ครั้งได้ระยะ 255 หลา 2 ทัชดาวน์ 1 อินเทอร์เซปต โดนแซ็คไป 3 หน เบรดี ขว้างเข้ามือเพื่อน 29 จาก 48 ครั้งได้ระยะ 266 หลา 1 ทัชดาวน์ แต่โดนไปถึง 5 แซ็ค ด้าน เวส เวลเกอร์ ปีกร่างเล็ก "แพทสแมน" รับบอลเกมนี้ถึง 11 ครั้ง (มากที่สุดร่วมในประวัติศาสตร์ลีก) ได้ระยะ 103 หลา อมานี ทูเมอร์ ปีกตัวเก๋าไจแอนท์ส รับบอลไป 6 ครั้ง 84 หลา สำหรับเกมการวิ่ง "ยักษ์ใหญ่" ได้ จาค็อบส์ และอาหมัด แบรดชอว์ ช่วยกันไป 87 หลา (จาค็อบส์ 42 แบรดชอว์ 45 หลา) ขณะที่ มาโรนีย์ วิ่งให้ "นักรบกู้ชาติ" ไปแค่ 36 หลาแต่ก็มีหนึ่งสกอร์
สำหรับบทสัมภาษณ์ในเบื้องต้น เบอร์เรสส์ ที่เกมนี้รับบอลแค่ 2 หนได้ระยะ 27 หลาแต่มีหนึ่งสกอร์ที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต ออกมาเผยสั้นๆ กับสำนักข่าวเอพี (AP) " นี่เป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วสำหรับการเป็นนักกีฬาอาชีพ "