คอลัมน์ "Final Quarter" โดย ลุงแซม
ย้อนกลับไปเมื่อกลางปีก่อน ตะหงิดๆ อยู่ในหัวจำได้ว่าเคยทำสกู๊ปเรื่อง “ปิดทองหลังพระ” ของ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส แชมป์บาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ประจำฤดูกาล 2006/07 มาคราวนี้ศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ปรากฏโฉมคู่ชิงชนะเลิศกันแล้ว เราลองมาดูกันในอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถพา นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ หรือ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ขึ้นไปแตะความสำเร็จสูงสุด
นับตั้งแต่ฤดูกาล 2007/08 เปิดฉาก “นักรบกู้ชาติ” นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ อยู่ในสายตาของบรรดาสื่อมวลชนในสหรัฐฯ ลูกทีมของ บิลล์ บีลิชิก ถูกยกให้เป็นเต็งจ๋ามีโอกาสสัมผัสกับ “วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี” มากที่สุด เพราะนอกจากขุมกำลังที่พร้อมพรั่งอยู่ครบครัน ทีมยังอุตสาห์ไปคว้า แรนดี มอสส์ มาเป็นอาวุธทางอากาศให้แก่ ทอม เบรดี แต่หลายคนอาจจะลืมไปว่าการมาของ เวส เวลเกอร์ ปีกร่างเล็กได้ส่งผลอันยิ่งใหญ่ให้กับเฟรนไชส์เช่นกัน
แน่นอนว่า พี่มอสส์ คือเป้าหมายลำดับต้นๆ ที่ บีลิชิก และโค้ชทีมบุก “แพทส์แมน” เรียกใช้บริการในยามส่งแผนให้ เบรดี แต่เมื่อหนทางข้างหน้ามืดมนขยับขวา มอสส์ เจอประกบตายจากตัวคุมปีกคู่แข่ง หันซ้าย ดอนเต สตอลเวิร์ธ อยู่ในสถานการณ์มิแตกต่างกัน ทางเลือกอย่าง เวลเกอร์ อดีตปีกนอก “โลมามหาภัย” ไมอามี ดอลฟินส์ กลับเป็นตัวช่วยที่ได้ผลโดยเฉพาะแผนขว้างสั้นค่อยๆ ตอดกินระยะคู่ต่อสู้ไปเรื่อย
ที่ผ่านมาหลายทีมยังเอาแต่ตามประกบซูเปอร์สตาร์จนลืมไปว่า เวลเกอร์ ทำระยะให้ แพทริออตส์ เป็นกอบเป็นกำเกินหลักพันหลาและการรับลูกวิ่งย้อนหลายๆ ครั้งของเขาก็นำมาซึ่งระยะการบุกที่ง่ายขึ้นสำหรับ เบรดี ดังนั้นถ้าบรรดาแผงไลน์แบ็กเกอร์หรือเซฟตี้ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ไม่ดูแล เวลเกอร์ ให้ดีเหมือนเพื่อนรักไปไหนไป โอกาสโดนทีเด็ดเล็กพริกขี้หนูในซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 42 ที่เกลนเดล อริโซนา มีสูงจริงๆ
นอกเหนือจาก เวลเกอร์ ผมอยากให้เครดิตกับผู้ปิดทองหลังพระอย่าง เควิน ฟอล์ค รันนิงแบ็กประสบการณ์ 9 ปีที่มีแหวนแชมป์ซูเปอร์โบว์ล 3 วงเทียบเท่ากับ เบรดี และบีลิชิก ก่อนหน้านี้ ฟอล์ค เป็นตัววิ่งสำรองให้ คอรีย์ ดิลลอน มาปัจจุบันเขายังคงเป็นแบ็คอัพชั้นดีให้แก่ ลอว์เรนซ์ มาโรนีย์ ในยามที่เพื่อนหาทางไปไม่เจอหรือโค้ชต้องการความแตกต่างทั้งในเกมบุกทางภาคพื้นดินและทางอากาศ ฟอล์ค พร้อมช่วยเสมอ
อย่างในเกมชิงแชมป์สายเอเอฟซี (AFC) ที่ แพทริออตส์ เผชิญหน้ากับ ซานดิอาโก ชาร์จเจอร์ส เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ใช่ มอสส์ หรือ เวลเกอร์ หรอกนะที่รับบอลจาก เบรดี มากที่สุด กลับกลายเป็น ฟอล์ค ที่ฉีกตัวเองมาเป็นทางเลือกให้ควอเตอร์แบ็กส่งบอลระยะสั้นๆ ให้ เกมดังกล่าว ฟอล์ค รับบอลไป 8 ครั้งได้ระยะ 82 หลา แม้ไม่มีชื่อเป็นผู้ทำทัชดาวน์ให้ทีม แต่ถ้าไม่มีบุรุษผู้นี้อาจไม่สามารถการันตีได้ว่า “แพทส์แมน” จะเข้ามาลุ้นแชมป์สมัยที่ 4 ในรอบ 7 ปี
นอกจาก เวลเกอร์ และฟอล์ค แน่นอนว่าผมต้องให้เครดิตกับบรรดาแนวออฟเฟดซีฟ ไลน์ ของแพทริออตส์ อาทิเช่น แม็ตต์ ไลท์ (แท็คเกิล), แดน คอปเปน (เซ็นเตอร์) หรือว่า โลแกน แมนกินส์ ผู้เล่นในตำแหน่งการ์ด ทุกทัชดาวน์ของ เบรดี และการวิ่งทะลุทะลวงของ มาโรนีย์ มาจากการยอมเจ็บตัวของพวกเขาเหล่านี้ทั้งนั้น แม้แฟนๆ จะซื้อ Jersey ติดเบอร์ของเหล่ามนุษย์หินไม่เท่ากับครึ่งหนึ่งของหมายเลข 12 (เบอร์เสื้อ เบรดี) แต่ทุกคนคงไม่น้อยใจและรับทราบถึงบทบาทของตัวเองในการทำงานกันแบบทีมในระบบความเป็นนักกีฬาอาชีพ
ข้ามมาดูทาง “ยักษ์ใหญ่” กันบ้างก่อนที่เนื้อหาในคอลัมน์ตอนนี้จะหมดลง เมื่อพูดถึง ไจแอนท์ส หลายคนคงนึกถึงชื่อของ อีลาย แมนนิง ควอเตอร์แบ็กคนดังและปีกคู่ใจอย่าง แพล็กซิโก เบอร์เรสส์ เป็นลำดับแรก แถมให้อีกสักสองคน เจเรมี ช็อคคี (ปีกใน) และไมเคิล สเตรแฮน (ดีเฟนซีฟ เอนด์)
แต่ต่อจากนี้ผมอยากให้ลองจับตามองการวิ่งย้อนของ โดเมนิค ฮิคสัน ปีกประสบการณ์ 2 ปีให้ดีเพราะตั้งแต่เข้าเพลย์ออฟมา ผมสังเกตเห็นว่า ไจแอนท์ส มีระยะการบุกที่ยอดเยี่ยมจากการวิ่งย้อนของหมอนี่ๆ แหละ ถ้าในซูเปอร์โบว์ล ฮิคสัน ยังทำผลงานของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม ลูกทีมของ ทอม คอฟลิน มีโอกาสพลิกล็อกครั้งใหญ่
อีกจุดหนึ่งที่อยากชื่นชมเป็นการส่งท้ายก็คือ ทีเด็ดในตำแหน่งตัวคุมปีก ปรากฏว่าสามเกมนอกถิ่นของ ไจแอนท์ส ในเพลย์ออฟ อาร์.ดับเบิลยู. แม็คควอเตอร์ส และคอรีย์ เว็บสเตอร์ ช่วยอินเทอร์เซปต์รวมกันถึง 5 หน ย้อนกลับไปเมื่อ 3-4 ปีก่อน อซานเต ซามูเอล เคยแจ้งเกิดกับ แพทริออตส์ มันคงไม่น่าเกลียดอะไรหากทั้ง แม็คควอเตอร์ส และเว็บสเตอร์ ขอสร้างชื่อบ้างหากพา “ยักษ์ใหญ่” ผงาดคว้าแชมป์ประเทศมาครอง
ย้อนกลับไปเมื่อกลางปีก่อน ตะหงิดๆ อยู่ในหัวจำได้ว่าเคยทำสกู๊ปเรื่อง “ปิดทองหลังพระ” ของ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส แชมป์บาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ประจำฤดูกาล 2006/07 มาคราวนี้ศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ปรากฏโฉมคู่ชิงชนะเลิศกันแล้ว เราลองมาดูกันในอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถพา นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ หรือ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ขึ้นไปแตะความสำเร็จสูงสุด
นับตั้งแต่ฤดูกาล 2007/08 เปิดฉาก “นักรบกู้ชาติ” นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ อยู่ในสายตาของบรรดาสื่อมวลชนในสหรัฐฯ ลูกทีมของ บิลล์ บีลิชิก ถูกยกให้เป็นเต็งจ๋ามีโอกาสสัมผัสกับ “วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี” มากที่สุด เพราะนอกจากขุมกำลังที่พร้อมพรั่งอยู่ครบครัน ทีมยังอุตสาห์ไปคว้า แรนดี มอสส์ มาเป็นอาวุธทางอากาศให้แก่ ทอม เบรดี แต่หลายคนอาจจะลืมไปว่าการมาของ เวส เวลเกอร์ ปีกร่างเล็กได้ส่งผลอันยิ่งใหญ่ให้กับเฟรนไชส์เช่นกัน
แน่นอนว่า พี่มอสส์ คือเป้าหมายลำดับต้นๆ ที่ บีลิชิก และโค้ชทีมบุก “แพทส์แมน” เรียกใช้บริการในยามส่งแผนให้ เบรดี แต่เมื่อหนทางข้างหน้ามืดมนขยับขวา มอสส์ เจอประกบตายจากตัวคุมปีกคู่แข่ง หันซ้าย ดอนเต สตอลเวิร์ธ อยู่ในสถานการณ์มิแตกต่างกัน ทางเลือกอย่าง เวลเกอร์ อดีตปีกนอก “โลมามหาภัย” ไมอามี ดอลฟินส์ กลับเป็นตัวช่วยที่ได้ผลโดยเฉพาะแผนขว้างสั้นค่อยๆ ตอดกินระยะคู่ต่อสู้ไปเรื่อย
ที่ผ่านมาหลายทีมยังเอาแต่ตามประกบซูเปอร์สตาร์จนลืมไปว่า เวลเกอร์ ทำระยะให้ แพทริออตส์ เป็นกอบเป็นกำเกินหลักพันหลาและการรับลูกวิ่งย้อนหลายๆ ครั้งของเขาก็นำมาซึ่งระยะการบุกที่ง่ายขึ้นสำหรับ เบรดี ดังนั้นถ้าบรรดาแผงไลน์แบ็กเกอร์หรือเซฟตี้ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ไม่ดูแล เวลเกอร์ ให้ดีเหมือนเพื่อนรักไปไหนไป โอกาสโดนทีเด็ดเล็กพริกขี้หนูในซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 42 ที่เกลนเดล อริโซนา มีสูงจริงๆ
นอกเหนือจาก เวลเกอร์ ผมอยากให้เครดิตกับผู้ปิดทองหลังพระอย่าง เควิน ฟอล์ค รันนิงแบ็กประสบการณ์ 9 ปีที่มีแหวนแชมป์ซูเปอร์โบว์ล 3 วงเทียบเท่ากับ เบรดี และบีลิชิก ก่อนหน้านี้ ฟอล์ค เป็นตัววิ่งสำรองให้ คอรีย์ ดิลลอน มาปัจจุบันเขายังคงเป็นแบ็คอัพชั้นดีให้แก่ ลอว์เรนซ์ มาโรนีย์ ในยามที่เพื่อนหาทางไปไม่เจอหรือโค้ชต้องการความแตกต่างทั้งในเกมบุกทางภาคพื้นดินและทางอากาศ ฟอล์ค พร้อมช่วยเสมอ
อย่างในเกมชิงแชมป์สายเอเอฟซี (AFC) ที่ แพทริออตส์ เผชิญหน้ากับ ซานดิอาโก ชาร์จเจอร์ส เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ใช่ มอสส์ หรือ เวลเกอร์ หรอกนะที่รับบอลจาก เบรดี มากที่สุด กลับกลายเป็น ฟอล์ค ที่ฉีกตัวเองมาเป็นทางเลือกให้ควอเตอร์แบ็กส่งบอลระยะสั้นๆ ให้ เกมดังกล่าว ฟอล์ค รับบอลไป 8 ครั้งได้ระยะ 82 หลา แม้ไม่มีชื่อเป็นผู้ทำทัชดาวน์ให้ทีม แต่ถ้าไม่มีบุรุษผู้นี้อาจไม่สามารถการันตีได้ว่า “แพทส์แมน” จะเข้ามาลุ้นแชมป์สมัยที่ 4 ในรอบ 7 ปี
นอกจาก เวลเกอร์ และฟอล์ค แน่นอนว่าผมต้องให้เครดิตกับบรรดาแนวออฟเฟดซีฟ ไลน์ ของแพทริออตส์ อาทิเช่น แม็ตต์ ไลท์ (แท็คเกิล), แดน คอปเปน (เซ็นเตอร์) หรือว่า โลแกน แมนกินส์ ผู้เล่นในตำแหน่งการ์ด ทุกทัชดาวน์ของ เบรดี และการวิ่งทะลุทะลวงของ มาโรนีย์ มาจากการยอมเจ็บตัวของพวกเขาเหล่านี้ทั้งนั้น แม้แฟนๆ จะซื้อ Jersey ติดเบอร์ของเหล่ามนุษย์หินไม่เท่ากับครึ่งหนึ่งของหมายเลข 12 (เบอร์เสื้อ เบรดี) แต่ทุกคนคงไม่น้อยใจและรับทราบถึงบทบาทของตัวเองในการทำงานกันแบบทีมในระบบความเป็นนักกีฬาอาชีพ
ข้ามมาดูทาง “ยักษ์ใหญ่” กันบ้างก่อนที่เนื้อหาในคอลัมน์ตอนนี้จะหมดลง เมื่อพูดถึง ไจแอนท์ส หลายคนคงนึกถึงชื่อของ อีลาย แมนนิง ควอเตอร์แบ็กคนดังและปีกคู่ใจอย่าง แพล็กซิโก เบอร์เรสส์ เป็นลำดับแรก แถมให้อีกสักสองคน เจเรมี ช็อคคี (ปีกใน) และไมเคิล สเตรแฮน (ดีเฟนซีฟ เอนด์)
แต่ต่อจากนี้ผมอยากให้ลองจับตามองการวิ่งย้อนของ โดเมนิค ฮิคสัน ปีกประสบการณ์ 2 ปีให้ดีเพราะตั้งแต่เข้าเพลย์ออฟมา ผมสังเกตเห็นว่า ไจแอนท์ส มีระยะการบุกที่ยอดเยี่ยมจากการวิ่งย้อนของหมอนี่ๆ แหละ ถ้าในซูเปอร์โบว์ล ฮิคสัน ยังทำผลงานของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม ลูกทีมของ ทอม คอฟลิน มีโอกาสพลิกล็อกครั้งใหญ่
อีกจุดหนึ่งที่อยากชื่นชมเป็นการส่งท้ายก็คือ ทีเด็ดในตำแหน่งตัวคุมปีก ปรากฏว่าสามเกมนอกถิ่นของ ไจแอนท์ส ในเพลย์ออฟ อาร์.ดับเบิลยู. แม็คควอเตอร์ส และคอรีย์ เว็บสเตอร์ ช่วยอินเทอร์เซปต์รวมกันถึง 5 หน ย้อนกลับไปเมื่อ 3-4 ปีก่อน อซานเต ซามูเอล เคยแจ้งเกิดกับ แพทริออตส์ มันคงไม่น่าเกลียดอะไรหากทั้ง แม็คควอเตอร์ส และเว็บสเตอร์ ขอสร้างชื่อบ้างหากพา “ยักษ์ใหญ่” ผงาดคว้าแชมป์ประเทศมาครอง