บาร์นสลีย์ ทีมระดับเดอะ แชมเปี้ยนชิป สร้างเซอร์ไพรส์ครั้งยิ่งใหญ่ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 5 เมื่อวันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ ด้วยการบุกไปสอย ลิเวอร์พูล ถึงถิ่น 2-1 โดย ไบรอัน ฮาวเวิร์ด กองกลางกัปตันทีมซัดประตูชัยในนาทีสุดท้ายของการทดเวลาบาดเจ็บ เขี่ยหงส์แดงตกรอบอย่างเจ็บแสบ
ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 5 วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2551
ลิเวอร์พูล 1 – 2 บาร์นสลีย์
ศึกฟุตบอลถ้วยอันเก่าแก่ของเมืองผู้ดี รอบ 5 ลิเวอร์พูล ทีมจากพรีเมียร์ชิปลงเล่นในสนามแอนฟิลด์ของตัวเองรับการมาเยือนของ บาร์นสลีย์ ทีมระดับเดอะ แชมเปี้ยนชิป เกมนี้เจ้าถิ่นส่งตัวสำรองลงเล่นพอสมควรโดย ชาร์ลส อิต็องด์เช่ ลงเฝ้าเสาแทน โฮเซ่ เรน่า ส่วนมิดฟิลด์คู่กลางใช้ ชาบี อลอนโซ่ กับ ลูคัส เลว่า ขณะที่ ปีเตอร์ เคราช์ และ เดิร์ก เคาท์ รับหน้าที่ล่าตาข่ายคู่กัน
ด้านทีมเยือนมีนักเตะต่างชาติลงสนามมาไม่น้อยนำโดย อันแดร์สัน เดอ ซิลวา, ดีเอโก้ เลออน ขณะที่ ดาเนียล นาร์ดิเอลโล่, อิสต์วาน เฟเรนซี่ และ เดนนิส ซูซ่า เป็น 3 ประสานในแนวรุก
หลังเขี่ยลูกเริ่มเล่นมาได้ 4 นาที โอกาสลุ้นทำประตูครั้งแรกเป็นของหงส์แดง โดย ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ ตัดบอลได้แถวกลางสนามทางฝั่งซ้าย ก่อนลากกินระยะเข้ามาซัดเรียดจากนอกรอบเขตโทษ แต่ก็บดเกินไปลูกจึงไม่เข้ากรอบ จากนั้น 3 นาที อลอนโซ่ ได้กดด้วยซ้ายแถวเส้นเขตโทษ ทว่าบอลถากเสาออกหลัง
ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่า นาทีที่ 17 ยอสซี่ เบนายูน กระดกบอลในเขตโทษให้ เคราช์ ตวัดยิงตามน้ำ ทว่า ลุค สตีล ล้มตัวปัดด้วยมือซ้ายได้อย่างฉิวเฉียด ก่อนที่ บาบเล จะโยกหนีกองหลังทีมเยือนแล้วยิงหักข้อแต่ก็ตรงตัวนายทวารบาร์นสลีย์
นาทีที่ 28 บาร์นสลีย์ เกือบทำแสบใส่หงส์แดงเมื่อ ดาเนียล นาร์ดิเอลโล่ ผ่าน ซามี่ ฮูเปีย ได้ในเขตโทษก่อนซัดมุมแคบด้วยขวา แต่ อิต็องด์เช่ ยังล้มตัวปัดเอาไว้ได้ จากนั้น 2 นาทีเจ้าถิ่นก็แลกหมัดโดย อลอนโซ่ ตัดบอลได้ตรงกลางสนามก่อนพาบอลขึ้นมาปั่นโค้งจากนอกกรอบ ทว่า ลุค สตีล บินปัดสุดปลายมือออกหลังอย่างหวุดหวิด
กระทั่งนาทีที่ 32 ลิเวอร์พูล ก็สามารถเจาะตาข่ายได้สำเร็จจากจังหวะที่ ไรอัน บาเบล อาศัยความเร็วพาบอลกระชากหนีผู้เล่นบาร์นสลีย์ ไปจนสุดเส้นหลังก่อนตบเข้ากลางให้ เคาท์ จับบอลหนึ่งทีแล้วยิงด้วยขวาผ่านมือ สตีล ตุงตาข่ายอย่างใจเย็นให้เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0
แม้ “เจ้าตูบ” จะมีโอกาสลุ้นทำประตูบ้าง แต่จังหวะสุดท้ายของหงส์แดงก็มีความอันตรายกว่า ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ฟินแนน ดันสูงขึ้นมาถึงเส้นหลังฝั่งขวาก่อนตักโด่งเข้ากลางให้ เคราช์ ขึ้นโขกทำท่าจะเสียบเสาแรก แต่ สตีล ยังบินปัดออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ จบ 45 นาทีแรก ลิเวอร์พูล ยังนำอยู่ 1-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง บาร์นสลีย์ ก็มาตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จในนาทีที่ 57 จากจังหวะที่ มาร์ติน เดวานีย์ โยกหนี รีเซ่ ทางด้านขวาก่อนเปิดเข้ามาให้ สตีเฟ่น ฟอสเตอร์ เทกตัวโหม่งผ่านมือ อิต็องด์เช่ ที่ออกมาตัดบอลไม่ถึงเข้าประตูไป จากนั้นนาทีเดียว ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูออกนำอีกครั้งโดย เบนายูน แตะหลบ สตีล เข้าไปยิงได้แล้ว แต่ถูกบล็อกเอาไว้หน้าปากประตู บอลกระดอนเข้าทาง เคราช์ ตามซำอีกที คราวนี้ โรเบิร์ต คอซลัค ยังล้มตัวขวางเอาไว้ได้อีก
เจ้าถิ่นเร่งเครื่องบุกหนักกว่าเดิม นาทีที่ 69 เบนายูน ได้บอลจากการเล่นเตะมุมสั้นแล้วเลื้อยตัดเข้าในเขตโทษก่อนกระทุ้งหวังให้เข้าเสาแรก แต่ สตีล ก็ยังเซฟได้อีกครั้ง กระทั่ง 15 นาทีสุดท้าย ราฟาเอล เบนิเตซ ต้องส่ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ลงมาเพิ่มประสิทธิภาพในแดนกลาง
ทว่าช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย ปาฏิหาริย์ของเอฟเอ คัพ ก็ตามมาเล่นงานหงส์แดง เมื่อ ไบรอัน ฮาวเวิร์ด เก็บบอลได้ก่อน อลอนโซ่ แถวหน้าเขตโทษแล้วล็อกหาจังหวะสับไกด้วยซ้ายส่งบอลพุ่งผ่านมือ อิต็องด์เช่ เข้าเสาแรกอย่างเฉียบขาดเป็นประตูชัยให้ บาร์นสลีย์ บุกมาเอาชนะ ลิเวอร์พูล อย่างเหลือเชื่อ 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ส่วนหงส์แดงกระเด็นตกรอบไปแบบน่าเจ็บใจ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล - ชาร์ลส อิต็องด์เช่, สตีฟ ฟินแนน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ซามี่ ฮูเปีย, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, ยอสซี่ เบนายูน, ชาบี อลอนโซ่, ลูคัส เลว่า, ไรอัน บาเบล, ปีเตอร์ เคราช์, เดิร์ก เคาท์
บาร์นสลีย์ – ลุค สตีล, โรเบิร์ต คอซลัค, สตีเฟ่น ฟอสเตอร์, บ็อบบี้ ฮาสเซลล์, มาร์ติน เดวานีย์, ไบรอัน ฮาวเวิร์ด, อันแดร์สัน เดอ ซิลวา, ดีเอโก้ เลออน, ดาเนียล นาร์ดิเอลโล่, อิสต์วาน เฟเรนซี่, เดนนิส ซูซ่า
ผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 5
บริสตอล โรเวอร์ส ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0
คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-0
เชลซี ชนะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 3-1
โคเวนทรี ซิตี้ แพ้ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 0-5
ลิเวอร์พูล แพ้ บาร์นสลีย์ 1-2
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ อาร์เซนอล 4-0
ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 5 วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2551
ลิเวอร์พูล 1 – 2 บาร์นสลีย์
ศึกฟุตบอลถ้วยอันเก่าแก่ของเมืองผู้ดี รอบ 5 ลิเวอร์พูล ทีมจากพรีเมียร์ชิปลงเล่นในสนามแอนฟิลด์ของตัวเองรับการมาเยือนของ บาร์นสลีย์ ทีมระดับเดอะ แชมเปี้ยนชิป เกมนี้เจ้าถิ่นส่งตัวสำรองลงเล่นพอสมควรโดย ชาร์ลส อิต็องด์เช่ ลงเฝ้าเสาแทน โฮเซ่ เรน่า ส่วนมิดฟิลด์คู่กลางใช้ ชาบี อลอนโซ่ กับ ลูคัส เลว่า ขณะที่ ปีเตอร์ เคราช์ และ เดิร์ก เคาท์ รับหน้าที่ล่าตาข่ายคู่กัน
ด้านทีมเยือนมีนักเตะต่างชาติลงสนามมาไม่น้อยนำโดย อันแดร์สัน เดอ ซิลวา, ดีเอโก้ เลออน ขณะที่ ดาเนียล นาร์ดิเอลโล่, อิสต์วาน เฟเรนซี่ และ เดนนิส ซูซ่า เป็น 3 ประสานในแนวรุก
หลังเขี่ยลูกเริ่มเล่นมาได้ 4 นาที โอกาสลุ้นทำประตูครั้งแรกเป็นของหงส์แดง โดย ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ ตัดบอลได้แถวกลางสนามทางฝั่งซ้าย ก่อนลากกินระยะเข้ามาซัดเรียดจากนอกรอบเขตโทษ แต่ก็บดเกินไปลูกจึงไม่เข้ากรอบ จากนั้น 3 นาที อลอนโซ่ ได้กดด้วยซ้ายแถวเส้นเขตโทษ ทว่าบอลถากเสาออกหลัง
ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่า นาทีที่ 17 ยอสซี่ เบนายูน กระดกบอลในเขตโทษให้ เคราช์ ตวัดยิงตามน้ำ ทว่า ลุค สตีล ล้มตัวปัดด้วยมือซ้ายได้อย่างฉิวเฉียด ก่อนที่ บาบเล จะโยกหนีกองหลังทีมเยือนแล้วยิงหักข้อแต่ก็ตรงตัวนายทวารบาร์นสลีย์
นาทีที่ 28 บาร์นสลีย์ เกือบทำแสบใส่หงส์แดงเมื่อ ดาเนียล นาร์ดิเอลโล่ ผ่าน ซามี่ ฮูเปีย ได้ในเขตโทษก่อนซัดมุมแคบด้วยขวา แต่ อิต็องด์เช่ ยังล้มตัวปัดเอาไว้ได้ จากนั้น 2 นาทีเจ้าถิ่นก็แลกหมัดโดย อลอนโซ่ ตัดบอลได้ตรงกลางสนามก่อนพาบอลขึ้นมาปั่นโค้งจากนอกกรอบ ทว่า ลุค สตีล บินปัดสุดปลายมือออกหลังอย่างหวุดหวิด
กระทั่งนาทีที่ 32 ลิเวอร์พูล ก็สามารถเจาะตาข่ายได้สำเร็จจากจังหวะที่ ไรอัน บาเบล อาศัยความเร็วพาบอลกระชากหนีผู้เล่นบาร์นสลีย์ ไปจนสุดเส้นหลังก่อนตบเข้ากลางให้ เคาท์ จับบอลหนึ่งทีแล้วยิงด้วยขวาผ่านมือ สตีล ตุงตาข่ายอย่างใจเย็นให้เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0
แม้ “เจ้าตูบ” จะมีโอกาสลุ้นทำประตูบ้าง แต่จังหวะสุดท้ายของหงส์แดงก็มีความอันตรายกว่า ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ฟินแนน ดันสูงขึ้นมาถึงเส้นหลังฝั่งขวาก่อนตักโด่งเข้ากลางให้ เคราช์ ขึ้นโขกทำท่าจะเสียบเสาแรก แต่ สตีล ยังบินปัดออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ จบ 45 นาทีแรก ลิเวอร์พูล ยังนำอยู่ 1-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง บาร์นสลีย์ ก็มาตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จในนาทีที่ 57 จากจังหวะที่ มาร์ติน เดวานีย์ โยกหนี รีเซ่ ทางด้านขวาก่อนเปิดเข้ามาให้ สตีเฟ่น ฟอสเตอร์ เทกตัวโหม่งผ่านมือ อิต็องด์เช่ ที่ออกมาตัดบอลไม่ถึงเข้าประตูไป จากนั้นนาทีเดียว ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูออกนำอีกครั้งโดย เบนายูน แตะหลบ สตีล เข้าไปยิงได้แล้ว แต่ถูกบล็อกเอาไว้หน้าปากประตู บอลกระดอนเข้าทาง เคราช์ ตามซำอีกที คราวนี้ โรเบิร์ต คอซลัค ยังล้มตัวขวางเอาไว้ได้อีก
เจ้าถิ่นเร่งเครื่องบุกหนักกว่าเดิม นาทีที่ 69 เบนายูน ได้บอลจากการเล่นเตะมุมสั้นแล้วเลื้อยตัดเข้าในเขตโทษก่อนกระทุ้งหวังให้เข้าเสาแรก แต่ สตีล ก็ยังเซฟได้อีกครั้ง กระทั่ง 15 นาทีสุดท้าย ราฟาเอล เบนิเตซ ต้องส่ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ลงมาเพิ่มประสิทธิภาพในแดนกลาง
ทว่าช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย ปาฏิหาริย์ของเอฟเอ คัพ ก็ตามมาเล่นงานหงส์แดง เมื่อ ไบรอัน ฮาวเวิร์ด เก็บบอลได้ก่อน อลอนโซ่ แถวหน้าเขตโทษแล้วล็อกหาจังหวะสับไกด้วยซ้ายส่งบอลพุ่งผ่านมือ อิต็องด์เช่ เข้าเสาแรกอย่างเฉียบขาดเป็นประตูชัยให้ บาร์นสลีย์ บุกมาเอาชนะ ลิเวอร์พูล อย่างเหลือเชื่อ 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ส่วนหงส์แดงกระเด็นตกรอบไปแบบน่าเจ็บใจ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล - ชาร์ลส อิต็องด์เช่, สตีฟ ฟินแนน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ซามี่ ฮูเปีย, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, ยอสซี่ เบนายูน, ชาบี อลอนโซ่, ลูคัส เลว่า, ไรอัน บาเบล, ปีเตอร์ เคราช์, เดิร์ก เคาท์
บาร์นสลีย์ – ลุค สตีล, โรเบิร์ต คอซลัค, สตีเฟ่น ฟอสเตอร์, บ็อบบี้ ฮาสเซลล์, มาร์ติน เดวานีย์, ไบรอัน ฮาวเวิร์ด, อันแดร์สัน เดอ ซิลวา, ดีเอโก้ เลออน, ดาเนียล นาร์ดิเอลโล่, อิสต์วาน เฟเรนซี่, เดนนิส ซูซ่า
ผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 5
บริสตอล โรเวอร์ส ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0
คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-0
เชลซี ชนะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 3-1
โคเวนทรี ซิตี้ แพ้ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 0-5
ลิเวอร์พูล แพ้ บาร์นสลีย์ 1-2
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ อาร์เซนอล 4-0
