“อินทรีมรกต” ไนจีเรีย ไล่จิกเอาชนะ เบนิน 2-0 พลิกสถานการณ์ตาม “ช้างดำ” ไอวอรี โคสต์ ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกลูกหนังแอฟริกัน เนชันส์ คัพ ได้สำเร็จ
แบร์ตี โฟกส์ท อดีตทีมเชฟทีมชาติเยอรมนีที่มารับงานคุมทัพ “อินทรีมรกต” ไนจีเรีย อยู่ในภาวะคับขันต้องพาทีมบี้เอาชนะ เบนิน ให้ได้ในนัดสุดท้ายรอบแรกของกลุ่มบี หลังจากที่สองนัดเก็บได้แค่แต้มเดียว และที่สำคัญยังต้องลุ้นให้ มาลี ที่มีตุนในกระเป๋า 4 แต้มเสียทีให้ ไอวอรี โคสต์ จ่าฝูงด้วย
โดยเกมนี้ โฟกส์ท มีการปรับทัพให้ ไนจีเรีย ด้วยการส่ง ดิคสัน เอตูฮู, จอห์น อูตากา และอิเคชูควู อูเช ลงมาเติมสีสันในเกมรุกร่วมกับ จอห์น โอบี มิเกล กองกลางจาก เชลซี และยาคูบู อเย็กเบนี หัวหอกตัวเก่งของ เอฟเวอร์ตัน ส่วน โอบาเฟมี มาร์ตินส์ ตัวจี๊ด “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด หลุดไปนั่งเป็นตัวสำรอง
การแข่งขันในครึ่งเวลาแรก “อินทรีมรกต” ไม่พูดพร่ำทำเพลงดาหน้าบุกใส่ เบนิน เป็นชุดๆ ยาคูบู ได้ซัดบริเวณกรอบ 18 หลาแต่บอลหลุดเสาออกไป โยนาส โอเคโตลา กระโดดโขกลูกเตะมุมเต็มหัวแต่ทาง โยอันน์ จิโดนู ยังป้องกันไว้ได้อีกทำให้จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังตรึงอยู่ที่ 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลังเกมมาถึงนาทีที่ 52 แฟนๆ ชาวไนจีเรียนได้เฮกันลั่นสนามเมื่อทีมขึ้นนำ 1-0 จนได้เริ่มจาก ไต ตาอิโว อัดฟรีคิกเข้ากรอบ จิโดนู ปัดไม่พ้นอันตรายและก็เป็น มิเกล ที่ตามโหม่งซ้ำเข้าไป จากนั้น “อินทรีมรกต” ยังดาหน้าบุกใส่เพื่อหาประตูที่สองและก็มาสำเร็จจนได้ก่อนจบเกมแค่ 4 นาทีจาก ยาคูบู หมดเวลาการแข่งขัน ไนจีเรีย กดเอาชนะ เบนิน 2-0
ทำให้ โฟกส์ท พลิกสถานการณ์พา ไนจีเรีย ผ่านเข้าสู่รอบสองได้อย่างหวุดหวิด เนื่องจาก มาลี ปราชัยยับเยินให้ ไอวอรี โคสต์ 0-3 โดย “ช้างดำ” ได้ประตูจาก ดิดิเยร์ ดร็อกบา, มาร์ค โซโร และบูบาการ์ ซาโนโก
จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ ไอวอรี โคสต์ เก็บ 9 คะแนนเต็มจาก 3 นัดเข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่มไปชน กินี ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ขณะที่ ไนจีเรีย ที่เฉือน มาลี เข้ารอบด้วยประตูได้-เสีย (มี 4 แต้มเท่ากัน) เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปเจอกับ “เจ้าภาพ” กานา ต่อไป
แบร์ตี โฟกส์ท อดีตทีมเชฟทีมชาติเยอรมนีที่มารับงานคุมทัพ “อินทรีมรกต” ไนจีเรีย อยู่ในภาวะคับขันต้องพาทีมบี้เอาชนะ เบนิน ให้ได้ในนัดสุดท้ายรอบแรกของกลุ่มบี หลังจากที่สองนัดเก็บได้แค่แต้มเดียว และที่สำคัญยังต้องลุ้นให้ มาลี ที่มีตุนในกระเป๋า 4 แต้มเสียทีให้ ไอวอรี โคสต์ จ่าฝูงด้วย
โดยเกมนี้ โฟกส์ท มีการปรับทัพให้ ไนจีเรีย ด้วยการส่ง ดิคสัน เอตูฮู, จอห์น อูตากา และอิเคชูควู อูเช ลงมาเติมสีสันในเกมรุกร่วมกับ จอห์น โอบี มิเกล กองกลางจาก เชลซี และยาคูบู อเย็กเบนี หัวหอกตัวเก่งของ เอฟเวอร์ตัน ส่วน โอบาเฟมี มาร์ตินส์ ตัวจี๊ด “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด หลุดไปนั่งเป็นตัวสำรอง
การแข่งขันในครึ่งเวลาแรก “อินทรีมรกต” ไม่พูดพร่ำทำเพลงดาหน้าบุกใส่ เบนิน เป็นชุดๆ ยาคูบู ได้ซัดบริเวณกรอบ 18 หลาแต่บอลหลุดเสาออกไป โยนาส โอเคโตลา กระโดดโขกลูกเตะมุมเต็มหัวแต่ทาง โยอันน์ จิโดนู ยังป้องกันไว้ได้อีกทำให้จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังตรึงอยู่ที่ 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลังเกมมาถึงนาทีที่ 52 แฟนๆ ชาวไนจีเรียนได้เฮกันลั่นสนามเมื่อทีมขึ้นนำ 1-0 จนได้เริ่มจาก ไต ตาอิโว อัดฟรีคิกเข้ากรอบ จิโดนู ปัดไม่พ้นอันตรายและก็เป็น มิเกล ที่ตามโหม่งซ้ำเข้าไป จากนั้น “อินทรีมรกต” ยังดาหน้าบุกใส่เพื่อหาประตูที่สองและก็มาสำเร็จจนได้ก่อนจบเกมแค่ 4 นาทีจาก ยาคูบู หมดเวลาการแข่งขัน ไนจีเรีย กดเอาชนะ เบนิน 2-0
ทำให้ โฟกส์ท พลิกสถานการณ์พา ไนจีเรีย ผ่านเข้าสู่รอบสองได้อย่างหวุดหวิด เนื่องจาก มาลี ปราชัยยับเยินให้ ไอวอรี โคสต์ 0-3 โดย “ช้างดำ” ได้ประตูจาก ดิดิเยร์ ดร็อกบา, มาร์ค โซโร และบูบาการ์ ซาโนโก
จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ ไอวอรี โคสต์ เก็บ 9 คะแนนเต็มจาก 3 นัดเข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่มไปชน กินี ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ขณะที่ ไนจีเรีย ที่เฉือน มาลี เข้ารอบด้วยประตูได้-เสีย (มี 4 แต้มเท่ากัน) เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปเจอกับ “เจ้าภาพ” กานา ต่อไป
