“สิงห์บลูส์” เชลซี บุกย้ำชัย “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ถึงถิ่น 1-0 สกอร์รวมสองนัดพิชิตได้ 3-1 กรุยทางเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอล คาร์ลิง คัพ ไปพบกับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ต่อไป
ศึกฟุตบอล คาร์ลิง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง
เอฟเวอร์ตัน 0-1 เชลซี
เดวิด มอยส์ ไม่สามารถส่งทัพ “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ชุดที่ดีที่สุดลงสนามได้ เนื่องจาก โจเซป โยโบ, สตีเวน พีนาร์ และ ยาคูบู อเยกเบนี ติดภารกิจกลับไปช่วยชาติลุยศึกแอฟริกัน เนชันส์ คัพ แต่ทีมยังหวังให้ ทิม เคฮิลล์ และ แอนดี จอห์นสัน พลิกสถานการณ์เข้าชิง ด้าน “สิงห์บลูส์” เชลซี นัดนี้ อัฟราม แกรนท์ ส่ง นิโกลาส์ อเนลกา ลงล่าตาข่าย แต่ก็ขาด แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่เจ็บซ้ำในช่วงซ้อม
เริ่มเกมการแข่งขันแม้สกอร์จะได้เปรียบมาจากนัดแรกที่เอาชนะมา 2-1 แต่ เชลซี ลงมาลุยใส่ เอฟเวอร์ตัน ก่อนทันทีและก็เกือบได้เฮ เมื่อ นิโกลาส์ อเนลกา ได้บอลก่อนแตะต่อให้ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ซัดด้วยขวาในกรอบโทษบอลแฉลบตัว ฟิล จากีลกา ออกหลังไป เกมยังเป็นทีมเยือนที่เดินหน้าเข้าใส่ นาทีที่ 7 ชูเลียโน เบลเลตติ เติมขึ้นมาทางขวาก่อนตัดสินใจล็อกเข้าซ้ายปั่นบอลเฉียดคานออกไปนิดเดียว
ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” ครองเกมสู้ได้ดีขึ้น แต่โอกาสเจาะเข้าทำยังไม่มีให้เห็นแบบจะจะ มีเพียงจังหวะสับไกยิงนอกกรอบของ แอนดี จอห์นสัน แต่บอลก็เฉี่ยวเสาออกไป ทีมเยือนจากมหานครลอนดอนเป็นฝ่ายขึงเกมบุกอีกครั้งเมื่อผ่านครึ่งชั่วโมง และก็ได้ลุ้นยิงบริเวณกรอบโทษจากการซัดด้วยซ้ายของ ฟลอรองต์ มาลูดา แต่บอลยังเหินโด่ง นาทีที่ 38 แฟนๆ เจ้าถิ่นได้ลุ้นบ้าง จอห์นสัน หลุดเข้าไปยิงแฉลบ อเล็กซ์ ออกหลังไป จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังตรึงอยู่ที่ 0-0
เปิดฉากครึ่งหลังไม่ถึงนาที เชลซี น่าจะได้ประตูนำเป็นที่สุด โจ โคล จ่ายบอลให้ อเนลกา สะบัดเกือกข้างขวาซัดบอลแฉลบตัว จากีลกา พุ่งไปชนคานอย่างจังและทาง ทิม ฮาวเวิร์ด ได้แต่ใช้สายตาป้องกันแล้ว ทีมเยือนยังดาหน้าใส่อย่างต่อเนื่อง ไรท์-ฟิลลิปส์ ลากบอลเข้าเขตโทษก่อนจะยิงแต่ทาง โจลีน เลสคอตต์ สอดเท้าเข้ามาบล็อกไว้หวุดหวิด
แต่นาทีที่ 57 เอฟเวอร์ตัน ก็น่าจะได้ประตูเช่นกันจากลูกเตะมุมสั้น มิเกล อาร์เตตา ไหลไปเสาแรกให้ ฟิล เนวิลล์ วิ่งเข้ามากดเต็มๆ ปีเตอร์ เช็ก โชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกมาได้ สองนาทีถัดมานายทวารทีมเยือนต้องออกแรงอีกครั้งใช้เท้าสกัดลูกตวัดยิงของ จากีลกา เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 69 “สิงห์บลูส์” มาตะปบนำ 1-0 เมื่อ มาลูดา เปิดยาวให้ โคล จับบอลลงก่อนซัดทันทีด้วยขวา ฮาวเวิร์ด ปัดได้แค่ปลายมือแต่ด้วยความแรงลูกหนังยังพุ่งเข้าไปตุงตาข่าย
พอเสียประตูไป เดวิด มอยส์ ต้องส่งเอ วิคเตอร์ อนิเชบี ลงมาเสริมเกมรุกทันทีโดยถอด ลี คาร์สลีย์ ซึ่งเป็นกลางตัวรับออกมา และอีกสองนาทีให้หลัง จอห์นสัน ก็ได้โอกาสอัดบอลอีกครั้งแต่ เช็ก ก็ยังไม่พลาด ท้ายเกมเจ้าบ้านพยายามบุกหนักแต่ก็เกือบโดนจังหวะสวนกลับเล่นงานดีที่ ฮาวเวิร์ด บินปัดลูกยิงของ ไรท์-ฟิลลิปส์ พ้นอันตรายไป ครบ 90 นาที เชลซี บุกมาคว้าชัยชนะไปด้วยประตูรวมสองนัด 3-1 เข้าไปป้องกันแชมป์กับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เพื่อนร่วมกรุงลอนดอนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด, ฟิล เนวิลล์, ฟิล จากีลกา, โจลีน เลสคอตต์, นูโน วาเลนเต, มิเกล อาร์เตตา, ลี คาร์สลีย์, มานูเอล เฟอร์นานเดส, ลีออส ออสแมน, ทิม เคฮิลล์, แอนดี จอห์นสัน
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, ชูเลียโน เบลเลตติ, อเล็กซ์, ริคาร์โด คาร์วัลโญ, เวย์น บริดจ์, โคลด มาเกเลเล, สตีฟ ซิดเวลล์, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, โจ โคล, ฟลอรองต์ มาลูดา, นิโกลาส์ อเนลกา
ศึกฟุตบอล คาร์ลิง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง
เอฟเวอร์ตัน 0-1 เชลซี
เดวิด มอยส์ ไม่สามารถส่งทัพ “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ชุดที่ดีที่สุดลงสนามได้ เนื่องจาก โจเซป โยโบ, สตีเวน พีนาร์ และ ยาคูบู อเยกเบนี ติดภารกิจกลับไปช่วยชาติลุยศึกแอฟริกัน เนชันส์ คัพ แต่ทีมยังหวังให้ ทิม เคฮิลล์ และ แอนดี จอห์นสัน พลิกสถานการณ์เข้าชิง ด้าน “สิงห์บลูส์” เชลซี นัดนี้ อัฟราม แกรนท์ ส่ง นิโกลาส์ อเนลกา ลงล่าตาข่าย แต่ก็ขาด แฟรงค์ แลมพาร์ด ที่เจ็บซ้ำในช่วงซ้อม
เริ่มเกมการแข่งขันแม้สกอร์จะได้เปรียบมาจากนัดแรกที่เอาชนะมา 2-1 แต่ เชลซี ลงมาลุยใส่ เอฟเวอร์ตัน ก่อนทันทีและก็เกือบได้เฮ เมื่อ นิโกลาส์ อเนลกา ได้บอลก่อนแตะต่อให้ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ซัดด้วยขวาในกรอบโทษบอลแฉลบตัว ฟิล จากีลกา ออกหลังไป เกมยังเป็นทีมเยือนที่เดินหน้าเข้าใส่ นาทีที่ 7 ชูเลียโน เบลเลตติ เติมขึ้นมาทางขวาก่อนตัดสินใจล็อกเข้าซ้ายปั่นบอลเฉียดคานออกไปนิดเดียว
ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” ครองเกมสู้ได้ดีขึ้น แต่โอกาสเจาะเข้าทำยังไม่มีให้เห็นแบบจะจะ มีเพียงจังหวะสับไกยิงนอกกรอบของ แอนดี จอห์นสัน แต่บอลก็เฉี่ยวเสาออกไป ทีมเยือนจากมหานครลอนดอนเป็นฝ่ายขึงเกมบุกอีกครั้งเมื่อผ่านครึ่งชั่วโมง และก็ได้ลุ้นยิงบริเวณกรอบโทษจากการซัดด้วยซ้ายของ ฟลอรองต์ มาลูดา แต่บอลยังเหินโด่ง นาทีที่ 38 แฟนๆ เจ้าถิ่นได้ลุ้นบ้าง จอห์นสัน หลุดเข้าไปยิงแฉลบ อเล็กซ์ ออกหลังไป จบ 45 นาทีแรกสกอร์ยังตรึงอยู่ที่ 0-0
เปิดฉากครึ่งหลังไม่ถึงนาที เชลซี น่าจะได้ประตูนำเป็นที่สุด โจ โคล จ่ายบอลให้ อเนลกา สะบัดเกือกข้างขวาซัดบอลแฉลบตัว จากีลกา พุ่งไปชนคานอย่างจังและทาง ทิม ฮาวเวิร์ด ได้แต่ใช้สายตาป้องกันแล้ว ทีมเยือนยังดาหน้าใส่อย่างต่อเนื่อง ไรท์-ฟิลลิปส์ ลากบอลเข้าเขตโทษก่อนจะยิงแต่ทาง โจลีน เลสคอตต์ สอดเท้าเข้ามาบล็อกไว้หวุดหวิด
แต่นาทีที่ 57 เอฟเวอร์ตัน ก็น่าจะได้ประตูเช่นกันจากลูกเตะมุมสั้น มิเกล อาร์เตตา ไหลไปเสาแรกให้ ฟิล เนวิลล์ วิ่งเข้ามากดเต็มๆ ปีเตอร์ เช็ก โชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกมาได้ สองนาทีถัดมานายทวารทีมเยือนต้องออกแรงอีกครั้งใช้เท้าสกัดลูกตวัดยิงของ จากีลกา เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 69 “สิงห์บลูส์” มาตะปบนำ 1-0 เมื่อ มาลูดา เปิดยาวให้ โคล จับบอลลงก่อนซัดทันทีด้วยขวา ฮาวเวิร์ด ปัดได้แค่ปลายมือแต่ด้วยความแรงลูกหนังยังพุ่งเข้าไปตุงตาข่าย
พอเสียประตูไป เดวิด มอยส์ ต้องส่งเอ วิคเตอร์ อนิเชบี ลงมาเสริมเกมรุกทันทีโดยถอด ลี คาร์สลีย์ ซึ่งเป็นกลางตัวรับออกมา และอีกสองนาทีให้หลัง จอห์นสัน ก็ได้โอกาสอัดบอลอีกครั้งแต่ เช็ก ก็ยังไม่พลาด ท้ายเกมเจ้าบ้านพยายามบุกหนักแต่ก็เกือบโดนจังหวะสวนกลับเล่นงานดีที่ ฮาวเวิร์ด บินปัดลูกยิงของ ไรท์-ฟิลลิปส์ พ้นอันตรายไป ครบ 90 นาที เชลซี บุกมาคว้าชัยชนะไปด้วยประตูรวมสองนัด 3-1 เข้าไปป้องกันแชมป์กับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เพื่อนร่วมกรุงลอนดอนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด, ฟิล เนวิลล์, ฟิล จากีลกา, โจลีน เลสคอตต์, นูโน วาเลนเต, มิเกล อาร์เตตา, ลี คาร์สลีย์, มานูเอล เฟอร์นานเดส, ลีออส ออสแมน, ทิม เคฮิลล์, แอนดี จอห์นสัน
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, ชูเลียโน เบลเลตติ, อเล็กซ์, ริคาร์โด คาร์วัลโญ, เวย์น บริดจ์, โคลด มาเกเลเล, สตีฟ ซิดเวลล์, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, โจ โคล, ฟลอรองต์ มาลูดา, นิโกลาส์ อเนลกา