xs
xsm
sm
md
lg

ทอฟฟี่-ไก่ฮึดในเวลาก่อนพ่ายโทษควงตกรอบยูฟ่าคัพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน พ่ายจุดโทษ ฟิออเรนตินา ไปอย่างน่าเสียดาย 2-4 แม้ชนะในเวลาปกติ 2-0 เช่นเดียวกับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ที่บุกเฉือน พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ถึงถิ่น 1-0 ก่อนปราชัยในการดวลเป้า 5-6 ตกรอบยูฟ่า คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย

ศึกฟุตบอลยูฟ่า คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง
เอฟเวอร์ตัน (อังกฤษ) 2-0 ฟิออเรนตินา (อิตาลี)
(รวมผลสองนัดเสมอกัน 2-2 หลังต่อเวลา ฟิออฯ ชนะจุดโทษ 4-2)

เดวิด มอยส์ หวังนำ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน กลับมาพลิกสถานการณ์ในถิ่นหลังบุกไปเสียท่า “ม่วงมหากาฬ” ฟิออเรนตินา 0-2 ในนัดแรก โดยนัดนี้เจ้าบ้านขาด ทิม เคฮิลล์ แต่ก็ได้ มิเกล อาร์เตตา มาบัญชาเกมแดนกลาง ขณะที่คู่หน้าฝากความหวังไว้ที่ แอนดรูว์ จอห์นสัน และยาคูบู อเย็กเบนี ด้าน เซซาเร ปรันเดลลี จัดทัพชุดเดิมมาเยือนอังกฤษ แม้จะยังไม่มี อาเดรียน มูตู ลงสนามแต่ก็ฝากความหวังในแดนหน้าไว้กับ คริสเตียน วิเอรี อดีตจอมเก๋าทีมชาติอิตาลี

เริ่มเกมการแข่งขัน เอฟเวอร์ตัน ซึ่งต้องการถึง 3 ประตูในการพลิกสถานการณ์เข้ารอบเดินหน้าลุยใส่ ฟิออเรนตินา ทันที และก็ได้ลุ้นตั้งแต่สองนาทีแรกแต่ลูกยิงไกลของ ลีออน ออสแมน ยังไม่ได้ผล แต่ถึงนาทีที่ 16 แฟนๆ เอฟเวอร์โตเนียนได้เฮกันลั่นนำเมื่อ เซบาสเตียน เฟรย์ ตัดบอลจากการเปิดทางกราบพลาดบอลไปเข้าทางให้ แอนดรูว์ จอห์นสัน ยิงเข้าไปง่ายๆ ให้เจ้าถิ่นนำ 1-0 พอได้ประตูแรกที่ต้องการค่อนข้างเร็ว “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เป็นฝ่ายครองเกมบุกได้อย่างต่อเนื่อง ยาคูบู อเย็กเบนี พยายามเปิดบอลให้ จอห์นสัน เข้ายิงแต่คราวนี้ เฟรย์ ออกมาตัดได้ไม่พลาด

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป มิเกล อาร์เตตา เปิดฟรีคิกให้ ฟิล จากีลกา ขวิดบอลข้ามคานไปนิดเดียว แต่อีกห้านาทีถัดมา ฟิออเรนตินา เกือบได้ประตูตีเสมอเช่นกันเมื่อ คริสเตียน วิเอรี จ่ายให้ มาร์ติน ยอร์เกนเซน ได้ยิงบอลไปตรงตัว ทิม ฮาวเวิร์ด ทว่าก่อนจบครึ่งแรกเจ้าถิ่นได้โอกาสสองหนซ้อนๆ จาก ยาคูบู และจอห์นสัน แต่ลูกโหม่งทั้งสองครั้งไม่เป็นผล ช่วงทดเจ็บ เอฟเวอร์ตัน ส่งลูกหนังตุงตาข่ายแต่ ยาคูบู ที่ซัดเข้าไปดันล้ำหน้าเสียก่อนทำให้จบ 45 นาทีแรกทีมยังนำแค่ประตูเดียว

เปิดฉากครึ่งหลัง “ม่วงมหากาฬ” แก้เกมด้วยการถอด “โบโบ้” วิเอรี ที่โชว์ฟอร์มไม่ออกๆ ไปพร้อมกับส่ง จามเปาโล ปาสซินี มาคอยล่าตาข่ายแทน แต่ยังเป็น เอฟเวอร์ตัน ที่ใช้บอลโด่งเล่นงานทีมเยือนอยู่เป็นระยะและเจ้าบ้านพยายามเรียกร้องเอาจุดโทษเมื่อ “เอเจ” เตะบอลไปโดนแขน โทมัส อูจ์ฟาลูซี แต่ผู้ตัดสินชาวดัตช์มองว่าเป็นบอลทูแฮนด์ ถึงนาทีที่ 66 ความพยายามของเจ้าบ้านมาสัมฤทธิ์ผลนำห่างเป็น 2-0 จากการตะบันด้วยขวาจากนอกกรอบของ อาร์เตตา ส่งบอลกระแทกเสาเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงาม

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ฟิออเรนตินา เกือบทำให้แฟนๆ เจ้าบ้านเป็นลมเมื่อ ปาสซินี ได้โขกจ่อๆ แต่ “ที-โฮ” สวมบทฮีโร่ปัดพ้นคานไปได้หวุดหวิด ท้ายเกมเจ้าบ้านเดินหน้าเพื่อไม่ต้องไปยืดเยื้อในช่วงต่อเวลาพิเศษและ ยาคูบู ก็เกือบเป็นฮีโร่แต่ลูกโหม่งของเขาหลุดกรอบออกไป ครบ 90 นาทีสกอร์รวมสองนัดจบลงที่ 2-2 ต้องต่อเวลาอีก 30 นาที

ซึ่งช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก เอฟเวอร์ตัน เดินเกมได้ดีกว่าแต่จังหวะลุ้นทำประตูมีไม่มากเหมือนช่วงเวลาปกติได้ลุ้นเพียงจังหวะยิงข้ามคานของ ยาคูบู แต่ครึ่งหลัง “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เกือบได้เฮเร็วเมื่อ วิคเตอร์ อนิเชบี กองหน้าตัวสำรองแทงบอลให้ จอห์นสัน หลุดไปแปบอลหวังให้ ยาคูบู เข้าชาร์จแต่โดน อเลสซานโดร กัมเบรินี ตามมาสกัดบอลไปโดนตัว เฟรย์ กระดอนออกไป ท้ายเกม ฟิออเรนตินา ขึ้นมาปั่นป่วนเจ้าถิ่นได้เหมือนกันจาก มาริโอ ซานตานา ตัวสำรองแต่ครบ 120 นาทียิงเพิ่มกันไม่ได้ต้องดวลจุดโทษกัน

ปรากฏว่า “ม่วงมหากาฬ” ออกมายิงสี่คน (ปาสซินี, มอนโตลิโว, ออสวัลโด และซานตานา) ไม่พลาดเลย ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน ยิงก่อนและก็พลาดไปสองคน (ยาคูบู และจากีลกา) ขณะที่ยิงเข้าไปเพียงสองประตูจาก โธมัส กราเวอเซน และอาร์เตตา ทำให้ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” พ่ายไปอย่างเจ็บปวด 2-4 ในการดวลจุดโทษตกรอบไปตามระเบียบ ส่วน ฟิออเรนตินา ทะลุเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายกันต่อไป

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เอฟเวอร์ตัน
: ทิม ฮาวเวิร์ด , ฟิล เนวิลล์ , ฟิล จากีลกา , โจเซป โยโบ , โจลีน เลสคอตต์ , มิเกล อาร์เตตา , ลี คาร์สลีย์ , สตีเวน พีนาร์ , ลีออน ออสแมน , แอนดรูว์ จอห์นสัน , ยาคูบู อเย็กเบนี

ฟิออเรนตินา : เซบาสเตียน เฟรย์ , โทมัส อูจ์ฟาลูซี , ดาริโอ ดายเนลลี , อเลสซานโดร กัมเบรินี , มานูเอล ปาสกวาล , มาร์โก โดนาเดล , ริคคาร์โด มอนโตลิโว , ซดราฟโก คุซมาโนวิช , มาร์ติน ยอร์เกนเซน , คริสเตียน วิเอรี , ปาโบล ออสวัลโด

สรุปผลฟุตบอลยูฟ่า คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง ประจำคืนวันพุธ

เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย) 2-0 โอลิมปิก มาร์กเซย์ (ฝรั่งเศส)
[1-0 : พาเวล โปเกรบเนียค (น.39) , 2-0 : พาเวล โปเกรบเนียค (น.78)]
(รวมผลสองนัดเสมอกัน 3-3 เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก เข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน)

ฮัมบูร์ก (เยอรมนี) 3-2 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน (เยอรมนี)
[0-1 : เซอร์เก บาร์บาเรซ (น.19) , 1-1 : พิโอทอร์ โทรชอว์สกี (น.53) , 1-2 : ธีโอฟานิส เกคัส (น.55) , 2-2 : เปาโล เกอร์เรโร (น.65) , 3-2 : ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท (น.81)]
(รวมผลสองนัดเสมอกัน 3-3 เลเวอร์คูเซน เข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน)

บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี) 1-2 อันเดอร์เลทช์ (เบลเยียม)
[1-0 : ลูซิโอ (น.8) , 1-1 : เซอร์อัต อาคิน (น.20) , 1-2 : อเล็กซานเดร์ อีโคเวนโก (น.35)]
(รวมผลสองนัด บาเยิร์น มิวนิค เข้ารอบด้วยประตูรวม 6-2)

เอฟเวอร์ตัน (อังกฤษ) 2-0 ฟิออเรนตินา (อิตาลี)
[1-0 : แอนดรูว์ จอห์นสัน (น.16) , 2-0 : มิเกล อาร์เตตา (น.66)]
(รวมผลสองนัดเสมอกัน 2-2 หลังต่อเวลาพิเศษ ฟิออเรนตินา ชนะจุดโทษ 4-2)

พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน (ฮอลแลนด์) 0-1 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ (อังกฤษ)
[0-1 : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (น.81)]
(รวมผลสองนัดเสมอกัน 1-1 หลังต่อเวลาพิเศษ ไอนด์โฮเฟน ชนะจุดโทษ 6-5)

เคตาเฟ (สเปน) 1-0 เบนฟิกา (โปรตุเกส)
[1-0 : ฮวน อังเคล อัลบิน (น.77)]
(รวมผลสองนัด เคตาเฟ เข้ารอบด้วยประตูรวม 3-1)
กำลังโหลดความคิดเห็น