“สิงห์บลูส์” เชลซี แม้จะเหลือผู้เล่นในสนามแค่ 10 คน จากการที่ จอห์น โอบี มิเกล โดนไล่ออกจากสนามในครึ่งหลัง แต่แชมป์เก่าสามารถเปิดบ้านเฉือนชนะ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน 2-1 ในศึกฟุตบอลคาร์ลิง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ประจำคืนวันอังคาร
ศึกฟุตบอล คาร์ลิง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
เชลซี 2-1 เอฟเวอร์ตัน
“แชมป์เก่า” เชลซี ประสบปัญหาในการจัดตัวผู้เล่นพอสมควร เนื่องจาก ดิดิเยร์ ดร็อกบา, ซาโลมอน คาลู รวมถึง มิคาเอล เอสเซียง ต้องไปเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเตรียมสู้ศึกแอฟริกัน เนชันส์ คัพ มีเพียง จอห์น โอบี มิเกล ที่ได้รับอนุญาตจากสมาคมลูกหนังไนจีเรียให้ลงสนามได้อยู่ ด้าน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ขาด สตีเวน พีนาร์ ที่ไปเล่นให้แอฟริกาใต้เช่นกัน แต่นัดนี้ผู้เล่นชุดใหญ่คืนสนามหลายคนหลังจากทีมเสียท่าคาถิ่นให้ “หมูชรา” โอลด์แฮม แบบพลิกล็อกในเอฟเอ คัพ รอบสาม เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เริ่มเกมการแข่งขัน เชลซี แม้จะขาดกำลังสำคัญไปหลายราย แต่ก็พยายามดาหน้าเปิดเกมบุกทางริมเส้นทั้งขวาซ้ายแต่ ฌอน-ไรท์ ฟิลลิปส์ และ ฟลอรองต์ มาลูดา รวมถึง โจ โคล ยังไม่สามารถฝ่ากองหลัง เอฟเวอร์ตัน ที่ลงไปตั้งรับกันลึกได้ แต่เจ้าถิ่นก็ได้ลุ้นในนาทีที่ 12 เมื่อ เคลาดิโอ ปิซาร์โร จ่ายบอลให้ ฮูเลียโน เบลเล็ตติ ที่เติมเกมรุกขึ้นมาสับด้วยขวาเต็มๆ แต่บอลเหินข้ามคานออกไป ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรกเป็น “สิงห์บลูส์” ที่ครองบอลเดินเกมบุกได้เกือบทั้งหมดแต่ยังแทบไม่สามารถเจาะกำแพงเกมรับที่หินของ “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” ได้เลย
แต่ถึงนาทีที่ 26 เจ้าบ้านเฮนำ 1-0 จนได้เมื่อ มาลูดา จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ ไรท์-ฟิลลิปส์ ก่อนที่ปีกทีมชาติอังกฤษจัดการปั่นบอลโค้งผ่านมือ ทิม ฮาวเวิร์ด พุ่งกระแทกเสาในเข้าไปตุงตาข่าย จากนั้น เชลซี ได้ใจเปิดเกมบุกอย่างต่อเนื่อง โคล ลากตะลุยขึ้นไปยิงติดเซฟนายทวารทีมเยือน แต่ผู้ตัดสินมาเป่าให้เป็นจังหวะฟาวล์บริเวณเส้นโทษ มิชาเอล บัลลัค อาสาอัดบอลผ่านกำแพงแต่ก็เฉี่ยวเสาออกไปแบบได้ลุ้น ท้ายเกม เอฟเวอร์ตัน เปิดเกมขึ้นมาสู้บ้าง เจมส์ แม็คฟาดเดน แทงต่อให้ โจลีน เลสค็อตต์ เติมขึ้นมากึ่งยิงกึ่งผ่านแต่ติดเซฟของ ฮิลาริโอ จบ 45 นาทีแรกเจ้าถิ่นถือความได้เปรียบ
ลงมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง เอฟเวอร์ตัน มาเปิดหน้าสู้มากขึ้น ทำให้ เชลซี ไม่ได้บุกถล่มอย่างหนักเหมือนกับครึ่งแรก เกมเดินทางมาถึงนาทีที่ 54 “สิงห์บลูส์” ต้องเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน เมื่อ จอห์น โอบี มิเกล เสียบสกัดหนักใส่ ฟิล เนวิลล์ ทำให้ผู้ตัดสิน ปีเตอร์ วอลตัน ชักใบแดงไล่มิดฟิลด์เจ้าบ้านออกจากสนามทันที และนี่ก็เป็นใบแดงที่สองของดาวเตะชาวไนจีเรียน ทว่าอีกสี่นาทีถัดมาเจ้าถิ่นพลาดโอกาสนำห่าง ไรท์-ฟิลลิปส์ แทงทะลุให้ ปิซาร์โร หลุดไปยิงแต่บอลพุ่งไปติดตัว ฮาวเวิร์ด
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป อัฟราม แกรนท์ ต้องแก้เกมให้ เชลซี ด้วยการเติม สตีฟ ซิดเวลล์ มาช่วยแผงกลางและก็ถอด โคล ซึ่งเกมนี้ถูกดันไปเล่นเป็นหน้าต่ำออกมา แต่อีกสี่นาทีถัดมา เอฟเวอร์ตัน ตามตีเสมอ 1-1 จนได้จากจังหวะที่ แม็คฟาดเดน เปิดฟรีคิกให้ โจเซปห์ โยโบ ดีดกลับมาให้ ยาคูบู อเย็กเบนี วอลเลย์ด้วยขวาส่งลูกหนังเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม และจังหวะของเกมกับมาเป็นของทีมเยือน นาทีที่ 68 แม็คฟาดเดน ลากหลบ ริคาร์โด คาร์วัลโญ เข้าไปยิงมุมแคบด้านซ้ายบอลพุ่งไปกระแทกโคนเสาออกหลังไป
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย “สิงห์บลูส์” ยังสู้กันได้ดี และก็เกือบได้ประตูนำอีกครั้ง บัลลัค ตะบันฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลาบอลพุ่งแฉลบหัว ลี คาร์สลีย์ ออกไป แต่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บเจ้าบ้านแม้จะมีตัวผู้เล่นน้อยกว่ากลับพลิกคว้าชัย 2-1 เมื่อ บัลลัค ตวัดบอลเข้าในกรอบโทษ ไรท์-ฟิลลิปส์ กระโดดขึ้นกดดันทำให้ โจลีน เลสค็อตต์ พลาดโหม่งบอลเข้าประตูตัวเอง อย่างไรก็ตาม เอฟเวอร์ตัน เตรียมกลับไปเปิดกูดิสัน ปาร์ค แก้มือกับ เชลซี ในนัดชี้ชะตาอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : เอ็นริเก ฮิลาริโอ, ฮูเลียโน เบลเล็ตติ, อเล็กซ์, ริคาร์โด คาร์วัลโญ, เวย์น บริดจ์, ฌอน-ไรท์ ฟิลลิปส์, มิชาเอล บัลลัค, จอห์น โอบี มิเกล, ฟลอรองต์ มาลูดา, โจ โคล, เคลาดิโอ ปิซาร์โร
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด, โทนี ฮิบเบิร์ต, โจเซปห์ โยโบ, โจลีน เลสค็อตต์, ฟิล เนวิลล์, ทิม เคฮิลล์, ลี คาร์สลีย์, ฟิล จากีลกา, เจมส์ แม็คฟาดเดน, แอนดรูว์ จอห์นสัน, ยาคูบู อเย็กเบนี
ศึกฟุตบอล คาร์ลิง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
เชลซี 2-1 เอฟเวอร์ตัน
“แชมป์เก่า” เชลซี ประสบปัญหาในการจัดตัวผู้เล่นพอสมควร เนื่องจาก ดิดิเยร์ ดร็อกบา, ซาโลมอน คาลู รวมถึง มิคาเอล เอสเซียง ต้องไปเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเตรียมสู้ศึกแอฟริกัน เนชันส์ คัพ มีเพียง จอห์น โอบี มิเกล ที่ได้รับอนุญาตจากสมาคมลูกหนังไนจีเรียให้ลงสนามได้อยู่ ด้าน “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ขาด สตีเวน พีนาร์ ที่ไปเล่นให้แอฟริกาใต้เช่นกัน แต่นัดนี้ผู้เล่นชุดใหญ่คืนสนามหลายคนหลังจากทีมเสียท่าคาถิ่นให้ “หมูชรา” โอลด์แฮม แบบพลิกล็อกในเอฟเอ คัพ รอบสาม เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เริ่มเกมการแข่งขัน เชลซี แม้จะขาดกำลังสำคัญไปหลายราย แต่ก็พยายามดาหน้าเปิดเกมบุกทางริมเส้นทั้งขวาซ้ายแต่ ฌอน-ไรท์ ฟิลลิปส์ และ ฟลอรองต์ มาลูดา รวมถึง โจ โคล ยังไม่สามารถฝ่ากองหลัง เอฟเวอร์ตัน ที่ลงไปตั้งรับกันลึกได้ แต่เจ้าถิ่นก็ได้ลุ้นในนาทีที่ 12 เมื่อ เคลาดิโอ ปิซาร์โร จ่ายบอลให้ ฮูเลียโน เบลเล็ตติ ที่เติมเกมรุกขึ้นมาสับด้วยขวาเต็มๆ แต่บอลเหินข้ามคานออกไป ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรกเป็น “สิงห์บลูส์” ที่ครองบอลเดินเกมบุกได้เกือบทั้งหมดแต่ยังแทบไม่สามารถเจาะกำแพงเกมรับที่หินของ “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” ได้เลย
แต่ถึงนาทีที่ 26 เจ้าบ้านเฮนำ 1-0 จนได้เมื่อ มาลูดา จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ ไรท์-ฟิลลิปส์ ก่อนที่ปีกทีมชาติอังกฤษจัดการปั่นบอลโค้งผ่านมือ ทิม ฮาวเวิร์ด พุ่งกระแทกเสาในเข้าไปตุงตาข่าย จากนั้น เชลซี ได้ใจเปิดเกมบุกอย่างต่อเนื่อง โคล ลากตะลุยขึ้นไปยิงติดเซฟนายทวารทีมเยือน แต่ผู้ตัดสินมาเป่าให้เป็นจังหวะฟาวล์บริเวณเส้นโทษ มิชาเอล บัลลัค อาสาอัดบอลผ่านกำแพงแต่ก็เฉี่ยวเสาออกไปแบบได้ลุ้น ท้ายเกม เอฟเวอร์ตัน เปิดเกมขึ้นมาสู้บ้าง เจมส์ แม็คฟาดเดน แทงต่อให้ โจลีน เลสค็อตต์ เติมขึ้นมากึ่งยิงกึ่งผ่านแต่ติดเซฟของ ฮิลาริโอ จบ 45 นาทีแรกเจ้าถิ่นถือความได้เปรียบ
ลงมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง เอฟเวอร์ตัน มาเปิดหน้าสู้มากขึ้น ทำให้ เชลซี ไม่ได้บุกถล่มอย่างหนักเหมือนกับครึ่งแรก เกมเดินทางมาถึงนาทีที่ 54 “สิงห์บลูส์” ต้องเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน เมื่อ จอห์น โอบี มิเกล เสียบสกัดหนักใส่ ฟิล เนวิลล์ ทำให้ผู้ตัดสิน ปีเตอร์ วอลตัน ชักใบแดงไล่มิดฟิลด์เจ้าบ้านออกจากสนามทันที และนี่ก็เป็นใบแดงที่สองของดาวเตะชาวไนจีเรียน ทว่าอีกสี่นาทีถัดมาเจ้าถิ่นพลาดโอกาสนำห่าง ไรท์-ฟิลลิปส์ แทงทะลุให้ ปิซาร์โร หลุดไปยิงแต่บอลพุ่งไปติดตัว ฮาวเวิร์ด
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป อัฟราม แกรนท์ ต้องแก้เกมให้ เชลซี ด้วยการเติม สตีฟ ซิดเวลล์ มาช่วยแผงกลางและก็ถอด โคล ซึ่งเกมนี้ถูกดันไปเล่นเป็นหน้าต่ำออกมา แต่อีกสี่นาทีถัดมา เอฟเวอร์ตัน ตามตีเสมอ 1-1 จนได้จากจังหวะที่ แม็คฟาดเดน เปิดฟรีคิกให้ โจเซปห์ โยโบ ดีดกลับมาให้ ยาคูบู อเย็กเบนี วอลเลย์ด้วยขวาส่งลูกหนังเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม และจังหวะของเกมกับมาเป็นของทีมเยือน นาทีที่ 68 แม็คฟาดเดน ลากหลบ ริคาร์โด คาร์วัลโญ เข้าไปยิงมุมแคบด้านซ้ายบอลพุ่งไปกระแทกโคนเสาออกหลังไป
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย “สิงห์บลูส์” ยังสู้กันได้ดี และก็เกือบได้ประตูนำอีกครั้ง บัลลัค ตะบันฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลาบอลพุ่งแฉลบหัว ลี คาร์สลีย์ ออกไป แต่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บเจ้าบ้านแม้จะมีตัวผู้เล่นน้อยกว่ากลับพลิกคว้าชัย 2-1 เมื่อ บัลลัค ตวัดบอลเข้าในกรอบโทษ ไรท์-ฟิลลิปส์ กระโดดขึ้นกดดันทำให้ โจลีน เลสค็อตต์ พลาดโหม่งบอลเข้าประตูตัวเอง อย่างไรก็ตาม เอฟเวอร์ตัน เตรียมกลับไปเปิดกูดิสัน ปาร์ค แก้มือกับ เชลซี ในนัดชี้ชะตาอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : เอ็นริเก ฮิลาริโอ, ฮูเลียโน เบลเล็ตติ, อเล็กซ์, ริคาร์โด คาร์วัลโญ, เวย์น บริดจ์, ฌอน-ไรท์ ฟิลลิปส์, มิชาเอล บัลลัค, จอห์น โอบี มิเกล, ฟลอรองต์ มาลูดา, โจ โคล, เคลาดิโอ ปิซาร์โร
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด, โทนี ฮิบเบิร์ต, โจเซปห์ โยโบ, โจลีน เลสค็อตต์, ฟิล เนวิลล์, ทิม เคฮิลล์, ลี คาร์สลีย์, ฟิล จากีลกา, เจมส์ แม็คฟาดเดน, แอนดรูว์ จอห์นสัน, ยาคูบู อเย็กเบนี
