ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติแอฟริกา หรือ แอฟริกัน เนชันส์ คัพ อาจไม่ใช่รายการแข่งขันระดับทีมชาติที่ได้รับความนิยมจากแฟนลูกหนังเทียบเท่ากับฟุตบอลโลก, ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือแม้แต่โคปา อเมริกา แต่ประเด็นที่ทำให้ทัวร์นาเมนต์นี้น่าสนใจก็คือ ผลกระทบที่บรรดาสโมสรต่างๆ โดยเฉพาะในลีกยุโรปจะได้รับจากการปล่อยตัวผู้เล่นให้กลับไปรับใช้ชาติ
จุดเริ่มต้นของปัญหาอยู่ที่ช่วงเวลาจัดการแข่งขันโดยสหพันธ์ฟุตบอลแอฟริกาวางเอาไว้ในเดือนมกราคมต่อด้วยกุมภาพันธ์อันเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของหลายๆ ทีม แทนที่จะกำหนดปฏิทินฟาดแข้งกันหลังเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นช่วงปิดฤดูกาลของลีกยุโรปโดยทั่วไป นำมาซึ่งความปวดเศียรเวียนเกล้าของเหล่าผู้จัดการทีมที่ต้องขาดกำลังสำคัญแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ไปนานนับเดือน
แม้ตารางแข่งขันปีนี้จะถูกกำหนดไว้ในระหว่างวันที่ 20 มกราคม – 10 กุมภาพันธ์ ทว่าเหล่าสโมสรจะต้องปล่อยตัวนักเตะกาฬทวีปกลับคืนสู่เหย้า เพื่อรายงานตัวเข้าแคมป์เก็บตัวกับทีมชาตินับตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป เรียกได้ว่าใครที่กลับไปเล่นให้กับชาติที่ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ก็จะหมดสิทธิ์รับใช้ต้นสังกัดถึง 1 เดือนเต็ม จนอาจกระเทือนต่อการทำอันดับในตารางของสโมสรผู้ว่าจ้าง
เมื่อสำรวจดูแล้วพบว่าหลายทีมในศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ ต่างก็ได้รับผลพวงจากการขาดนักเตะแอฟริกา เริ่มที่จ่าฝูงอย่าง อาร์เซนอล แม้ทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ จะให้ความสำคัญกับระบบมากกว่าตัวผู้เล่น แต่การปราศจาก โคโล ตูเร (ไอวอรีโคสต์) เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวเก่งน่าจะส่งผลกระทบต่อแนวรับไม่น้อย เนื่องจากตัวแทนอย่าง ฟิลิปป์ เซนเดอรอส ยังไม่อาจฝากผีฝากไข้ได้มากนัก นอากจากนั้นจะไม่มี เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ (ไอวอรีโคสต์) กับ อเล็กซ์ ซง (แคเมอรูน) อีก 2 ราย ซึ่งหากเผลอสะดุดเมื่อใดก็อาจถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไม่ได้รับความเสียหายจากศึกเนชันส์คัพแซงหน้าได้ทุกเมื่อ
ขณะที่ทีมในกลุ่มลุ้นแชมป์อย่าง เชลซี ดูจะได้รับผลกระทบรุนแรงมากกว่าใคร เพราะ ดิดิเยร์ ดร็อกบา, ซาโลมง กาลู (ไอวอรีโคสต์), มิชาเอล เอสเซียง (กาน่า) และ จอห์น โอบี มิเกล (ไนจีเรีย) ล้วนแต่เป็นแกนหลักของ อัฟราม แกรนท์ ทั้งสิ้น แม้ในทีมจะมีอะไหล่คอยทดแทน แต่ก็ยังไม่ทรงประสิทธิภาพเช่นในยามที่ทั้ง 4 คนอยู่กันพร้อมหน้า และการที่ยังไม่ได้บทสรุปในการคว้าตัว นิโกลาส์ อเนลก้า จาก โบลตัน วันเดอเรอร์ส มาเสริมแดนหน้าชดเชยการขาดหายไปของ ดร็อกบา บวกกับปัญหานักเตะในทีมบาดเจ็บอีกหลายราย ทำให้น่าติดตามว่าสิงห์บลูส์จะอยู่ในอันดับที่เท่าใดหลังพ้นช่วงศึกชิงแชมป์แอฟริกา
ในส่วนของ ปอร์ทสมัธ ก็เป็นอีกทีมที่ได้รับความเสียหายอย่างชัดเจนจากการปล่อยตัว เอ็นวานโก้ คานู, จอห์น อูตาก้า (ไนจีเรีย), ปาปา บูบา ดิย็อป (เซเนกัล) และ ซัลลีย์ อาลี มุนตารี่ (กาน่า) กลับไปรับใช้ชาติ เพราะที่ผ่านมา ปอมปีย์ สามารถขึ้นมายืนหยัดในกลุ่มหัวตารางได้ก็มาจากการทำผลงานของบรรดาคีย์แมนดังกล่าวกระนั้น แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ ยังพอโล่งใจได้เปลาะหนึ่งเนื่องจากยังมี เบนจานี่ เอ็มวารูวารี ดาวยิงสูงสุดประจำทีมไว้ใช้งานจากการที่ ซิมบับเว ไม่ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายนั่นเอง
สำหรับ เอฟเวอร์ตัน การขาดหายไปของ ยาคูบู อเย็กเบนี่, โจเซฟ โยโบ (ไนจีเรีย) และ สตีเว่น พีนาร์ (แอฟริกาใต้) น่าจะทำให้ เดวิด มอยส์ ต้องปรับแท็กติกอีกไม่น้อยหรือเดินหน้าเข้าไปช็อปปิ้งในตลาดนักเตะ เพราะ 3 คนดังกล่าวต่างก็เป็นตัวหลักที่ช่วยให้ทอฟฟี่สีน้ำเงินโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ ขณะที่ แซม อัลลาไดซ์ ดูจะเป็นกุนซือที่เครียดที่สุดในพรีเมียร์ชิปเวลานี้ เพราะไม่เพียงแต่จะเข็นสาลิกาดงไม่ขึ้นจนเก้าอี้ลุกเป็นไฟแล้ว ยังต้องมาขาด โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ (ไนจีเรีย), เฌเรมี่ เอ็นฌิตั๊ป (แคเมอรูน), อับดูลาย ฟาย, อาบิ๊บ เบย์ (เซเนกัล) ไปพร้อมๆ กับที่มีผู้เล่นขึ้นบัญชีเดี้ยงอยู่อีกพอสมควร และหากดวงถึงฆาตขึ้นมาจริงๆ บางทีอาจได้เห็นบิ๊กแซมเดินเตะฝุ่นหางานใหม่เร็วกว่าที่คิด
ข้ามมาที่ลา ลีกา สเปน บาร์เซโลน่า อยู่ในข่ายที่มีความเสี่ยงอันเนื่องมาจากทัวร์นาเมนต์เนชันส์คัพ โดยในเวลานี้แม้จะรั้งอันดับ 2 ของตาราง แต่ก็มีแต้มตามหลังจ่าฝูงอย่าง รีล มาดริด อยู่ถึง 7 คะแนน เมื่อดูจากผลงานอันกระท่อนกระแท่นในซีซันนี้ของ “เจ้าบุญทุ่ม” บวกกับการควานหาฟอร์มเก่งไม่เจอของ โรนัลดินโญ่ ทำให้การขาดหัวหอกฝีเท้าจัดอย่าง ซามูเอล เอโต้ ไปให้กับ แคเมอรูน ที่เพิ่งปล่อยทีเด็ดด้วยการยิงไกลสุดสวยให้บาร์ซ่าฝัง รีล มายอร์ก้า 2-0 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา น่าจะสร้างความหนักใจให้กับ แฟรงค์ ไรจ์การ์ด ที่พัวพันอยู่กับข่าวเปลี่ยนงานเป็นระยะๆ ไม่น้อย
นอกจาก บาร์เซโลน่า แล้วทีมร่วมลีกกระทิงดุอย่าง เซบีญา ก็เป็นอีกทีมที่ติดร่างแหเดียวกัน แม้ทีมของ มาโนโล่ ฮิเมเนซ จะมีความยืดหยุ่นสูง สามารถหมุนเวียนผู้เล่นในทีมได้ตลอดเวลา แต่การปราศจาก เซย์ดู เกอิต้า, เฟรเดริก กานูเต้ (มาลี) ที่มักถูกส่งลงสนามเป็นประจำก็อาจทำให้ผลงานซึ่งกำลังติดเครื่องต้องสะดุดเอาได้ง่ายๆ และในขณะเดียวกัน อารูน่า โกเน่ (ไอวอรีโคสต์) ก็ไม่สามารถอยู่ทดแทนการขาดไปของ กานูเต้ ได้เช่นกัน
ยังไม่นับรวมลีก เอิง ฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นแหล่งรวมแข้งกาฬทวีปที่ใหญ่ที่สุดลีกหนึ่งในยุโรป จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าจะมีเสียงเรียกร้องให้ศึกแอฟริกัน เนชันส์ คัพ ปรับเปลี่ยนปฏิทินการแข่งขันใหม่ดังมาจากสโมสรที่ได้รับผลกระทบนี้ต่อไปจนกว่าสหพันธ์ฟุตบอลแอฟริกาจะโยกให้มาโรมรันพันตูกันในช่วงซัมเมอร์เหมือนเช่นฟุตบอลโลก, ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือโคปา อเมริกา