“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ออกอาการแผ่วปลายเจอ วีแกน แอธเลติก บุกตามเจ๊า 1-1 ด้าน “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟอร์มสดบุกหักปีก “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-0 พร้อมกับทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 4 ของตารางพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ชิป อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 1-1 วีแกน แอธเลติก
ราฟาเอล เบนิเตซ ต้องการพา “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์คว้าสามคะแนนจาก วีแกน แอธเลติก เพื่อเกาะติดท็อปโฟร์ของตารางต่อไป แต่เกมนี้กุนซือชาวสเปนมีการปรับแท็คติกมาเล่นหอกตัวเป้าซึ่งก็เป็นหน้าที่ของ เฟอร์นานโด ตอร์เรส โดยมี สตีเวน เจอร์ราร์ด ดันขึ้นมาสนับสนุนอยู่ด้านหลัง ด้าน สตีฟ บรูซ มีการเติม เฮมิล เฮสกี ลงล่าตาข่ายร่วมกับ มาร์คัส เบนท์ โดยหวังว่าทีมเยือนจะมีแต้มกลับบ้าน
เริ่มเกมการแข่งขัน ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายครองเกมบุกเข้าใส่เพื่อสามแต้มแต่ช่วง 10 นาทีแรก วีแกน แอธเลติก ยังตั้งรับกันได้อย่างเหนียวแน่นทำให้เจ้าถิ่นต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวของ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ลากเลื้อยเข้าเขตโทษก่อนยิงไปติดบล็อกของ พอล ชาร์เนอร์ ออกหลัง จากลูกเตะมุม แฮร์รี คีเวลล์ โฉบมาโหม่งที่เสาแรกแต่ก็ยังโดน มาริโอ เมลช็อต เคลียร์ออกมาได้
นาทีที่ 13 “เดอะ ค็อป” ต้องเฮเก้อเมื่อ ฮาเวียร์ มาสเชราโน เล่นชิ่งเร็วให้ ตอร์เรส หลุดเข้าไปกระทุ้งบอลตุงตาข่ายแต่ไม่ได้ประตูเนื่องจากผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าดาวยิงทีมชาติสเปนเสียก่อน อีกสี่นาทีถัดมา วีแกน เกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อกองหลังลิเวอร์พูลเคลียร์บอลกันไม่ขาดมาเข้าทางให้ ไมเคิล บราวน์ สะบัดเกือกจากนอกกรอบบอลไซด์ผ่านมือ โฮเซ เรนา แต่ก็หลุดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น
ครึ่งทางของครึ่งแรก “หงส์แดง” ทำเกมได้ต่อเนื่องมากขึ้น มาสเชราโน เติมขึ้นมาเล่นชิ่งกับ ตอร์เรส ก่อนได้โอกาสสับด้วยขวาในกรอบโทษแต่เบาเกินไปไม่เป็นปัญหาสำหรับ คริส เคิร์กแลนด์ อีกสามนาทีถัดมาเจ้าบ้านพลาดโอกาสทองอีกครั้งจากการที่ ตอร์เรส หยอดบอลให้ สตีเวน เจอร์ราร์ด หลุดเข้าไปยิงเหน่งๆ แต่บอลพุ่งไปตรงตัวนายทวารทีมเยือนเสียอีก ท้ายครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นปิดท้ายจากลูกโหม่งของ “เอล นินโญ” แต่บอลก็เหินข้ามคานออกไปจบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังตรึงอยู่ที่ 0-0
ลงมาลุยกันต่อในครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ยังเดินเกมต่อและผ่านไปแค่ 4 นาทีก็ขึ้นนำ 1-0 จนได้จากการที่ เจอร์ราร์ด แทงบอลให้ สตีฟ ฟินแนน ที่เติมเกมบุกขึ้นมาเปิดเข้ากลางให้ ตอร์เรส แปบอลเข้าไปตุงตาข่าย หนึ่งชั่วโมงผ่านไปนักเตะเจ้าถิ่นดูคลายความกดดันลงไปจึงดูผ่อนเกมไปบ้าง แต่ก็เกือบทิ้งห่างไปเช่นกันเมื่อ “สตีวี จี” ได้ยิงจุดโทษแต่ไม่ผ่านการป้องกันของ เคิร์กแลนด์
หลังปล่อยให้เกมเดินไปเรื่อยๆ ลิเวอร์พูล มาเร่งเครื่องอีกครั้งในช่วง 15 นาทีสุดท้าย ตอร์เรส ไหลบอลต่อให้ คีเวลล์ ซัดด้วยอีซ้ายบอลพุ่งออกนอกกรอบไปแบบเฉียดฉิว จังหวะถัดมา ราฟาเอล เบนิเตซ ขยับส่ง ยอสซี เบนายูน ลงมาเสริมเกมรุกริมเส้นแทน คีเวลล์ แต่แล้วถึงนาทีที่ 80 วีแกน กลับตีเสมอเป็น 1-1 เมื่อเกมรับของ “หงส์แดง” สกัดบอลจากลูกฟรีคิกไม่ขาดไปเข้าทางให้ ไตตัส บรัมเบิล ตะบันบอลเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
พอเสียประตู ลิเวอร์พูล ดาหน้าบุกเป็นการใหญ่เพื่อทำประตูขึ้นนำอีกครั้ง เจอร์ราร์ด ได้ส่องไกลจากนอกกรอบ เคิร์กแลนด์ ปัดออกมาเข้าทางมิดฟิลด์กัปตันทีมซ้ำอีกครั้งแต่ก็ยังไปติดบล็อกนายด่านเพื่อนเก่าอีก ห้านาทีสุดท้ายเจ้าบ้านส่ง ปีเตอร์ เคร้าช์ ลงมาเสริมเกมรุกและก็ถอด มาสเชราโน ออกมาแต่ไม่เป็นผลครบ 90 นาทีเสมอกันแบ่งไปทีมละแต้มทำให้ “หงส์แดง” หล่นมาอยู่ในอันดับ 5 มีอยู่ 38 คะแนนจากการลงสนาม 20 นัดโดนทาง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ของตารางแทนโดยมีอยู่ 39 แต้มจาก 21 นัด
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฮเซ เรนา , สตีฟ ฟินแนน , เจมี คาร์ราเกอร์ , อัลวาโร อาร์เบลัว , ฟาบิโอ ออเรลิโอ , เจอร์เมน เพนแนนท์ , ชาบี อลอนโซ , ฮาเวียร์ มาสเชราโน , แฮร์รี คีเวลล์ , สตีเวน เจอร์ราร์ด , เฟอร์นานโด ตอร์เรส
วีแกน : คริส เคิร์กแลนด์ , มาริโอ เมลช็อต , ไตตัส บรัมเบิล , พอล ชาร์เนอร์ , ไรอัน เทย์เลอร์ , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , ไมเคิล บราวน์ , แดนนี แลนซาร์ท , เควิน คิลบาน , มาร์คัส เบนท์ , เอมิล เฮสกี
สรุปผลฟุตบอล พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ประจำคืนวันพุธ
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 0-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
[0-1 : เอลาโน (น.38) , 0-2 : เกลสัน เฟอร์นานเดส (น.76)]
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1-0 ซันเดอร์แลนด์
[1-0 : เบนนี แม็คคาร์ธีย์ (จุดโทษ น.57)]
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 1-0 ดาร์บี้ เคาน์ตี้
[1-0 : สเตลิออส จิอันนาโคปูลอส (น.90)]
ลิเวอร์พูล 1-1 วีแกน แอธเลติก
[1-0 : เฟอร์นานโด ตอร์เรส (น.49) , 1-1 : ไตตัส บรัมเบิล (น.80)]
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ชิป อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 1-1 วีแกน แอธเลติก
ราฟาเอล เบนิเตซ ต้องการพา “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์คว้าสามคะแนนจาก วีแกน แอธเลติก เพื่อเกาะติดท็อปโฟร์ของตารางต่อไป แต่เกมนี้กุนซือชาวสเปนมีการปรับแท็คติกมาเล่นหอกตัวเป้าซึ่งก็เป็นหน้าที่ของ เฟอร์นานโด ตอร์เรส โดยมี สตีเวน เจอร์ราร์ด ดันขึ้นมาสนับสนุนอยู่ด้านหลัง ด้าน สตีฟ บรูซ มีการเติม เฮมิล เฮสกี ลงล่าตาข่ายร่วมกับ มาร์คัส เบนท์ โดยหวังว่าทีมเยือนจะมีแต้มกลับบ้าน
เริ่มเกมการแข่งขัน ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายครองเกมบุกเข้าใส่เพื่อสามแต้มแต่ช่วง 10 นาทีแรก วีแกน แอธเลติก ยังตั้งรับกันได้อย่างเหนียวแน่นทำให้เจ้าถิ่นต้องอาศัยความสามารถเฉพาะตัวของ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ลากเลื้อยเข้าเขตโทษก่อนยิงไปติดบล็อกของ พอล ชาร์เนอร์ ออกหลัง จากลูกเตะมุม แฮร์รี คีเวลล์ โฉบมาโหม่งที่เสาแรกแต่ก็ยังโดน มาริโอ เมลช็อต เคลียร์ออกมาได้
นาทีที่ 13 “เดอะ ค็อป” ต้องเฮเก้อเมื่อ ฮาเวียร์ มาสเชราโน เล่นชิ่งเร็วให้ ตอร์เรส หลุดเข้าไปกระทุ้งบอลตุงตาข่ายแต่ไม่ได้ประตูเนื่องจากผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าดาวยิงทีมชาติสเปนเสียก่อน อีกสี่นาทีถัดมา วีแกน เกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อกองหลังลิเวอร์พูลเคลียร์บอลกันไม่ขาดมาเข้าทางให้ ไมเคิล บราวน์ สะบัดเกือกจากนอกกรอบบอลไซด์ผ่านมือ โฮเซ เรนา แต่ก็หลุดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น
ครึ่งทางของครึ่งแรก “หงส์แดง” ทำเกมได้ต่อเนื่องมากขึ้น มาสเชราโน เติมขึ้นมาเล่นชิ่งกับ ตอร์เรส ก่อนได้โอกาสสับด้วยขวาในกรอบโทษแต่เบาเกินไปไม่เป็นปัญหาสำหรับ คริส เคิร์กแลนด์ อีกสามนาทีถัดมาเจ้าบ้านพลาดโอกาสทองอีกครั้งจากการที่ ตอร์เรส หยอดบอลให้ สตีเวน เจอร์ราร์ด หลุดเข้าไปยิงเหน่งๆ แต่บอลพุ่งไปตรงตัวนายทวารทีมเยือนเสียอีก ท้ายครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นปิดท้ายจากลูกโหม่งของ “เอล นินโญ” แต่บอลก็เหินข้ามคานออกไปจบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังตรึงอยู่ที่ 0-0
ลงมาลุยกันต่อในครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ยังเดินเกมต่อและผ่านไปแค่ 4 นาทีก็ขึ้นนำ 1-0 จนได้จากการที่ เจอร์ราร์ด แทงบอลให้ สตีฟ ฟินแนน ที่เติมเกมบุกขึ้นมาเปิดเข้ากลางให้ ตอร์เรส แปบอลเข้าไปตุงตาข่าย หนึ่งชั่วโมงผ่านไปนักเตะเจ้าถิ่นดูคลายความกดดันลงไปจึงดูผ่อนเกมไปบ้าง แต่ก็เกือบทิ้งห่างไปเช่นกันเมื่อ “สตีวี จี” ได้ยิงจุดโทษแต่ไม่ผ่านการป้องกันของ เคิร์กแลนด์
หลังปล่อยให้เกมเดินไปเรื่อยๆ ลิเวอร์พูล มาเร่งเครื่องอีกครั้งในช่วง 15 นาทีสุดท้าย ตอร์เรส ไหลบอลต่อให้ คีเวลล์ ซัดด้วยอีซ้ายบอลพุ่งออกนอกกรอบไปแบบเฉียดฉิว จังหวะถัดมา ราฟาเอล เบนิเตซ ขยับส่ง ยอสซี เบนายูน ลงมาเสริมเกมรุกริมเส้นแทน คีเวลล์ แต่แล้วถึงนาทีที่ 80 วีแกน กลับตีเสมอเป็น 1-1 เมื่อเกมรับของ “หงส์แดง” สกัดบอลจากลูกฟรีคิกไม่ขาดไปเข้าทางให้ ไตตัส บรัมเบิล ตะบันบอลเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม
พอเสียประตู ลิเวอร์พูล ดาหน้าบุกเป็นการใหญ่เพื่อทำประตูขึ้นนำอีกครั้ง เจอร์ราร์ด ได้ส่องไกลจากนอกกรอบ เคิร์กแลนด์ ปัดออกมาเข้าทางมิดฟิลด์กัปตันทีมซ้ำอีกครั้งแต่ก็ยังไปติดบล็อกนายด่านเพื่อนเก่าอีก ห้านาทีสุดท้ายเจ้าบ้านส่ง ปีเตอร์ เคร้าช์ ลงมาเสริมเกมรุกและก็ถอด มาสเชราโน ออกมาแต่ไม่เป็นผลครบ 90 นาทีเสมอกันแบ่งไปทีมละแต้มทำให้ “หงส์แดง” หล่นมาอยู่ในอันดับ 5 มีอยู่ 38 คะแนนจากการลงสนาม 20 นัดโดนทาง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นไปรั้งอันดับ 4 ของตารางแทนโดยมีอยู่ 39 แต้มจาก 21 นัด
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฮเซ เรนา , สตีฟ ฟินแนน , เจมี คาร์ราเกอร์ , อัลวาโร อาร์เบลัว , ฟาบิโอ ออเรลิโอ , เจอร์เมน เพนแนนท์ , ชาบี อลอนโซ , ฮาเวียร์ มาสเชราโน , แฮร์รี คีเวลล์ , สตีเวน เจอร์ราร์ด , เฟอร์นานโด ตอร์เรส
วีแกน : คริส เคิร์กแลนด์ , มาริโอ เมลช็อต , ไตตัส บรัมเบิล , พอล ชาร์เนอร์ , ไรอัน เทย์เลอร์ , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , ไมเคิล บราวน์ , แดนนี แลนซาร์ท , เควิน คิลบาน , มาร์คัส เบนท์ , เอมิล เฮสกี
สรุปผลฟุตบอล พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ประจำคืนวันพุธ
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 0-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
[0-1 : เอลาโน (น.38) , 0-2 : เกลสัน เฟอร์นานเดส (น.76)]
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1-0 ซันเดอร์แลนด์
[1-0 : เบนนี แม็คคาร์ธีย์ (จุดโทษ น.57)]
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 1-0 ดาร์บี้ เคาน์ตี้
[1-0 : สเตลิออส จิอันนาโคปูลอส (น.90)]
ลิเวอร์พูล 1-1 วีแกน แอธเลติก
[1-0 : เฟอร์นานโด ตอร์เรส (น.49) , 1-1 : ไตตัส บรัมเบิล (น.80)]