แบงก์รัฐใช้จังหวะดอกเบี้ยติดดิน ออกสลากล็อกต้นทุนต่ำ ออมสินยอมออก 5 ปีอีกครั้ง หลังเว้นไประยะหนึ่ง เติมเต็มงวดวันที่ 1 ดอกเบี้ย 1% ต่อปี เทียบฟอร์ม 3 ปีเด่นเรื่องเงินรางวัล ส่วน 5 ปีเด่นเรื่องจำนวนรางวัลที่หมุนหลายครั้ง ขณะที่รางวัลใหญ่ 3 ปีต้องสุ่มเยอะกว่า ด้าน ธ.ก.ส.ออกไปแล้ว 2 รุ่น กล้วยไม้นานาชาติ-ออมทรัพย์ชุดที่ 3 คาดไม่ช้านี้ออกอีกรุ่นรับโครงการจำนำยุ้งฉางของรัฐบาล ต้นปีหน้าอาจได้เห็นสลากธนาคารอาคารสงเคราะห์
คนที่ชอบออมเงินพร้อม ๆ กับการลุ้นโชคของตัวเอง ด้วยช่องทางของสลากออมทรัพย์ผ่านธนาคารของรัฐ ในรอบปี 2559 มีสลากออกมาให้เลือกออมอยู่พอสมควร โดยล่าสุดธนาคารออมสินได้ออกสลากออมสินพิเศษ 5 ปีสู่ตลาดอีกครั้ง หลังจากที่สลากรุ่น 5 ปีนั้นว่างเว้นจากการออกรุ่นใหม่มาระยะหนึ่ง ผู้ที่เคยซื้อสลากรุ่น 5 ปี เมื่อครบกำหนดแล้วต้องการจะซื้อสลากรุ่น 5 ปีต่อต้องเปลี่ยนไปซื้อสลากรุ่น 3 ปีแทน
คำตอบของพนักงานธนาคารออมสินตามสาขาต่าง ๆ ในเวลานั้นคือ ทางสำนักงานใหญ่จะไม่ออกสลากรุ่น 5 ปีอีก มีแค่รุ่น 3 ปีเท่านั้น แต่สุดท้ายนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ได้ตัดสินใจออกสลากรุ่น 5 ปีอีกครั้ง โดยระบุว่าธนาคารออมสินได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ได้รับความนิยมจากผู้ออมอีกประเภทหนึ่ง คือ สลากออมสินพิเศษ 5 ปี โดยปรับปรุงเงื่อนไข เงินรางวัล จำนวนรางวัล รวมถึงอัตราผลตอบแทนหรือดอกเบี้ยให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด โดยจะเปิดรับฝากตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2559 นี้เป็นต้นไป
ออมสินลุ้นครบ 1 และ 16 ของเดือน
สำหรับเงินฝากสลากออมสินพิเศษ งวดใหม่นี้ จะเป็นงวดที่ 508 อายุสลาก 5 ปี รับฝากหน่วยละ 100 บาท (1 หน่วยต่อ 1 หมายเลข) โดยธนาคารฯ กำหนดดอกเบี้ยให้แก่ผู้ฝาก เมื่อฝากครบ 5 ปี ได้รับดอกเบี้ย หน่วยละ 5 บาท ฝากครบ 4 ปี แต่ไม่ครบ 5 ปี ได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 2.50 บาท ฝากครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 4 ปี ได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 1.50 บาท ฝากครบ 2 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี ได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 0.75 บาท ฝากครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 2 ปี ได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 0.25 บาท และฝากครบ 3 เดือน แต่ไม่ครบ 1 ปี จะไม่ได้รับดอกเบี้ย แต่ถ้าหากผู้ฝากไถ่ถอนสลากก่อนครบ 3 เดือน จะถูกหักส่วนลดหน่วยละ 2 บาท
ผลตอบแทนขั้นต่ำเฉลี่ยต่อปี หากฝาก 1 ล้านบาทได้ผลตอบแทน 1.720% ต่อปี และฝาก 10 ล้านบาท ผลตอบแทน 1.792% ต่อปี ซึ่งดอกเบี้ยเงินฝากและรางวัลจะได้รับยกเว้นภาษีสำหรับผู้ฝากที่เป็นบุคคลธรรมดา และสามารถใช้สลากนี้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้กับธนาคารออมสินได้ 95% ของมูลค่าสลาก สามารถโอนกรรมสิทธิ์ให้กันได้ และใช้เป็นหลักประกันการออกหนังสือค้ำประกัน(L/G) ได้
ผู้ฝากจะมีสิทธิ์ลุ้นถูกรางวัลจากการออกรางวัลเลขสลากทุกวันที่ 1 ของเดือน เป็นเวลา 60 เดือนติดต่อกัน รางวัลสูงสุด รางวัลที่ 1 มูลค่าเงินรางวัล 5 ล้านบาท จำนวน 3 รางวัล รางวัลที่ 2-5 และยังมีรางวัลเลขท้าย 6 ตัว รางวัลเลขท้าย 5 ตัว และรางวัลเลขท้าย 4 ตัว
คนที่เคยซื้อสลากออมสินจะทราบดีว่ารุ่น 3 ปี ออกรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน ส่วนรุ่น 5 ปีออกรางวัลทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน ช่วงที่สลาก 5 ปีว่างเว้นไป ทำให้ต้องลุ้นรางวัลเฉพาะวันที่ 16 เท่านั้น ซึ่งหลายคนต้องการลุ้นรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง เหมือนกับสลากกินแบ่งของรัฐบาล เมื่อการออกสลาก 5 ปีออกมาอีกครั้งจึงเท่ากับเป็นการเติมเต็มความต้องการของคนที่ออมเงินผ่านสลาก
สำหรับสลากออมทรัพย์ของธนาคารรัฐจะมีเพียงของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน อย่างของ ธ.ก.ส. ได้ออกสลากออมทรัพย์ทวีสิน ชุดกล้วยไม้นานาชาติ อายุ 3 ปี เริ่มจำหน่ายเมื่อ 18 มีนาคม 2559 หน่วยละ 500 บาท ดอกเบี้ย 12.50 บาท หรือ 0.83% ต่อปี รางวัลที่ 1 มูลค่า 20 ล้านบาท
จากนั้น 19 กันยายน 2559 ธ.ก.ส.ออกสลากออมทรัพย์ชุดที่ 3 หน่วยละ 100 บาท อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 1.25 บาท หรือ 0.417% รางวัลที่ 1 เสี่ยงหมวด 10 ล้านบาท
ขณะที่ธนาคารออมสินมีสลาก 3 ปีที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเป็นงวดที่ 93 หน่วยละ 50 บาท ดอกเบี้ย 0.75 บาทหรือเท่ากับ 0.5% รางวัลที่ 1 กำหนดงวดและหมวดอักษร มูลค่า 10 ล้านบาท และสลาก 5 ปี ที่เปิดจำหน่ายเมื่อ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หน่วยละ 100 บาท ดอกเบี้ย 5 บาท หรือ 1% รางวัลที่ 1 มูลค่า 5 ล้านบาท
แบงก์รัฐออกสลากล็อกดอกเบี้ยต่ำ
นักวางแผนการออมกล่าวว่า ตอนนี้อัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยน่าจะอยู่ที่ระดับต่ำสุดแล้ว เห็นได้จากการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงินที่คงไว้ที่ 1.5% มาเป็นเวลามากกว่า 1 ปี อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกอาจปรับขึ้นได้หากธนาคารสหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ยในต้นปี 2560
ดังนั้นการเร่งออกสลากย่อมทำให้ต้นทุนของธนาคารต่ำลง เห็นได้จากสลากของ ธ.ก.ส.ชุดที่ 3 ขาย 19 กันยายนและปิดการขายไปเมื่อสิ้นเดือนตุลาคม ตัวอัตราดอกเบี้ยถือปรับลดลงอยู่ที่ 0.417% เมื่อเทียบกับชุดกล้วยไม้นานาชาติเมื่อเดือนมีนาคม 0.83% เช่นเดียวกันที่ดอกเบี้ยของสลากออมสิน 3 ปีก็ปรับลงมาเรื่อย ๆ เช่นกัน รวมถึงสลากออมสิน 5 ปี รุ่น 508 ดอกเบี้ย 1% ต่อปี หากเทียบกับรุ่นก่อนหน้า 505-507 ให้ดอกเบี้ย 2.1% ต่อปี นับได้ว่าดอกเบี้ยต่ำกว่ารุ่นก่อน ๆ มาก
การออกสลากในห้วงเวลานี้ย่อมทำให้ธนาคารผู้ออกสลากล็อกต้นทุนของเงินได้ต่ำออกไปอีกอย่างน้อย 3 หรือ 5 ปี ขึ้นกับอายุของตัวสลาก อย่างตอนนี้คงเหลือแค่สลากออมสิน 5 ปีที่เพิ่งเปิดขายใหม่ และ 3 ปีของออมสินที่ขายเรื่อย ๆ ให้ได้ซื้อกัน
ส่วนสลากของ ธ.ก.ส.คงต้องรอรุ่นใหม่ที่จะออกมา คาดว่าอีกไม่นาน เนื่องจากทาง ธ.ก.ส. รับผิดชอบโครงการสินเชื่อชะลอขายข้าว หรือจะเรียกว่ารับจำนำยุ้งฉาง ตามนโยบายของรัฐบาล และอาจมีพืชเกษตรอื่น ๆ ที่รัฐอาจเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องราคาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ดังนั้นทาง ธ.ก.ส. ย่อมจำเป็นต้องเพิ่มสภาพคล่องเพื่อมารองรับโครงการดังกล่าว
อย่างตอนนี้ตัวดอกเบี้ยคงไม่ปรับลดลงไปจากรุ่นก่อนหน้านี้มากนัก เนื่องจากดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ทรงตัว ดังนั้นสลากรุ่นใหม่ ๆ ที่จะออกมาดอกเบี้ยคงไม่ปรับต่ำไปกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ นั่นหมายความว่าผู้ที่ซื้อสลากต้องยอมรับกับดอกเบี้ยที่ได้ ที่เหลือไปวัดกันที่โชคของแต่ละคน
สถานการณ์ดอกเบี้ยต่ำที่เป็นกันทั้งโลกอย่างนี้ แม้จะมีช่องทางอื่นของการออมที่อาจให้ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยสูงกว่าสลาก เช่น เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 8 เดือน ของธนาคารออมสิน ให้ดอกเบี้ย 1.30% ต่อปี ไม่เสียภาษี เปิดรับฝาก 1 พฤศจิกายนถึง 30 ธันวาคม 2559 แต่ผลตอบรับของสลากก็ยังได้รับความนิยม อย่างสลาก ธ.ก.ส. ชุดที่ 3 วงเงิน 6 หมื่นล้านบาทก็ปิดการขายไปช่วงสิ้นเดือนตุลาคม ส่วนสลาก 5 ปีของธนาคารออมสินก็ขายเพียง 6 หมื่นล้านบาทเช่นกัน หากขายได้ครบก็จะปิดการขาย
ปีหน้าได้เห็นสลาก ธอส.
อย่างไรก็ตามนอกจากสลากออมทรัพย์ของทั้ง ธ.ก.ส.และธนาคารออมสินแล้ว อีกไม่นานจะมีสลากออมทรัพย์ของธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ออกมา ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านความเห็นชอบและอยู่ในขั้นตอนของการแก้ไขพระราชบัญญัติธนาคารอาคารสงเคราะห์ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในเบื้องต้นวงเงินในการออกสลาก 3 หมื่นล้านบาทและคาดว่าในต้นปี 2560 น่าจะสามารถออกสลากได้
หากสลากของ ธอส. ออกมาเสนอขายต่อผู้ที่สนใจก็จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง นอกเหนือจาก 2 รายเดิมที่มีอยู่ แต่คงต้องรอดูรายละเอียดเรื่องของดอกเบี้ยและรางวัลอีกครั้งว่าจะออกมาน่าสนใจหรือไม่ แต่คาดว่าสลากของ ธอส. ไม่น่าจะแตกต่างไปจากสลากของ ธ.ก.ส.และของออมสินมากนัก เพราะหากให้ดอกเบี้ยหรือให้รางวัลที่สูงกว่า ย่อมทำให้ต้นทุนในการระดมเงินสูงกว่าตามไปด้วย
ในการซื้อสลากหากต้องการถูกเลขท้ายทุกงวดต้องใช้วงเงินในการซื้อที่ค่อนข้างสูง ยกตัวอย่างสลากที่เปิดขายในขณะนี้คือของธนาคารออมสินมีรุ่น 5 ปีและ 3 ปีให้เลือก ราคา 100 บาทและ 50 บาทต่อหน่วย ดอกเบี้ย 1% และ 0.5% ต่อปี (ถือครบอายุ)
รางวัลที่ 1 หมุน 3 ครั้งเหมือนกัน แต่สลาก 5 ปีได้รางวัลละ 5 ล้านบาท แต่ 3 ปีได้รางวัลละ 10 ล้านบาท และรุ่น 3 ปีมีรางวัลต่างหมวดของรางวัลที่ 1 ให้ 1 หมื่นบาท ส่วนรางวัลที่ 2 สลาก 5 ปีหมุน 5 ครั้ง รางวัลละ 1 แสนบาท สลาก 3 ปีหมุนแค่ 2 ครั้ง แต่รางวัลละ 1 ล้านบาท ดังนั้นรางวัลของรุ่น 3 ปีจะได้รับสูงกว่ารุ่น 5 ปี
ทั้งนี้รางวัลที่ 1 และ 2 ของทั้ง 2 รุ่น จะมีการกำหนดงวดและหมวดอักษร โดยจำนวนงวดและหมวดอักษรของสลาก 3 ปีจะมีมากกว่ารุ่น 5 ปีอยู่มาก
รางวัลที่ 3 สลาก 5 ปีหมุน 5 ครั้ง รางวัลละ 1 หมื่นบาท สลาก 3 ปี หมุน 2 ครั้ง รางวัลละ 2 หมื่นบาท รางวัลที่ 4 สลาก 5 ปีหมุน 10 ครั้ง รางวัลละ 5 พันบาท สลาก 3 ปีหมุน 5 ครั้ง รางวัลละ 1 หมื่นบาท และรางวัลที่ 5 สลาก 5 ปีหมุน 20 ครั้ง รางวัลละ 1,500 บาท สลาก 3 ปีหมุน 10 ครั้ง รางวัลละ 5 พันบาท
รางวัลเลขท้าย 6 ตัว 5 ตัวของทั้ง 2 รุ่น หมุนเท่ากันคือ 2 ครั้ง ส่วนเลขท้าย 4 ตัวสลาก 5 ปีหมุน 4 ครั้ง สลาก 3 ปีหมุน 2 ครั้ง แต่เงินรางวัลเท่ากัน คือ 400, 300 และ 150 บาท
จุดเด่น-จุดด้อย 5 ปี 3 ปี
ผู้ที่ต้องการซื้อสลากต้องเปรียบเทียบเรื่องตัวของรางวัลด้วย หลายคนพอทราบกันว่าซื้อ 5 แสนบาทจะถูกเลขท้าย 4 ตัวทุกงวด ส่วนโอกาสของการถูกรางวัลอื่น เช่น รางวัลที่ 3, 4 และ 5 นั้น หากดูเฉพาะตัวรางวัล 3 ปีให้มากกว่า แต่ธนาคารได้เพิ่มจุดเด่นให้กับสลาก 5 ปีด้วยการเพิ่มการหมุนให้มากกว่ารุ่น 3 ปี 1 เท่าตัว เพิ่มโอกาสในการถูกรางวัลมากกว่า แต่ได้เงินรางวัลน้อยกว่า
เช่นเดียวกับรางวัลที่ 2 รุ่น 5 ปีหมุน 5 ครั้ง รางวัลละ 1 แสน แต่ 3 ปี หมุน 2 ครั้งแต่ให้รางวัลละ 1 ล้าน ยิ่งเมื่อพิจารณารางวัลที่ 1 หมุน 3 ครั้งเท่ากัน เงินรางวัลต่างกัน 1 เท่าตัวคือ 5 ล้านกับ 10 ล้าน แต่อย่าลืมว่าทั้งรางวัลที่ 1 และ 2 จะมีการสุ่มงวดและหมวดอักษร ที่ผ่านมาสลาก 5 ปีออกมาไม่มากนัก และไม่ได้ออกต่อเนื่อง ดังนั้นงวดที่ออกจึงมีน้อยกว่ารุ่น 3 ปีเป็นอย่างมาก ต่างจากรุ่น 3 ปีที่จะออกมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจำนวนงวดและหมวดอักษรจึงมีมากกว่าสลากรุ่น 5 ปีมากพอควร โอกาสของรุ่น 3 ปีจึงค่อนข้างยากกว่า
ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับโชคของแต่ละท่านว่าจะสมพงศ์กับสลากรุ่นใด เพราะถึงอย่างไรธนาคารผู้ออกสลากก็ต้องวางจุดเด่น ลบจุดด้อยของสลากแต่ละรุ่นไว้หมดแล้ว ขึ้นอยู่กับผู้ที่ต้องการออมเงินเองว่าสนใจรุ่นใด คนที่ชอบลุ้นรางวัลก็มักจะต้องการตรวจสอบโชคของตัวเองเหมือนกับวันที่สลากกินแบ่งของรัฐบาลออกคือ 1 และ 16 ของทุกเดือน
คนที่ชอบออมเงินพร้อม ๆ กับการลุ้นโชคของตัวเอง ด้วยช่องทางของสลากออมทรัพย์ผ่านธนาคารของรัฐ ในรอบปี 2559 มีสลากออกมาให้เลือกออมอยู่พอสมควร โดยล่าสุดธนาคารออมสินได้ออกสลากออมสินพิเศษ 5 ปีสู่ตลาดอีกครั้ง หลังจากที่สลากรุ่น 5 ปีนั้นว่างเว้นจากการออกรุ่นใหม่มาระยะหนึ่ง ผู้ที่เคยซื้อสลากรุ่น 5 ปี เมื่อครบกำหนดแล้วต้องการจะซื้อสลากรุ่น 5 ปีต่อต้องเปลี่ยนไปซื้อสลากรุ่น 3 ปีแทน
คำตอบของพนักงานธนาคารออมสินตามสาขาต่าง ๆ ในเวลานั้นคือ ทางสำนักงานใหญ่จะไม่ออกสลากรุ่น 5 ปีอีก มีแค่รุ่น 3 ปีเท่านั้น แต่สุดท้ายนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ได้ตัดสินใจออกสลากรุ่น 5 ปีอีกครั้ง โดยระบุว่าธนาคารออมสินได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ได้รับความนิยมจากผู้ออมอีกประเภทหนึ่ง คือ สลากออมสินพิเศษ 5 ปี โดยปรับปรุงเงื่อนไข เงินรางวัล จำนวนรางวัล รวมถึงอัตราผลตอบแทนหรือดอกเบี้ยให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด โดยจะเปิดรับฝากตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2559 นี้เป็นต้นไป
ออมสินลุ้นครบ 1 และ 16 ของเดือน
สำหรับเงินฝากสลากออมสินพิเศษ งวดใหม่นี้ จะเป็นงวดที่ 508 อายุสลาก 5 ปี รับฝากหน่วยละ 100 บาท (1 หน่วยต่อ 1 หมายเลข) โดยธนาคารฯ กำหนดดอกเบี้ยให้แก่ผู้ฝาก เมื่อฝากครบ 5 ปี ได้รับดอกเบี้ย หน่วยละ 5 บาท ฝากครบ 4 ปี แต่ไม่ครบ 5 ปี ได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 2.50 บาท ฝากครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 4 ปี ได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 1.50 บาท ฝากครบ 2 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี ได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 0.75 บาท ฝากครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 2 ปี ได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 0.25 บาท และฝากครบ 3 เดือน แต่ไม่ครบ 1 ปี จะไม่ได้รับดอกเบี้ย แต่ถ้าหากผู้ฝากไถ่ถอนสลากก่อนครบ 3 เดือน จะถูกหักส่วนลดหน่วยละ 2 บาท
ผลตอบแทนขั้นต่ำเฉลี่ยต่อปี หากฝาก 1 ล้านบาทได้ผลตอบแทน 1.720% ต่อปี และฝาก 10 ล้านบาท ผลตอบแทน 1.792% ต่อปี ซึ่งดอกเบี้ยเงินฝากและรางวัลจะได้รับยกเว้นภาษีสำหรับผู้ฝากที่เป็นบุคคลธรรมดา และสามารถใช้สลากนี้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้กับธนาคารออมสินได้ 95% ของมูลค่าสลาก สามารถโอนกรรมสิทธิ์ให้กันได้ และใช้เป็นหลักประกันการออกหนังสือค้ำประกัน(L/G) ได้
ผู้ฝากจะมีสิทธิ์ลุ้นถูกรางวัลจากการออกรางวัลเลขสลากทุกวันที่ 1 ของเดือน เป็นเวลา 60 เดือนติดต่อกัน รางวัลสูงสุด รางวัลที่ 1 มูลค่าเงินรางวัล 5 ล้านบาท จำนวน 3 รางวัล รางวัลที่ 2-5 และยังมีรางวัลเลขท้าย 6 ตัว รางวัลเลขท้าย 5 ตัว และรางวัลเลขท้าย 4 ตัว
คนที่เคยซื้อสลากออมสินจะทราบดีว่ารุ่น 3 ปี ออกรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน ส่วนรุ่น 5 ปีออกรางวัลทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน ช่วงที่สลาก 5 ปีว่างเว้นไป ทำให้ต้องลุ้นรางวัลเฉพาะวันที่ 16 เท่านั้น ซึ่งหลายคนต้องการลุ้นรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง เหมือนกับสลากกินแบ่งของรัฐบาล เมื่อการออกสลาก 5 ปีออกมาอีกครั้งจึงเท่ากับเป็นการเติมเต็มความต้องการของคนที่ออมเงินผ่านสลาก
สำหรับสลากออมทรัพย์ของธนาคารรัฐจะมีเพียงของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน อย่างของ ธ.ก.ส. ได้ออกสลากออมทรัพย์ทวีสิน ชุดกล้วยไม้นานาชาติ อายุ 3 ปี เริ่มจำหน่ายเมื่อ 18 มีนาคม 2559 หน่วยละ 500 บาท ดอกเบี้ย 12.50 บาท หรือ 0.83% ต่อปี รางวัลที่ 1 มูลค่า 20 ล้านบาท
จากนั้น 19 กันยายน 2559 ธ.ก.ส.ออกสลากออมทรัพย์ชุดที่ 3 หน่วยละ 100 บาท อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 1.25 บาท หรือ 0.417% รางวัลที่ 1 เสี่ยงหมวด 10 ล้านบาท
ขณะที่ธนาคารออมสินมีสลาก 3 ปีที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเป็นงวดที่ 93 หน่วยละ 50 บาท ดอกเบี้ย 0.75 บาทหรือเท่ากับ 0.5% รางวัลที่ 1 กำหนดงวดและหมวดอักษร มูลค่า 10 ล้านบาท และสลาก 5 ปี ที่เปิดจำหน่ายเมื่อ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หน่วยละ 100 บาท ดอกเบี้ย 5 บาท หรือ 1% รางวัลที่ 1 มูลค่า 5 ล้านบาท
แบงก์รัฐออกสลากล็อกดอกเบี้ยต่ำ
นักวางแผนการออมกล่าวว่า ตอนนี้อัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยน่าจะอยู่ที่ระดับต่ำสุดแล้ว เห็นได้จากการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงินที่คงไว้ที่ 1.5% มาเป็นเวลามากกว่า 1 ปี อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกอาจปรับขึ้นได้หากธนาคารสหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ยในต้นปี 2560
ดังนั้นการเร่งออกสลากย่อมทำให้ต้นทุนของธนาคารต่ำลง เห็นได้จากสลากของ ธ.ก.ส.ชุดที่ 3 ขาย 19 กันยายนและปิดการขายไปเมื่อสิ้นเดือนตุลาคม ตัวอัตราดอกเบี้ยถือปรับลดลงอยู่ที่ 0.417% เมื่อเทียบกับชุดกล้วยไม้นานาชาติเมื่อเดือนมีนาคม 0.83% เช่นเดียวกันที่ดอกเบี้ยของสลากออมสิน 3 ปีก็ปรับลงมาเรื่อย ๆ เช่นกัน รวมถึงสลากออมสิน 5 ปี รุ่น 508 ดอกเบี้ย 1% ต่อปี หากเทียบกับรุ่นก่อนหน้า 505-507 ให้ดอกเบี้ย 2.1% ต่อปี นับได้ว่าดอกเบี้ยต่ำกว่ารุ่นก่อน ๆ มาก
การออกสลากในห้วงเวลานี้ย่อมทำให้ธนาคารผู้ออกสลากล็อกต้นทุนของเงินได้ต่ำออกไปอีกอย่างน้อย 3 หรือ 5 ปี ขึ้นกับอายุของตัวสลาก อย่างตอนนี้คงเหลือแค่สลากออมสิน 5 ปีที่เพิ่งเปิดขายใหม่ และ 3 ปีของออมสินที่ขายเรื่อย ๆ ให้ได้ซื้อกัน
ส่วนสลากของ ธ.ก.ส.คงต้องรอรุ่นใหม่ที่จะออกมา คาดว่าอีกไม่นาน เนื่องจากทาง ธ.ก.ส. รับผิดชอบโครงการสินเชื่อชะลอขายข้าว หรือจะเรียกว่ารับจำนำยุ้งฉาง ตามนโยบายของรัฐบาล และอาจมีพืชเกษตรอื่น ๆ ที่รัฐอาจเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องราคาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ดังนั้นทาง ธ.ก.ส. ย่อมจำเป็นต้องเพิ่มสภาพคล่องเพื่อมารองรับโครงการดังกล่าว
อย่างตอนนี้ตัวดอกเบี้ยคงไม่ปรับลดลงไปจากรุ่นก่อนหน้านี้มากนัก เนื่องจากดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ทรงตัว ดังนั้นสลากรุ่นใหม่ ๆ ที่จะออกมาดอกเบี้ยคงไม่ปรับต่ำไปกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ นั่นหมายความว่าผู้ที่ซื้อสลากต้องยอมรับกับดอกเบี้ยที่ได้ ที่เหลือไปวัดกันที่โชคของแต่ละคน
สถานการณ์ดอกเบี้ยต่ำที่เป็นกันทั้งโลกอย่างนี้ แม้จะมีช่องทางอื่นของการออมที่อาจให้ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยสูงกว่าสลาก เช่น เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 8 เดือน ของธนาคารออมสิน ให้ดอกเบี้ย 1.30% ต่อปี ไม่เสียภาษี เปิดรับฝาก 1 พฤศจิกายนถึง 30 ธันวาคม 2559 แต่ผลตอบรับของสลากก็ยังได้รับความนิยม อย่างสลาก ธ.ก.ส. ชุดที่ 3 วงเงิน 6 หมื่นล้านบาทก็ปิดการขายไปช่วงสิ้นเดือนตุลาคม ส่วนสลาก 5 ปีของธนาคารออมสินก็ขายเพียง 6 หมื่นล้านบาทเช่นกัน หากขายได้ครบก็จะปิดการขาย
ปีหน้าได้เห็นสลาก ธอส.
อย่างไรก็ตามนอกจากสลากออมทรัพย์ของทั้ง ธ.ก.ส.และธนาคารออมสินแล้ว อีกไม่นานจะมีสลากออมทรัพย์ของธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ออกมา ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านความเห็นชอบและอยู่ในขั้นตอนของการแก้ไขพระราชบัญญัติธนาคารอาคารสงเคราะห์ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในเบื้องต้นวงเงินในการออกสลาก 3 หมื่นล้านบาทและคาดว่าในต้นปี 2560 น่าจะสามารถออกสลากได้
หากสลากของ ธอส. ออกมาเสนอขายต่อผู้ที่สนใจก็จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง นอกเหนือจาก 2 รายเดิมที่มีอยู่ แต่คงต้องรอดูรายละเอียดเรื่องของดอกเบี้ยและรางวัลอีกครั้งว่าจะออกมาน่าสนใจหรือไม่ แต่คาดว่าสลากของ ธอส. ไม่น่าจะแตกต่างไปจากสลากของ ธ.ก.ส.และของออมสินมากนัก เพราะหากให้ดอกเบี้ยหรือให้รางวัลที่สูงกว่า ย่อมทำให้ต้นทุนในการระดมเงินสูงกว่าตามไปด้วย
ในการซื้อสลากหากต้องการถูกเลขท้ายทุกงวดต้องใช้วงเงินในการซื้อที่ค่อนข้างสูง ยกตัวอย่างสลากที่เปิดขายในขณะนี้คือของธนาคารออมสินมีรุ่น 5 ปีและ 3 ปีให้เลือก ราคา 100 บาทและ 50 บาทต่อหน่วย ดอกเบี้ย 1% และ 0.5% ต่อปี (ถือครบอายุ)
รางวัลที่ 1 หมุน 3 ครั้งเหมือนกัน แต่สลาก 5 ปีได้รางวัลละ 5 ล้านบาท แต่ 3 ปีได้รางวัลละ 10 ล้านบาท และรุ่น 3 ปีมีรางวัลต่างหมวดของรางวัลที่ 1 ให้ 1 หมื่นบาท ส่วนรางวัลที่ 2 สลาก 5 ปีหมุน 5 ครั้ง รางวัลละ 1 แสนบาท สลาก 3 ปีหมุนแค่ 2 ครั้ง แต่รางวัลละ 1 ล้านบาท ดังนั้นรางวัลของรุ่น 3 ปีจะได้รับสูงกว่ารุ่น 5 ปี
ทั้งนี้รางวัลที่ 1 และ 2 ของทั้ง 2 รุ่น จะมีการกำหนดงวดและหมวดอักษร โดยจำนวนงวดและหมวดอักษรของสลาก 3 ปีจะมีมากกว่ารุ่น 5 ปีอยู่มาก
รางวัลที่ 3 สลาก 5 ปีหมุน 5 ครั้ง รางวัลละ 1 หมื่นบาท สลาก 3 ปี หมุน 2 ครั้ง รางวัลละ 2 หมื่นบาท รางวัลที่ 4 สลาก 5 ปีหมุน 10 ครั้ง รางวัลละ 5 พันบาท สลาก 3 ปีหมุน 5 ครั้ง รางวัลละ 1 หมื่นบาท และรางวัลที่ 5 สลาก 5 ปีหมุน 20 ครั้ง รางวัลละ 1,500 บาท สลาก 3 ปีหมุน 10 ครั้ง รางวัลละ 5 พันบาท
รางวัลเลขท้าย 6 ตัว 5 ตัวของทั้ง 2 รุ่น หมุนเท่ากันคือ 2 ครั้ง ส่วนเลขท้าย 4 ตัวสลาก 5 ปีหมุน 4 ครั้ง สลาก 3 ปีหมุน 2 ครั้ง แต่เงินรางวัลเท่ากัน คือ 400, 300 และ 150 บาท
จุดเด่น-จุดด้อย 5 ปี 3 ปี
ผู้ที่ต้องการซื้อสลากต้องเปรียบเทียบเรื่องตัวของรางวัลด้วย หลายคนพอทราบกันว่าซื้อ 5 แสนบาทจะถูกเลขท้าย 4 ตัวทุกงวด ส่วนโอกาสของการถูกรางวัลอื่น เช่น รางวัลที่ 3, 4 และ 5 นั้น หากดูเฉพาะตัวรางวัล 3 ปีให้มากกว่า แต่ธนาคารได้เพิ่มจุดเด่นให้กับสลาก 5 ปีด้วยการเพิ่มการหมุนให้มากกว่ารุ่น 3 ปี 1 เท่าตัว เพิ่มโอกาสในการถูกรางวัลมากกว่า แต่ได้เงินรางวัลน้อยกว่า
เช่นเดียวกับรางวัลที่ 2 รุ่น 5 ปีหมุน 5 ครั้ง รางวัลละ 1 แสน แต่ 3 ปี หมุน 2 ครั้งแต่ให้รางวัลละ 1 ล้าน ยิ่งเมื่อพิจารณารางวัลที่ 1 หมุน 3 ครั้งเท่ากัน เงินรางวัลต่างกัน 1 เท่าตัวคือ 5 ล้านกับ 10 ล้าน แต่อย่าลืมว่าทั้งรางวัลที่ 1 และ 2 จะมีการสุ่มงวดและหมวดอักษร ที่ผ่านมาสลาก 5 ปีออกมาไม่มากนัก และไม่ได้ออกต่อเนื่อง ดังนั้นงวดที่ออกจึงมีน้อยกว่ารุ่น 3 ปีเป็นอย่างมาก ต่างจากรุ่น 3 ปีที่จะออกมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจำนวนงวดและหมวดอักษรจึงมีมากกว่าสลากรุ่น 5 ปีมากพอควร โอกาสของรุ่น 3 ปีจึงค่อนข้างยากกว่า
ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับโชคของแต่ละท่านว่าจะสมพงศ์กับสลากรุ่นใด เพราะถึงอย่างไรธนาคารผู้ออกสลากก็ต้องวางจุดเด่น ลบจุดด้อยของสลากแต่ละรุ่นไว้หมดแล้ว ขึ้นอยู่กับผู้ที่ต้องการออมเงินเองว่าสนใจรุ่นใด คนที่ชอบลุ้นรางวัลก็มักจะต้องการตรวจสอบโชคของตัวเองเหมือนกับวันที่สลากกินแบ่งของรัฐบาลออกคือ 1 และ 16 ของทุกเดือน
