สำหรับท่านที่เทรดหุ้นด้วยกราฟทางเทคนิคน่าจะคุ้นเคยกับคำว่า Divergence หรืออาการขัดแย้งได้ดีนะครับ วันนี้ผมอยากมาแชร์สั้นๆ จากข้อสังเกตที่ว่าโลกเราตอนนี้กำลังเจอ Divergence ทั้งหมด 3 ลูกด้วยกัน
Divergence ลูกที่หนึ่ง เราเจอ Divergence ของราคา และ Momentum ระดับ monthly Chart ในดัชนีหลักหลายๆ ตัวของโลก เช่น SPX500 ของสหรัฐอเมริกา DAX ของเยอรมัน และแน่นอนว่า SET บ้านเราก็ออกอาการเช่นกัน
ในจังหวะที่เกิด Divergence แบบนี้เป็นที่รู้กันครับว่า เป็นการขึ้นของราคาแบบไม่มีแรงส่ง เหมือนกันรถที่ไม่มีเร่งเครื่องในขณะที่ขึ้นเขา ซึ่งสุดท้ายอาจต้องกลับลงมาอีกทีจนกว่าจะมีอัตราเร่งเพื่อให้สามารถเดินหน้าได้ต่อไป
Divergence ลูกถัดมา คือ Policy Divergence หมายถึงการออกนโยบายทางการเงินที่ดูขัดแย้งกันระหว่างมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ เนื่องจากฝั่งธนาคารสหรัฐฯ พร้อมที่จะขึ้นดอกเบี้ย และส่งสัญญาณเรื่อยมาในการ Tighten Policy แต่ฝั่งยุโรป และญี่ปุ่นกลับต้องใช้ Loosen Policy ผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป เนื่องจากตัวเลขในปัจจุบันได้บ่งบอกชัดเจนว่ายังไม่ฟื้นตัว จากเม็ดเงินมหาศาลของ 2 ขั้วบนโลกใบนี้ที่ขัดแย้งกัน จึงสะท้อนออกมาเป็นความผันผวนของราคาสินทรัพย์ทั่วโลกตลอดในช่วงปีที่ผ่านมา
ส่วน Divergence ในลูกสุดท้าย คือ การไม่สอดคล้องกันของราคาสินทรัพย์กับสภาพเศรษฐกิจ เนื่องจากเรากำลังเผชิญภาวะสินทรัพย์ที่โตด้วยสภาพคล่องจากธนาคารกลาง ไม่ใช่การโตที่เป็น Dynamic จากภาคเศรษฐกิจจริง
และการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในครั้งนี้จะเป็นเสมือนสัญญานในการปรับสมดุลครั้งแรกของปี ซึ่งถือเป็นภาพที่สรุปรวมเหตุการณ์ทั้งหมด
ล่าสุด ใครไปดูภาพยนตร์เรื่อง Sully น่าจะประทับใจต่อการที่กัปตันซัลลี่ที่นำแสดงโดย ทอม แฮงค์ สามารถพาผู้โดยสารทุกคนแลนดิ้งได้อย่างปลอดภัย แต่ในโลกแห่งความจริง เรามีกัปตันเจเนต เยลเลน ที่ต้องลุ้นกันต่อครับว่า จะพาเศรษฐกิจบนโลกในนี้ได้แบบ Happy Ending รึเปล่าในวันที่เครื่องยนตร์ทางเศรษฐกิจเริ่มพังไปแล้วหลายๆ ตัว
ติดตามได้ในช่วง 20-21 กันยายนนี้ เข้าฉายพร้อมกันทั่วโลก!
ปุณยวีร์ จันทรขจร
ติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ www.supertrader.co.th
SuperTrader รายการเรียลิตีการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เข้มข้นด้วยความรู้จากโค้ชผู้มากประสบการณ์ ผ่านบททดสอบจากตลาดหุ้นจริง