โบรกฯ เผยดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในกรอบแคบ มีความเปราะบางต่อการปรับฐานรอบใหม่ ในจังหวะที่ขยับเข้าใกล้ 1,600 จุด นักลงทุนเริ่มปรับพอร์ตการลงทุนอีกครั้ง เพื่อจับตาดูท่าทีของเฟดต่อการออกมาตรการรองรับ หลังจากที่จะหยุดใช้ QE เพื่อดูว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นตอนไหน และเตรียมส่งสัญญาณขึ้น ดบ. นโยบายต่อไป ขณะที่รายย่อยจับจังหวะเข้ามาเก็งกำไรมากขึ้น ในช่วงที่ตลาดค่อนข้างผันผวนมากแบบนี้ เห็นได้จากวอลุ่มที่สูงถึง 6 หมื่นล้าน
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (11 ก.ย.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,580.87 จุด ลดลง 1.26 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.08% มูลค่าการซื้อขาย 66,576.12 ล้านบาท โดยวันนี้ดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,589.93 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ 1,579.01 จุด
นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการสายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในกรอบแคบ มีความเปราะบางต่อการปรับฐานรอบใหม่ ในจังหวะที่ดัชนีฯ ขยับเข้าใกล้ 1,600 จุด นักลงทุนเริ่มปรับพอร์ตการลงทุนอีกครั้ง เพื่อจับตาดูท่าทีของธนาคารสหรัฐฯ ต่อการออกมาตรการรองรับ หลังจากที่จะหยุดใช้มาตรการ QE เพื่อดูว่าอัตาเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นตอนไหน เพื่อที่จะส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไป
อีกทั้งมองว่านักลงทุนต่างตอบรับข่าวในประเทศในเรื่องการผลักดันเศรษฐกิจหลังจากมีรัฐบาลชุดใหม่ไปพอสมควร ดังนั้น การมีรัฐบาลชุดใหม่ส่งผลดีต่อการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ การเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งมองว่าจะมีการฟื้นตัวด้วยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ปีนี้ราว 1.5-2% ปีหน้า 4%
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นพรุ่งนี้ คาดว่าหุ้นไทยแกว่งตัวแคบ มีความผันผวนมากขึ้น เป็นบรรยากาศการซื้อขายไม่มีปัจจัยใหม่มากระตุ้น แต่มีมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นมาหลายวันทำการ เห็นได้จากวันนี้ที่มีมูลค่าการซื้อขายกว่าหกหมื่นห้าพันล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนรายย่อยจับจังหวะเข้ามาเก็งกำไรมากขึ้น จังหวะการลงทุนที่ค่อนข้างผันผวนมากแบบนี้ เพื่อรอดูความชัดเจนต่อผลการประชุดเฟดในสัปดาห์หน้า แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าดัชนีฯ ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น หากมีจังหวะย่อตัวปรับฐานอีกครั้งเป็นโอกาสของการเข้าซื้อมากกว่า
นอกจากนี้ มีอีกประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม คือ การลงทุนเงินบำนาญของรัฐบาลญี่ปุ่น ที่มีแนวโน้มจะนำเงินไปลงทุนในตราสารทุนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะมีความชัดเจนต่อประเด็นนี้ในช่วงปลายเดือนนี้ ทั้งนี้ แนะเก็งกำไรหุ้นรายตัว สำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูง และมีจุด Stop Loss สามารถที่จะเข้าเก็งกำไรหุ้นที่มีความหวือหวาในช่วงนี้ เช่น ILINK-TRUE-DIMET-PERM โดยประเมินแนวรับ 1,570 จุด แนวต้าน 1,590 จุด
