ตรัง - เด็กสาว ม.4 ยอมเดินทางไกล 30 กม. มาเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านติ๋มซำกลางเมืองตรัง เพื่อหารายได้ช่วยแม่ รวมทั้งส่งตัวเองและน้องเรียน ขณะที่เจ้าของร้านใจดีเตรียมช่วยเหลือถึงที่สุด
น้องเหมย หรือ น.ส.เบญจลักษณ์ ปกครอง อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนจุ๋งฮัวโซะเซียว อ.กันตัง จ.ตรัง เด็กสาวผู้มีหัวใจไม่ยอมแพ้ ผนวกกับความมานะ ความอดทน และความขยัน ได้ใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนมาหารายได้พิเศษด้วยการสมัครเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านติ๋มซำ ที่ชื่อว่า พงษ์โอชา 3 ซึ่งตั้งอยู่บนถนนห้วยยอด กลางเมืองตรัง
โดย น้องเหมย ต้องทำงานตั้งแต่ 16.30-22.30 น. เพื่อหารายได้วันละ 200 บาท มาช่วยเหลือครอบครัว เนื่องจากแม่เป็นเพียงแค่ลูกจ้างที่ห้างดิสเคานต์สโตร์แห่งหนึ่ง จึงมีเงินไม่เพียงพอต่อรายจ่าย เธอจึงตัดสินใจออกหางานทำเพื่อนำมาใช้ในการเล่าเรียนหนังสือของตนเอง และน้อง ทำให้ลูกค้าที่พบเห็นต่างพากันชื่นชมเด็กสาวรายนี้ ขณะที่เจ้าของร้านเองก็เตรียมที่จะส่งเสียให้เรียนจนจบในระดับที่พอใจ
น้องเหมย บอกว่า การทำงานพาร์ทไทม์ของตนเองไม่ได้มีผลกระทบต่อการเรียนแต่อย่างใด ซึ่งหากวันใดมีการบ้าน ตนเองก็จะทำให้เสร็จในคาบว่างที่โรงเรียนเลย โดยในตอนเย็นเมื่อกลับมาถึงบ้านก็จะรีบผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกไปทำงานที่ร้านติ๋มซำ ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองตรัง และมีระยะทางไกลถึง 30 กม. แต่ยังโชคดีที่สามารถเดินทางไปกลับพร้อมกับแม่ ซึ่งต้องไปทำงานรอบค่ำอยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนหน้าที่ของตนที่ร้านก็คือ อยู่ประจำบาร์น้ำ พร้อมทั้งรับออเดอร์ และเสิร์ฟ หรือหากจุดใดที่ไม่ทันตนก็จะไปช่วยเสริม และทำได้ทุกอย่าง เพื่อต้องการมีรายได้ช่วยเหลือแม่และน้อง ด้วยฐานะทางบ้านที่ยากจน และตนยังอยากเรียนหนังสือให้ถึงที่สุด จึงยอมมาทำงานพาร์ทไทม์ และมิได้รู้สึกน้อยใจอะไรในโชคชะตา เพราะคนเราเกิดมาก็ต้องสู้ชีวิต และทำวันนี้ให้ดีที่สุด พร้อมทั้งตั้งใจที่จะทำงานพิเศษนี้ไปเรื่อยๆ หากเจ้าของร้านยังจ้าง และตั้งใจจะทำงานให้ดีที่สุด
“แต่หากวันใดมีกิจกรรมที่โรงเรียน หรือมีสอบ ตนก็จะแจ้งต่อทางร้านว่าอาจจจะลา หรือมาสาย เป็นกรณีไป ซึ่งทางร้านก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนความฝันของตนก็คือ อยากจะเรียน และเป็นพยาบาล แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่” น.ส.เบญจลักษณ์ ปกครอง กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน นายทวีศักดิ์ ทับเที่ยง ผู้จัดการร้านพงษ์โอชา 3 กล่าวว่า น้องเหมย เป็นเด็กขยัน ทำงานเรียบร้อย รวดเร็ว มีน้ำใจ และเน้นความสะอาดเป็นเยี่ยม จนเป็นที่พอใจของเพื่อนร่วมงาน หรือเรียกได้ว่าทำงานคุ้มค่าจ้างมากๆ ซึ่งตนกำลังดูอยู่ว่าถ้าหาก น้องเหมย ยังคงรักษาระดับความรับผิดชอบแบบนี้ไปได้อีกสักระยะ จะมีการพิจารณาส่งให้เรียนจนจบการศึกษาเท่าที่ต้องการ โดยจ่ายค่าเทอมให้แบบไม่ต้องคืน
“ซึ่งที่ผ่านมา ทางร้านก็เคยส่งให้พนักงานเรียนหนังสือจนจบมาหลายคนแล้ว ทั้งนี้ ด้วยความสำนึกรักในบ้านเกิด และอยากเห็นสังคมที่ดี นอกจากนั้น หากลูกจ้างพนักงานคนใดต้องการเรียนหนังสือ หรือเรียนอยู่แล้วแต่ขาดทุนทรัพย์ หรือค่าเทอมไม่พอ เพราะทางบ้านลำบาก ฐานะยากจน ตนก็จะส่งเสียอุปการะจนจบการศึกษาทุกคน เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก และเป็นการให้โอกาสแก่คนที่มีความตั้งใจดี” นายทวีศักดิ์ ทับเที่ยง กล่าว