xs
xsm
sm
md
lg

แมนูไลฟ์แนะแผนการเงินหลังเกษียณ ลงทุนบางส่วนออมเงินบางส่วน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน360 - ผู้จัดการรายวัน 360 - ผลสำรวจจากแมนูไลฟ์เผยว่า นักลงทุนชาวไทยให้ความสำคัญอย่างมากต่อการวางแผนการเงินสำหรับการเกษียณ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความกลัวว่าเงินออมจะไม่เพียงพอเนื่องจากค่าใช้จ่ายในอนาคตที่สูงขึ้น แม้นักลงทุนส่วนใหญ่ได้ให้ความสำคัญวางแผนเงินออมอย่างจริงจัง แต่พวกเขาก็ยังกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่สูง

ไมเคิล พาร์คเกอร์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมนูไลฟ์ ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “นักลงทุนชาวไทยมีมุมมองและมีการวางแผนสำหรับการเกษียณอายุแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการมุ่งทำสิ่งที่ตนเองสนใจ หรือทำงานพาร์ตไทม์ หรือช่วยธุรกิจของครอบครัว อย่างไรก็ตาม พวกเขายอมรับว่าแผนสำหรับวัยเกษียณดังกล่าวนี้ขึ้นอยู่กับสุขภาพในอนาคต และด้วยแนวโน้มด้านการพัฒนาทางการแพทย์และระบบการดูแลสุขภาพ ทำให้ผู้คนมีอายุยืนยาวขึ้น รวมไปถึงค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้นด้วย ทั้งหมดนี้สรุปได้ว่า ค่าใช้จ่ายสำหรับการมีชีวิตวัยเกษียณที่สะดวกสบายนั้นมีอัตราเติบโตเร็วกว่าอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้การปรับเปลี่ยนการวางแผนทางการเงินเพื่อรองรับวัยเกษียณจึงเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญเพื่อความมั่นคงของชีวิตในอนาคต”

ผลสำรวจเปิดเผยว่า นักลงทุนจะได้รับประโยชน์จากการศึกษาเกี่ยวกับการเพิ่มขีดจำกัดของกองทุนสำหรับการเกษียณ เมื่อถามถึงการจัดการปัญหาขาดแคลนทางการเงินเมื่อถึงวัยเกษียณ กลุ่มนักลงทุนส่วนใหญ่ (64%) ซึ่งคาดว่าจะใช้ชีวิตอย่างประหยัดในบั้นปลายระบุว่า พวกเขาจะเพิ่มการออมให้มากขึ้น ในขณะที่ส่วนน้อย (24%) ระบุว่าจะเลือกลงทุนมากขึ้นในหุ้นและพันธบัตรซึ่งให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากว่า ยิ่งไปกว่านั้น 13% ของนักลงทุนเหล่านี้ระบุว่า พวกเขาไม่รู้เลยว่าควรทำอย่างไร ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการขาดการรับรู้เกี่ยวกับทางเลือกของการลงทุนแบบต่างๆ

เหล่านักลงทุนอาจจะได้รับประโยชน์จากการวางแผนที่มีประสิทธิภาพเพื่อผลตอบแทนที่ดีขึ้น โดยในกลุ่มผู้ที่มีการออมเงิน เกือบ 1 ใน 3 (32%) ของเงินออมจะอยู่ในรูปแบบเงินฝากที่ไม่ได้วางแผน หรือนำไปลงทุนโดยไม่มีจุดประสงค์ที่ชัดเจน ซึ่งถ้าหากมีการวางโครงสร้างและตั้งเป้าหมายที่สูงขึ้น พวกเขาน่าจะมีโอกาสที่ดีขึ้นที่จะบรรลุเป้าหมายทางการเงินระยะยาว

ไมเคิล รีด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในภาวะดอกเบี้ยต่ำในปัจจุบัน การพึ่งพาระบบเงินฝากอาจจะไม่สามารถให้ผลตอบแทนนักลงทุนได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น ทุกคนควรจะสร้างพอร์ตการลงทุนที่สะท้อนความสามารถในการรับความเสี่ยง รวมถึงความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดหุ้น ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญอย่างยิ่ง สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่แน่ใจว่าควรจะลงทุนอย่างไร ผู้ให้คำแนะนำด้านการลงทุนสามารถเป็นผู้ช่วยที่ดี เพราะการวางแผนสำหรับการเกษียณเปรียบได้กับการเดินทาง ไม่ใช่การแข่งขัน และไม่มีใครควรจะรู้สึกว่าพวกเขาต้องทำด้วยตัวเองเพียงคนเดียว”

ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพและครอบครัวเป็นตัวสะท้อนภาระบางอย่างทางสังคม นักลงทุนส่วนใหญ่ (69%) เชื่อว่าสุขภาพของตนเองจะแย่ลงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น และเกือบครึ่งของนักลงทุน (46%) เชื่อว่าสุขภาพจะแย่ลงเรื่อยๆ จนถึงจุดที่พวกเขาไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป นี่คือประเด็นสำคัญ เพราะเกือบครึ่ง (46%) ของนักลงทุนที่มีงานประจำต่างมีรายได้ทางอื่นจากธุรกิจส่วนตัว ซึ่งอาจเป็นรายได้ที่พวกเขาไม่สามารถพึ่งพาได้ในยามเกษียณ นักลงทุนส่วนใหญ่ (63%) คาดว่าในช่วงเกษียณอายุพวกเขายังคงต้องให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่พ่อแม่ ในขณะที่อีก 27% ก็คาดว่าพวกเขาจำเป็นต้องสนับสนุนด้านการเงินแก่รุ่นลูกต่อไปโดยไม่มีผลตอบแทน
กำลังโหลดความคิดเห็น