เรียกได้ว่ากว่าจะมาเป็นซูเปอร์สตาร์ชื่อดังชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบทีเดียวสำหรับ 9 คนดังของเกาหลี ที่ก่อนจะเข้าวงการบันเทิงจนทำรายได้มหาศาลและได้เดินพรมแดงอย่างทุกวันนี้ พวกเขาเคยต้องผ่านงานพาร์ทไทม์ ไม่ว่าจะเป็นงานแบกหามหรือการใช้แรงงานเพื่อแลกกับเงินมานักต่อนัก
1.อันจองฮวาน
แม้ว่าในเวลานี้ เขาจะมีชื่อเสียงจากการปรากฏตัวในรายการวาไรตีโชว์ต่างๆมากมาย ก่อนหน้านี้อันจองฮวาน คืออดีตนักฟุตบอลทีมชาติเกาหลีใต้ชื่อดังที่นอกจากทักษะการเล่นฟุตบอลของเขาจะโดดเด่นแล้วหน้าตาที่หล่อเหลาของเขาก็ส่งให้กลายเป็นขวัญใจสาวๆด้วย ชีวิตวัยเด็กของเขาค่อนข้างยากลำบาก เมื่อพ่อมาเสียชีวิตตั้งแต่เขายังเด็ก ต้องอยู่กับแม่ที่ทำหน้าที่หาเลี้ยงครอบครัว ก่อนจะถูกส่งไปอยู่กับญาติโดยมียายคอยช่วยเลี้ยงเขามาตั้งแต่ยังเล็ก แต่เนื่องด้วยปัญหาทางด้านการเงิน ทำให้เขาต้องโดนสับเปลียนหมุนเหวียนย้ายไปอยู่ตามบ้านญาติๆ พร้อมกับที่ต้องหาเงินส่งเสียตนเองด้วยการรับจ้างเก็บมันฝรั่งและกะหล่ำปลีบนเขาเพื่อนำมาเป็นอาหารหมู และสมัยเรียนเจ้าตัวต้องเข้าร่วมชมรมฟุตบอลของโรงเรียนเพียงเพราะเจ้าตัวได้ยินว่าจะมีนมและขนมปังให้เขากินอย่างฟรีๆโดยไม่ค้องเสียเงิน ส่วนในสมัยมัธยมปลายเขาก็เริ่มทำงานแบบใช้แรงงาน โดยเป็นคนงานก่อสร้างสถานีรถไฟใต้ดิน และตอนกลางคืนก็ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ไนต์คลับ แม้ว่าชีวิตจะเผชิญกับความยากลำบาก แต่เมื่อได้เป็นนักกีฬา เจ้าตัวก็สามารถพาตนเองขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในนักเตะค่าตัวแพงที่สุดแห่งยุคด้วย
2.คังฮานึล
นักแสดงหนุ่มหล่อฝีมือดีรายนี้ ต้องย้ายจากบ้านเกิดที่ปูซานเข้ามายังกรุงโซลด้วยตนเองเพื่อสานฝันเป็นนักแสดง เนื่องจากฐานะทางบ้านไม่ดี ไม่มีเงินส่งเรียนโรงเรียนศิลปะการแสดงได้ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ปกครอง เจ้าตัวจึงได้รับงานทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการทำงานในร้านสะดวกซื้อ, เป็นเด็กปั๊ม, ทำงานในฟาร์มเป็ด, ร้านบุฟเฟต์ และแจกใบปลิวตามท้องถนน โดยก่อนที่เขาจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย เขาก็ต้องหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวและค่าเล่าเรียนด้วยการทำงานพาร์ทไทม์ ซึ่งคังฮานึลระบุว่าการผ่านงานที่ยากลำบากเหล่านี้ ล้วนเป็นประสบการณ์ที่ดีที่เขานำมาปรับใช้ในเรื่องการแสดงได้ด้วย และถึงแม้เจ้าตัวจะโด่งดังมีชื่อเสียงในฐานะนักแสดงชายดาวรุ่งแล้ว ก็ยังคงมีภาพชื่นชมในตัวเขาเผยแพร่ทั่วอินเตอร์เน็ตเมื่อครั้งที่เจ้าตัวเดินเท้าเปล่าเสิร์ฟบะหมี่ในร้านอาหาร ซึ่งเขาชี้แจงว่าภาพดังกล่าวเป็นการช่วยงานที่ร้านอาหารของพ่อที่เขาลงทุนให้นั่นเอง
3.ชิมฮยองทัก
นักแสดงชายที่แม้จะไม่ใช่พระเอกชื่อดังแต่ก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับซีรีย์หลายๆเรื่องที่เขาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็น “Woman of Dignity” และ “Man Who Sets the Table” เขาได้เข้าวงการหลังจากที่ อีซูมาน ประธานค่าย SM Entertainment ไปพบเขาเข้าขณะที่เขากำลังทำงานพาร์ทไทม์ในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง โดยเขาต้องทำงานพาร์ทไทม์หลายอย่างทั้งการเป็นคนงานก่อสร้างทำทางด่วน, เป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารและร้านกาแฟ เนื่องจากครอบครัวของเขาสูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมากจนเรียกได้ว่าหมดตัวไปกับการถูกหลอกจากการทำธุรกิจ และหลังจากที่เข้าคัดตัวเพื่อร่วมเป็นสมาชิกวง Shinhwa แห่งค่าย SM Ent. แต่ไม่ผ่านออดิชัน เจ้าตัวก็ตัดสินใจเบนเข็มใฝ่ฝันที่จะเป็นนักแสดง โดยเริ่มงานจากการเป็นนายแบบ และตัวประกอบขึ้นตามลำดับ
4.อีจุน
อีจุน โตมาในครอบครัวที่มีปัญหาด้านการเงินหลังจากที่ธุรกิจของพ่อเขาล้มเหลว เมื่อเขาเรียนอยู่ที่โรงเรียนสอนศิลปะการแสดงสมัยมัธยมปลาย เขาต้องถูกล้อเพราะเขามีชุดบัลเลต์เพียงชุดเดียวและต้องสวมใส่ทุกวันซึ่งทางครอบครัวไม่สามารถหาเงินมาซื้อเพิ่มให้ได้ และเพื่อให้บรรลุความตั้งใจของครอบครัว เขาจึงฝึกซ้อมเต้นทั้งวันทั้งคืนจนสามารถเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย Korea National University of Arts ได้สำเร็จ หลังจากเจ้าตัวละทิ้งการเรียนเพื่อมาสานฝันการเป็นนักแสดง เขาต้องทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารเพื่อหาเงินใช้จ่ายส่วนตัวและหาคอนเนคชันเพราะที่ร้านแห่งนี้ขึ้นชื่อว่า บรรดานักแสดงและคนในวงการบันเทิงมักจะเข้ามากินดื่มที่ร้านนี้อยู่เสมอ
5.คิมโกอึน
นางเอกสาวชื่อดังจากซีรีย์ Cheese In The Trap และ Goblin เคยต้องทำงานพาร์ทไทม์หลากหลายอย่างทั้งการรับงานเป็นนางแบบให้กับร้านค้าออนไลน์ , แจกใบปลิวตามเขตออฟฟิศ และเคยเป็นพนักงานเสิร์ฟโซบะที่ใช้ชามหินเป็นภาชนะวันละเกือบ 10 ชม. โดยเธอมีความฝันว่าอยากจะเป็นทีมงานเบื้องหลังภาพยนตร์และคนเขียนบท ฑโดยเธอเข้าศึกษาชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนสอนศิลปะการแสดงและเข้ามหาวิทยาลัย Korea National University of Arts ที่เธอได้เป็นนักเรียนทุนด้วย และเพื่อทำให้ตนเองได้ทุนอย่างต่อเนื่อง เธอต้องตั้งใจเรียนเพื่อรักษาคะแนน โดยที่นอกเวลาเรียนเธอต้องทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อหาเงินเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว เรียกได้ว่าชีวิตจริงของเธอแทบจะไม่แตกต่างจากนางเอกในเรื่อง Cheese In The Trap ที่เธอรับบทนำเลยทีเดียว
6.ยูแฮจิน
นักแสดงยูแฮจิน ผู้มีรูปร่างหน้าตาไม่ใช่ในแบบพิมพ์นิยม ส่งให้เขาต้องผ่านการใช้ชีวิตมาอย่างยากลำบาก โดยเจ้าตัวระบุว่าแค่จะทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟร้านอาหารยังไม่ยอมรับเข้าทำงาน ทำให้เขาต้องไปใช้แรงงานเป็นกรรมกรเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ โดยเขาเปิดเผยว่าครั้งหนึ่งเคยทำงานในโรงงานโถสุขภัณฑ์ซึ่งที่นั่นเขายังได้พบกับเพื่อนนักแสดงดังอย่าง รยูซึงรยอง โดยหลังจากที่เหยียบเท้าเข้าวงการได้แล้ว เขายังต้องเช่าห้องพักบนชั้นดาดฟ้าร่วมกับเพื่อนนักแสดงคนอื่นๆและยังต้องทำพาร์ทไทม์ระหว่างที่ไม่มีงานด้วย
7.ไฮซ์
ก่อนที่เธอจะเดบิวต์เป็นแร๊ปเปอร์เมื่อปี 2014 ไฮซ์เคยต้องทำงานพาร์ทไทม์ถึง 3 งานเป็นเวลา 10 ชม.ด้วยกัน โดยเธอต้องทำงานที่ร้านเบเกอรี, ร้านกาแฟ, ร้านขายขาหมู, ร้านขายซุป และแจกใบปลิว เธอหลงใหลเพลงฮิปฮอปเมื่อครั้งเรียนอยู่มัธยมต้นและมีความตั้งใจแน่วแน่ว่าจะเป็นศิลปินฮิปฮอปให้ได้เมื่อครั้งเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ซึ่งพ่อของเธอได้ต่อต้านอย่างหนัก และเพื่อที่จะทำให้พ่อยอมรับและอนุมัติตามความตั้งใจของเธอ ไฮซ์ ตั้งใจเรียนเพื่อให้ได้เกรด A ทุกวิชา และสามารถทำ GPA ให้ได้ 4.5 ขณะเรียนวิทยาลัยปี 3 และเมื่อผู้ปกครองอนุญาตให้เธอทำตามฝัน ไฮซ์ จึงย้ายจากเมืองแดกูมาสู่กรุงโซล แต่เธอก็ต้องพบกับปัญหาด้านการเงิน โดยเธอเคยถึงขั้นมีเงินติดตัวไม่ถึง 300 บาทเพื่อใช้ในการดำรงชีพ แต่เธอก็ไม่ได้ขอเงินจากทางบ้าน และตัดสินใจทำงานพาร์ทไทม์ โดยเธอกล่าวว่าเคยต้องเดินร้องไห้กลับบ้านหลังจากทำงานพาร์ทไทม์ทุกวัน ดดยถามกับตนเองว่า “ฉันมาที่นี่เพื่อมาทำงานหาเงินหรือมาทำดนตรีกันแน่?”
8.รยูจุนยอล
รยูจุนยอล พระรองจากซีรีย์ Reply 1988 ได้เผยถึงการทำงานพาร์ทไทม์อย่างมั่นใจว่าถ้าเอ่ยชื่องานอะไรขึ้นมาแน่ใจว่าเคยผ่านการทำงานนี้มาแล้วทั้งนั้น โดยเขาระบุว่าเขาเคยเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารแทบจะทุกรูปแบบ, เคยเป็นพนักงานในร้านหมูย่างเนื้อย่าง, พนักงานแพ็คอาหารเดลิเวอรี, แจกใบปลิว, จัดเก้าอี้ตามงานอีเวนท์, รับจ้างแกะกล่องสินค้าตามตลาด โดยเขายังเคยขายสินค้าเกี่ยวกับ SHINee บอยแบนด์ดังหน้าคอนเสิร์ตของพวกเขามาแล้ว และเคยรับหน้าที่โบกแท่งไฟจราจรให้กับกองถ่ายทำเรื่อง Veteran มาแล้วเช่นกัน โดยระหว่างที่เขาเรียนวิทยาลัยเขาเป็นนักเรียนทุน ซึ่งเขาต้องตั้งใจเรียนอย่างหนักเพื่อรักษาทุน ในขณะที่ต้องทำงานพาร์ทไทม์อีกนับไม่ถ้วนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งเขาระบุด้วยว่า การเข้าออดิชันคัดตัวนักแสดงก็แทบจะนับไม่ถ้วนเหมือนงานพาร์ทไทม์ที่เขาทำเช่นกัน “ผมเข้าออดิชันเป็นพันครั้งเลยครับ แล้วนี่คือสิ่งที่ผมทำได้” โดยการรับบทพระรองของ รยูจุนยอล ในเรื่อง Reply 1988 ได้ทำให้เขาโด่งดังและเป็นขวัญใจสาวๆ จนสามารถคว้าหัวใจนางเอกในจอมาคบกันนอกจอได้อีกด้วย
9.องซองอู
องซองอู หนึ่งในสมาชิกของบอยแบนด์ที่มาแรงที่สุดตอนนี้อย่าง Wanna One ต้องใช้เวลานานนับ 10 ปีไปกับการเป็นเด็กฝึก เขาเข้าคัดตัวให้กับเอเจนซีครั้งแรกสมัยเรียนอยู่มัธยมต้น แต่เนื่องด้วยปัญหาภายในสังกัดเอเจนซี ส่งให้เขาที่ติดสัญญาอยู่ไม่สามารถรู้ชะตากรรมเกี่ยวกับอนาคตในฐานะนักร้องของตนเองได้ ขณะเดียวกันเขาเองก็ไม่สามารถย้ายไปสังกัดเอเจนซีอื่นได้ด้วยเช่นกันเพราะติดสัญญาดังกล่าว และเพื่อความตั้งใจที่จะประสบความสำเร็จบนเส้นทางนี้ เขาตัดสินใจทำงานพาร์ทไทม์โดยเป็นนายแบบให้กับร้านค้าออนไลน์, ร้านทำผม, ร้านเช่าชุดแต่งงาน และร้านขายแว่นตา ซึ่งระหว่างที่เป็นนายแบบ เขายังคงทำตามความฝันด้วยการเข้าร่วมกลุ่มเต้นเบรกแดนซ์พร้อมกับฝึกฝนด้านการแสดงไปด้วย จนกระทั่งเข้าร่วมแข่งขันในรายการ Produce 101 และได้เป็น 1 ใน 11 คนของผู้ชนะเดบิวต์เป็นวง Wanna One ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในเกาหลีและทั่วเอเชียเวลานี้
1.อันจองฮวาน
แม้ว่าในเวลานี้ เขาจะมีชื่อเสียงจากการปรากฏตัวในรายการวาไรตีโชว์ต่างๆมากมาย ก่อนหน้านี้อันจองฮวาน คืออดีตนักฟุตบอลทีมชาติเกาหลีใต้ชื่อดังที่นอกจากทักษะการเล่นฟุตบอลของเขาจะโดดเด่นแล้วหน้าตาที่หล่อเหลาของเขาก็ส่งให้กลายเป็นขวัญใจสาวๆด้วย ชีวิตวัยเด็กของเขาค่อนข้างยากลำบาก เมื่อพ่อมาเสียชีวิตตั้งแต่เขายังเด็ก ต้องอยู่กับแม่ที่ทำหน้าที่หาเลี้ยงครอบครัว ก่อนจะถูกส่งไปอยู่กับญาติโดยมียายคอยช่วยเลี้ยงเขามาตั้งแต่ยังเล็ก แต่เนื่องด้วยปัญหาทางด้านการเงิน ทำให้เขาต้องโดนสับเปลียนหมุนเหวียนย้ายไปอยู่ตามบ้านญาติๆ พร้อมกับที่ต้องหาเงินส่งเสียตนเองด้วยการรับจ้างเก็บมันฝรั่งและกะหล่ำปลีบนเขาเพื่อนำมาเป็นอาหารหมู และสมัยเรียนเจ้าตัวต้องเข้าร่วมชมรมฟุตบอลของโรงเรียนเพียงเพราะเจ้าตัวได้ยินว่าจะมีนมและขนมปังให้เขากินอย่างฟรีๆโดยไม่ค้องเสียเงิน ส่วนในสมัยมัธยมปลายเขาก็เริ่มทำงานแบบใช้แรงงาน โดยเป็นคนงานก่อสร้างสถานีรถไฟใต้ดิน และตอนกลางคืนก็ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ไนต์คลับ แม้ว่าชีวิตจะเผชิญกับความยากลำบาก แต่เมื่อได้เป็นนักกีฬา เจ้าตัวก็สามารถพาตนเองขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในนักเตะค่าตัวแพงที่สุดแห่งยุคด้วย
2.คังฮานึล
นักแสดงหนุ่มหล่อฝีมือดีรายนี้ ต้องย้ายจากบ้านเกิดที่ปูซานเข้ามายังกรุงโซลด้วยตนเองเพื่อสานฝันเป็นนักแสดง เนื่องจากฐานะทางบ้านไม่ดี ไม่มีเงินส่งเรียนโรงเรียนศิลปะการแสดงได้ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ปกครอง เจ้าตัวจึงได้รับงานทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการทำงานในร้านสะดวกซื้อ, เป็นเด็กปั๊ม, ทำงานในฟาร์มเป็ด, ร้านบุฟเฟต์ และแจกใบปลิวตามท้องถนน โดยก่อนที่เขาจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย เขาก็ต้องหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวและค่าเล่าเรียนด้วยการทำงานพาร์ทไทม์ ซึ่งคังฮานึลระบุว่าการผ่านงานที่ยากลำบากเหล่านี้ ล้วนเป็นประสบการณ์ที่ดีที่เขานำมาปรับใช้ในเรื่องการแสดงได้ด้วย และถึงแม้เจ้าตัวจะโด่งดังมีชื่อเสียงในฐานะนักแสดงชายดาวรุ่งแล้ว ก็ยังคงมีภาพชื่นชมในตัวเขาเผยแพร่ทั่วอินเตอร์เน็ตเมื่อครั้งที่เจ้าตัวเดินเท้าเปล่าเสิร์ฟบะหมี่ในร้านอาหาร ซึ่งเขาชี้แจงว่าภาพดังกล่าวเป็นการช่วยงานที่ร้านอาหารของพ่อที่เขาลงทุนให้นั่นเอง
3.ชิมฮยองทัก
นักแสดงชายที่แม้จะไม่ใช่พระเอกชื่อดังแต่ก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับซีรีย์หลายๆเรื่องที่เขาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็น “Woman of Dignity” และ “Man Who Sets the Table” เขาได้เข้าวงการหลังจากที่ อีซูมาน ประธานค่าย SM Entertainment ไปพบเขาเข้าขณะที่เขากำลังทำงานพาร์ทไทม์ในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง โดยเขาต้องทำงานพาร์ทไทม์หลายอย่างทั้งการเป็นคนงานก่อสร้างทำทางด่วน, เป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารและร้านกาแฟ เนื่องจากครอบครัวของเขาสูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมากจนเรียกได้ว่าหมดตัวไปกับการถูกหลอกจากการทำธุรกิจ และหลังจากที่เข้าคัดตัวเพื่อร่วมเป็นสมาชิกวง Shinhwa แห่งค่าย SM Ent. แต่ไม่ผ่านออดิชัน เจ้าตัวก็ตัดสินใจเบนเข็มใฝ่ฝันที่จะเป็นนักแสดง โดยเริ่มงานจากการเป็นนายแบบ และตัวประกอบขึ้นตามลำดับ
4.อีจุน
อีจุน โตมาในครอบครัวที่มีปัญหาด้านการเงินหลังจากที่ธุรกิจของพ่อเขาล้มเหลว เมื่อเขาเรียนอยู่ที่โรงเรียนสอนศิลปะการแสดงสมัยมัธยมปลาย เขาต้องถูกล้อเพราะเขามีชุดบัลเลต์เพียงชุดเดียวและต้องสวมใส่ทุกวันซึ่งทางครอบครัวไม่สามารถหาเงินมาซื้อเพิ่มให้ได้ และเพื่อให้บรรลุความตั้งใจของครอบครัว เขาจึงฝึกซ้อมเต้นทั้งวันทั้งคืนจนสามารถเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย Korea National University of Arts ได้สำเร็จ หลังจากเจ้าตัวละทิ้งการเรียนเพื่อมาสานฝันการเป็นนักแสดง เขาต้องทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารเพื่อหาเงินใช้จ่ายส่วนตัวและหาคอนเนคชันเพราะที่ร้านแห่งนี้ขึ้นชื่อว่า บรรดานักแสดงและคนในวงการบันเทิงมักจะเข้ามากินดื่มที่ร้านนี้อยู่เสมอ
5.คิมโกอึน
นางเอกสาวชื่อดังจากซีรีย์ Cheese In The Trap และ Goblin เคยต้องทำงานพาร์ทไทม์หลากหลายอย่างทั้งการรับงานเป็นนางแบบให้กับร้านค้าออนไลน์ , แจกใบปลิวตามเขตออฟฟิศ และเคยเป็นพนักงานเสิร์ฟโซบะที่ใช้ชามหินเป็นภาชนะวันละเกือบ 10 ชม. โดยเธอมีความฝันว่าอยากจะเป็นทีมงานเบื้องหลังภาพยนตร์และคนเขียนบท ฑโดยเธอเข้าศึกษาชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนสอนศิลปะการแสดงและเข้ามหาวิทยาลัย Korea National University of Arts ที่เธอได้เป็นนักเรียนทุนด้วย และเพื่อทำให้ตนเองได้ทุนอย่างต่อเนื่อง เธอต้องตั้งใจเรียนเพื่อรักษาคะแนน โดยที่นอกเวลาเรียนเธอต้องทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อหาเงินเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว เรียกได้ว่าชีวิตจริงของเธอแทบจะไม่แตกต่างจากนางเอกในเรื่อง Cheese In The Trap ที่เธอรับบทนำเลยทีเดียว
6.ยูแฮจิน
นักแสดงยูแฮจิน ผู้มีรูปร่างหน้าตาไม่ใช่ในแบบพิมพ์นิยม ส่งให้เขาต้องผ่านการใช้ชีวิตมาอย่างยากลำบาก โดยเจ้าตัวระบุว่าแค่จะทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟร้านอาหารยังไม่ยอมรับเข้าทำงาน ทำให้เขาต้องไปใช้แรงงานเป็นกรรมกรเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ โดยเขาเปิดเผยว่าครั้งหนึ่งเคยทำงานในโรงงานโถสุขภัณฑ์ซึ่งที่นั่นเขายังได้พบกับเพื่อนนักแสดงดังอย่าง รยูซึงรยอง โดยหลังจากที่เหยียบเท้าเข้าวงการได้แล้ว เขายังต้องเช่าห้องพักบนชั้นดาดฟ้าร่วมกับเพื่อนนักแสดงคนอื่นๆและยังต้องทำพาร์ทไทม์ระหว่างที่ไม่มีงานด้วย
7.ไฮซ์
ก่อนที่เธอจะเดบิวต์เป็นแร๊ปเปอร์เมื่อปี 2014 ไฮซ์เคยต้องทำงานพาร์ทไทม์ถึง 3 งานเป็นเวลา 10 ชม.ด้วยกัน โดยเธอต้องทำงานที่ร้านเบเกอรี, ร้านกาแฟ, ร้านขายขาหมู, ร้านขายซุป และแจกใบปลิว เธอหลงใหลเพลงฮิปฮอปเมื่อครั้งเรียนอยู่มัธยมต้นและมีความตั้งใจแน่วแน่ว่าจะเป็นศิลปินฮิปฮอปให้ได้เมื่อครั้งเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ซึ่งพ่อของเธอได้ต่อต้านอย่างหนัก และเพื่อที่จะทำให้พ่อยอมรับและอนุมัติตามความตั้งใจของเธอ ไฮซ์ ตั้งใจเรียนเพื่อให้ได้เกรด A ทุกวิชา และสามารถทำ GPA ให้ได้ 4.5 ขณะเรียนวิทยาลัยปี 3 และเมื่อผู้ปกครองอนุญาตให้เธอทำตามฝัน ไฮซ์ จึงย้ายจากเมืองแดกูมาสู่กรุงโซล แต่เธอก็ต้องพบกับปัญหาด้านการเงิน โดยเธอเคยถึงขั้นมีเงินติดตัวไม่ถึง 300 บาทเพื่อใช้ในการดำรงชีพ แต่เธอก็ไม่ได้ขอเงินจากทางบ้าน และตัดสินใจทำงานพาร์ทไทม์ โดยเธอกล่าวว่าเคยต้องเดินร้องไห้กลับบ้านหลังจากทำงานพาร์ทไทม์ทุกวัน ดดยถามกับตนเองว่า “ฉันมาที่นี่เพื่อมาทำงานหาเงินหรือมาทำดนตรีกันแน่?”
8.รยูจุนยอล
รยูจุนยอล พระรองจากซีรีย์ Reply 1988 ได้เผยถึงการทำงานพาร์ทไทม์อย่างมั่นใจว่าถ้าเอ่ยชื่องานอะไรขึ้นมาแน่ใจว่าเคยผ่านการทำงานนี้มาแล้วทั้งนั้น โดยเขาระบุว่าเขาเคยเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารแทบจะทุกรูปแบบ, เคยเป็นพนักงานในร้านหมูย่างเนื้อย่าง, พนักงานแพ็คอาหารเดลิเวอรี, แจกใบปลิว, จัดเก้าอี้ตามงานอีเวนท์, รับจ้างแกะกล่องสินค้าตามตลาด โดยเขายังเคยขายสินค้าเกี่ยวกับ SHINee บอยแบนด์ดังหน้าคอนเสิร์ตของพวกเขามาแล้ว และเคยรับหน้าที่โบกแท่งไฟจราจรให้กับกองถ่ายทำเรื่อง Veteran มาแล้วเช่นกัน โดยระหว่างที่เขาเรียนวิทยาลัยเขาเป็นนักเรียนทุน ซึ่งเขาต้องตั้งใจเรียนอย่างหนักเพื่อรักษาทุน ในขณะที่ต้องทำงานพาร์ทไทม์อีกนับไม่ถ้วนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งเขาระบุด้วยว่า การเข้าออดิชันคัดตัวนักแสดงก็แทบจะนับไม่ถ้วนเหมือนงานพาร์ทไทม์ที่เขาทำเช่นกัน “ผมเข้าออดิชันเป็นพันครั้งเลยครับ แล้วนี่คือสิ่งที่ผมทำได้” โดยการรับบทพระรองของ รยูจุนยอล ในเรื่อง Reply 1988 ได้ทำให้เขาโด่งดังและเป็นขวัญใจสาวๆ จนสามารถคว้าหัวใจนางเอกในจอมาคบกันนอกจอได้อีกด้วย
9.องซองอู
องซองอู หนึ่งในสมาชิกของบอยแบนด์ที่มาแรงที่สุดตอนนี้อย่าง Wanna One ต้องใช้เวลานานนับ 10 ปีไปกับการเป็นเด็กฝึก เขาเข้าคัดตัวให้กับเอเจนซีครั้งแรกสมัยเรียนอยู่มัธยมต้น แต่เนื่องด้วยปัญหาภายในสังกัดเอเจนซี ส่งให้เขาที่ติดสัญญาอยู่ไม่สามารถรู้ชะตากรรมเกี่ยวกับอนาคตในฐานะนักร้องของตนเองได้ ขณะเดียวกันเขาเองก็ไม่สามารถย้ายไปสังกัดเอเจนซีอื่นได้ด้วยเช่นกันเพราะติดสัญญาดังกล่าว และเพื่อความตั้งใจที่จะประสบความสำเร็จบนเส้นทางนี้ เขาตัดสินใจทำงานพาร์ทไทม์โดยเป็นนายแบบให้กับร้านค้าออนไลน์, ร้านทำผม, ร้านเช่าชุดแต่งงาน และร้านขายแว่นตา ซึ่งระหว่างที่เป็นนายแบบ เขายังคงทำตามความฝันด้วยการเข้าร่วมกลุ่มเต้นเบรกแดนซ์พร้อมกับฝึกฝนด้านการแสดงไปด้วย จนกระทั่งเข้าร่วมแข่งขันในรายการ Produce 101 และได้เป็น 1 ใน 11 คนของผู้ชนะเดบิวต์เป็นวง Wanna One ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในเกาหลีและทั่วเอเชียเวลานี้
