สวัสดีครับผม Mr. Leon มาแล้ว ผมดูรายการทีวีช่อง NHK World เป็นสารคดีวิเคราะห์ว่าเหตุใดคนญี่ปุ่นมีอัตราการแต่งงานน้อยลง ยิ่งกว่านั้นคนโสดก็ไม่มีแฟนด้วย หนุ่มสาวอายุ 20-30 ปีสมัยก่อนก็แต่งงานกันไปเกือบหมดแล้ว แต่สมัยนี้นอกจากไม่แต่งงานแล้วมากกว่า 80% ยังไม่มีแฟนอีกด้วย ในจำนวนนั้นกว่า 30% บอกว่าอยากอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิต
ในรายการวันนั้นเชิญคนในวงการสังคมมาสัมภาษณ์ 3 คน มีสาวสวยนักจัดรายการทีวี หนุ่มนักจัดรายการทีวี สาวไม่สวยรุ่นป้า
สาวไม่สวยรุ่นป้า บอกว่า อย่าคาดหวังกับผู้หญิงมากไป คาดหวังในที่นี้ประมาณว่า อย่าหวังให้เธอขยัน ทำงานเก่ง เป็นแม่บ้านแม่เรือน หรือทำอาหารเก่ง ประมาณนั้น คือคนพูดเนี่ยพูดตรงๆ เลยคือบ้านๆ พอป้าแกพูดแบบนี้เลยทำให้คนฟังรู้สึกนิดหน่อยนะครับ ประมาณว่าเอาตัวเองเป็นใหญ่ ฉันจะเป็นยังไงก็ตาม แต่เธออย่ามาคาดหวังฉันมาก ! ถ้าเป็นคุณคุณจะอยากเป็นแฟนกับแกไหม จะไม่ให้คาดหวังในสิ่งที่ผู้หญิงควรจะทำได้นี่ก็ไม่ได้นะครับ เพราะทั้งผู้หญิงผู้ชายต่างก็มีหน้าที่ของตนใช่ไหม
ตอนแรกพอผมฟังแบบนี้ผมยังนึกว่าผมฟังผิดหรือเปล่า ดังนั้นผมจึงโทรศัพท์หาเพื่อนผมที่เก่งภาษาอังกฤษ ว่าผมฟังและเข้าใจความหมายที่ป้าพูดผิดไปหรือเปล่า เพื่อนผมก็แปลได้อย่างผมและรู้สึกแปลกๆ ที่ป้าพูดแบบนี้เช่นกัน นี่เป็นรายการสารคดีเวอร์ชั่น ภาษาอังกฤษ ถ้าพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นแล้วคนญี่ปุ่นฟังอยู่ก็คงมีคนสะดุดเช่นกัน
ผมนึกไปถึงตอนที่ผมกลับญี่ปุ่นครั้งก่อน ผมได้นัดกินข้าวกับเพื่อนๆ รวม 3 คน สมมุติชื่อ Y กับ S ผมกับนาย Y แต่งงานแล้วทั้งคู่ แถมแต่งงานกับคนต่างชาติทั้งคู่ด้วย ส่วน S ยังไม่ได้แต่งงาน นาย S ก็เริ่มรู้สึกว่าสังคมญี่ปุ่นปัจจุบันมีแนวโน้มอยู่เป็นโสดก็ช่วงนี้นี่เอง เขาบอกว่ามีเพื่อนของเขาแนะนำให้รู้จักสาวโสดอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน คือ สามสิบปีกลางๆ พูดจริงๆ แล้วสาวคนนั้นสวยมาก เธออยากมีครอบครัวมากด้วย ผมกับนาย Y ตาโตแล้วร้องพร้อมกันว่า เยี่ยมไปเลยดิเรื่องนี้! แต่นาย S สงสัยว่าสาวสวยคนนี้ช่วงสมัยวัยรุ่นน่าจะป๊อบปูล่ามากมายเลยทีเดียว แต่ทำไมยังไม่เเต่งงาน หลังจากคุยกันพอได้ข้อมูลก็รู้ว่าตอนนี้สาวสวยทำงานพาร์ทไทม์แห่งหนึ่ง แล้วอยู่กับพ่อแม่ที่ต่างจังหวัด ซึ่งลักษณะนี้ถ้าคนที่เคยทำงานเป็นพนักงานที่บริษัทแล้วลาออกมาตอนที่เริ่มมีอายุแล้วจะหางานได้ยากมาก บางทีหาไม่ได้เลย จำเป็นต้องทำงานพาร์ทไทม์ตามร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ หรืองานรับจ๊อบทั่วไป แล้วการที่อยู่บ้านกับพ่อแม่ยิ่งแปลว่าไม่ต้องทำงานบ้านเองทั้งหมด ไม่ต้องทำกับข้าวเพราะพ่อแม่ดูแลอยู่ ผมถามว่าแล้วสวยขนาดนี้ตกลงไม่ได้คบกันต่อหรอ นาย S บอกว่า ไม่ เพราะนาย S คิดวิเคราะห์ไปเองว่าสาวสวย 'เค้าไม่ได้รักนาย S เค้าไม่ได้อยากแต่งงาน แต่ต้องการให้มีคนเลี้ยงดู '!! นาย S เลยไม่อยากเจออีกแล้ว ผมกับนาย Y นั่งอ้าปากแล้วพูดว่า 「一体何が不足なのか？ 」(ﾟДﾟ )(ﾟДﾟ ) หา...มีอะไรเป็นปัญหาหรอ ไม่เข้าใจ ( ¯•ω•¯ ) ผมเลยแกล้งแซวไปว่า งั้นช่วยแนะนำให้ผมกับนาย Y หน่อย 555
เรื่องที่ผมเล่าแซวกันขำๆ เพราะทั้งผมและนาย Y ต่างก็แต่งงานแล้ว เหลือแต่นาย S นี่แหละที่ยังไม่แต่งก็เลยแซวว่า ทไไมไม่รีบล่ะ ในโลกนี้เรื่องการแต่งงานเป็นเรื่องที่ต้องมีความรักความเข้าใจและต้องรู้จักซึ่งกันและกัน บางเรื่องมีข้อมูลแต่ก็ไม่มีคำตอบถูกผิด ไม่สามารถตอบคำถามได้แบบเป็นเหตุเป็นผล ในปัจจุบันคนญี่ปุ่นที่แต่งงานแล้ว 15 คู่จะมี 1 คู่ที่หนุ่มญี่ปุ่นแต่งงานกับสาวต่างชาติ ซึ่งอัตราส่วนที่บอกผมเองก็ยืนยันว่าครั้งที่ผมเคยทำงานเกี่ยวกับทะเบียนบ้านที่ส่วนราชการแห่งหนึ่งก็มีอัตราส่วนหนุ่มญี่ปุ่นแต่งงานกับสาวต่างชาติแบบนี้จริงๆ แต่ผู้หญิงญี่ปุ่นมีอัตราแต่งงานกับชายต่างชาติค่อนข้างน้อยมาก ซึ่งผมมีคำที่ชอบอยู่คือ 「君の意見に反対だ、だが、君が反対意見を述べる権利を最大限尊重する。」「 แม้ว่าคุณจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างจากผม แต่ผมก็จะเคารพในสิทธิความคิดเห็นของคุณ 」
นอกจากนั้นรายการทีวีวันนั้นยังเชิญคุณป้านักจัดหาคู่ สมัยก่อนป้าท่านนี้เคยเป็นผู้จัดหาคู่ หรือเรียกกันว่า おせっかいおばさん Osekkai-Obasan ก็ให้สัมภาษณ์ว่าทำไมสมัยนี้หนุ่มสาวญี่ปุ่นไม่นิยมแต่งงาน แกบอกว่า สมัยก่อนจับคู่ผู้ชาย 5 คน มาพบสาว 5 คนต่างก็ลงตัวจับคู่กันไปคบกันแต่งงานกันได้ แต่สมัยนี้ไม่เป็นแบบนั้น ถ้าผู้ชาย 5 คน จับคู่พบกับผู้หญิง 5 คน มักจะเกิดเหตุการณ์ที่ ชายหนุ่มสามารถชอบ สาวคนที่ 1 ,2,3,4,5 ได้ แต่สาวทั้ง 5 คนมักจะเล็งหรือชอบไปที่หนุ่มคนใดคนหนึ่งเท่านั้น เป็นเช่นนี้แล้วจึงทำให้มีหนุ่มที่เป็นที่ป๊อบปูล่าที่สุดเพียงคนเดียว แต่หนุ่มคนอื่นๆ ไม่ถูกเลือก เลยทำให้เกิดปัญหาคนไม่แต่งงานมากขึ้นอีกสาเหตุหนึ่ง
ป้าผู้จัดหาคู่ おせっかいおばさん Osekkai-Obasan แบบอดีตไม่มีแล้วในปัจจุบัน เพราะคนญี่ปุ่นไม่ได้มีลักษณะชาวบ้านต่างจังหวัดเหมือนสมัยก่อนแล้ว ต่างก็ทำงานในเมือง มีความยุ่งวุ่นวาย บางคนก็ไม่อยากเสียเงินไปหาคู่เพราะต้องหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แต่บริษัทหาคู่ยังมีอยู่นะครับเพียงแต่อาจจะทำในระบบงานปาร์ตี้มีค่าหัวหรืออะไรก็ว่าไป ในวันนั้นรายการทีวีบอกว่าเพราะ ป้าผู้จัดหาคู่ おせっかいおばさん Osekkai-Obasan ไม่มีแล้วเลยทำให้คนญี่ปุ่นแต่งงานน้อยลง แต่ผมคิดว่าคงไม่ใช้สาเหตุนี้หรอก อาจจะมีหลายๆ เหตุผลแต่อย่างหนึ่งคือ คนที่ทำงานที่ใดที่หนึ่งนานๆ คนที่แต่งงานไปแล้วก็มี คนที่ยังไม่ได้แต่งก็ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ ไปตลอด ไม่ได้เจอคนใหม่ๆ ก็อยู่ในสภาพแบบเดิม และอีกเหตุผลคือเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะการที่แต่งงานอยู่เป็นครอบครัวต้องซื้อบ้าน ซื้อรถ อุปกรณ์ดำรงชีวิตมากมาย ยิ่งมีลูกก็ยิ่งต้องมีค่าใช้จ่าย ถ้าไม่ช่วยกันทำงานก็อยู่ยาก หลายๆ เหตุผลเช่นนี้คนในปัจจุบันจึงคิดว่าอยู่คนเดียวแบบโสดๆ ไปแบบนี้ไม่มีภาระ ไม่มีความเสี่ยง นั่นเอง วันนี้สวัสดีครับ
ในรายการวันนั้นเชิญคนในวงการสังคมมาสัมภาษณ์ 3 คน มีสาวสวยนักจัดรายการทีวี หนุ่มนักจัดรายการทีวี สาวไม่สวยรุ่นป้า
สาวไม่สวยรุ่นป้า บอกว่า อย่าคาดหวังกับผู้หญิงมากไป คาดหวังในที่นี้ประมาณว่า อย่าหวังให้เธอขยัน ทำงานเก่ง เป็นแม่บ้านแม่เรือน หรือทำอาหารเก่ง ประมาณนั้น คือคนพูดเนี่ยพูดตรงๆ เลยคือบ้านๆ พอป้าแกพูดแบบนี้เลยทำให้คนฟังรู้สึกนิดหน่อยนะครับ ประมาณว่าเอาตัวเองเป็นใหญ่ ฉันจะเป็นยังไงก็ตาม แต่เธออย่ามาคาดหวังฉันมาก ! ถ้าเป็นคุณคุณจะอยากเป็นแฟนกับแกไหม จะไม่ให้คาดหวังในสิ่งที่ผู้หญิงควรจะทำได้นี่ก็ไม่ได้นะครับ เพราะทั้งผู้หญิงผู้ชายต่างก็มีหน้าที่ของตนใช่ไหม
ตอนแรกพอผมฟังแบบนี้ผมยังนึกว่าผมฟังผิดหรือเปล่า ดังนั้นผมจึงโทรศัพท์หาเพื่อนผมที่เก่งภาษาอังกฤษ ว่าผมฟังและเข้าใจความหมายที่ป้าพูดผิดไปหรือเปล่า เพื่อนผมก็แปลได้อย่างผมและรู้สึกแปลกๆ ที่ป้าพูดแบบนี้เช่นกัน นี่เป็นรายการสารคดีเวอร์ชั่น ภาษาอังกฤษ ถ้าพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นแล้วคนญี่ปุ่นฟังอยู่ก็คงมีคนสะดุดเช่นกัน
ผมนึกไปถึงตอนที่ผมกลับญี่ปุ่นครั้งก่อน ผมได้นัดกินข้าวกับเพื่อนๆ รวม 3 คน สมมุติชื่อ Y กับ S ผมกับนาย Y แต่งงานแล้วทั้งคู่ แถมแต่งงานกับคนต่างชาติทั้งคู่ด้วย ส่วน S ยังไม่ได้แต่งงาน นาย S ก็เริ่มรู้สึกว่าสังคมญี่ปุ่นปัจจุบันมีแนวโน้มอยู่เป็นโสดก็ช่วงนี้นี่เอง เขาบอกว่ามีเพื่อนของเขาแนะนำให้รู้จักสาวโสดอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน คือ สามสิบปีกลางๆ พูดจริงๆ แล้วสาวคนนั้นสวยมาก เธออยากมีครอบครัวมากด้วย ผมกับนาย Y ตาโตแล้วร้องพร้อมกันว่า เยี่ยมไปเลยดิเรื่องนี้! แต่นาย S สงสัยว่าสาวสวยคนนี้ช่วงสมัยวัยรุ่นน่าจะป๊อบปูล่ามากมายเลยทีเดียว แต่ทำไมยังไม่เเต่งงาน หลังจากคุยกันพอได้ข้อมูลก็รู้ว่าตอนนี้สาวสวยทำงานพาร์ทไทม์แห่งหนึ่ง แล้วอยู่กับพ่อแม่ที่ต่างจังหวัด ซึ่งลักษณะนี้ถ้าคนที่เคยทำงานเป็นพนักงานที่บริษัทแล้วลาออกมาตอนที่เริ่มมีอายุแล้วจะหางานได้ยากมาก บางทีหาไม่ได้เลย จำเป็นต้องทำงานพาร์ทไทม์ตามร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ หรืองานรับจ๊อบทั่วไป แล้วการที่อยู่บ้านกับพ่อแม่ยิ่งแปลว่าไม่ต้องทำงานบ้านเองทั้งหมด ไม่ต้องทำกับข้าวเพราะพ่อแม่ดูแลอยู่ ผมถามว่าแล้วสวยขนาดนี้ตกลงไม่ได้คบกันต่อหรอ นาย S บอกว่า ไม่ เพราะนาย S คิดวิเคราะห์ไปเองว่าสาวสวย 'เค้าไม่ได้รักนาย S เค้าไม่ได้อยากแต่งงาน แต่ต้องการให้มีคนเลี้ยงดู '!! นาย S เลยไม่อยากเจออีกแล้ว ผมกับนาย Y นั่งอ้าปากแล้วพูดว่า 「一体何が不足なのか？ 」(ﾟДﾟ )(ﾟДﾟ ) หา...มีอะไรเป็นปัญหาหรอ ไม่เข้าใจ ( ¯•ω•¯ ) ผมเลยแกล้งแซวไปว่า งั้นช่วยแนะนำให้ผมกับนาย Y หน่อย 555
เรื่องที่ผมเล่าแซวกันขำๆ เพราะทั้งผมและนาย Y ต่างก็แต่งงานแล้ว เหลือแต่นาย S นี่แหละที่ยังไม่แต่งก็เลยแซวว่า ทไไมไม่รีบล่ะ ในโลกนี้เรื่องการแต่งงานเป็นเรื่องที่ต้องมีความรักความเข้าใจและต้องรู้จักซึ่งกันและกัน บางเรื่องมีข้อมูลแต่ก็ไม่มีคำตอบถูกผิด ไม่สามารถตอบคำถามได้แบบเป็นเหตุเป็นผล ในปัจจุบันคนญี่ปุ่นที่แต่งงานแล้ว 15 คู่จะมี 1 คู่ที่หนุ่มญี่ปุ่นแต่งงานกับสาวต่างชาติ ซึ่งอัตราส่วนที่บอกผมเองก็ยืนยันว่าครั้งที่ผมเคยทำงานเกี่ยวกับทะเบียนบ้านที่ส่วนราชการแห่งหนึ่งก็มีอัตราส่วนหนุ่มญี่ปุ่นแต่งงานกับสาวต่างชาติแบบนี้จริงๆ แต่ผู้หญิงญี่ปุ่นมีอัตราแต่งงานกับชายต่างชาติค่อนข้างน้อยมาก ซึ่งผมมีคำที่ชอบอยู่คือ 「君の意見に反対だ、だが、君が反対意見を述べる権利を最大限尊重する。」「 แม้ว่าคุณจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างจากผม แต่ผมก็จะเคารพในสิทธิความคิดเห็นของคุณ 」
นอกจากนั้นรายการทีวีวันนั้นยังเชิญคุณป้านักจัดหาคู่ สมัยก่อนป้าท่านนี้เคยเป็นผู้จัดหาคู่ หรือเรียกกันว่า おせっかいおばさん Osekkai-Obasan ก็ให้สัมภาษณ์ว่าทำไมสมัยนี้หนุ่มสาวญี่ปุ่นไม่นิยมแต่งงาน แกบอกว่า สมัยก่อนจับคู่ผู้ชาย 5 คน มาพบสาว 5 คนต่างก็ลงตัวจับคู่กันไปคบกันแต่งงานกันได้ แต่สมัยนี้ไม่เป็นแบบนั้น ถ้าผู้ชาย 5 คน จับคู่พบกับผู้หญิง 5 คน มักจะเกิดเหตุการณ์ที่ ชายหนุ่มสามารถชอบ สาวคนที่ 1 ,2,3,4,5 ได้ แต่สาวทั้ง 5 คนมักจะเล็งหรือชอบไปที่หนุ่มคนใดคนหนึ่งเท่านั้น เป็นเช่นนี้แล้วจึงทำให้มีหนุ่มที่เป็นที่ป๊อบปูล่าที่สุดเพียงคนเดียว แต่หนุ่มคนอื่นๆ ไม่ถูกเลือก เลยทำให้เกิดปัญหาคนไม่แต่งงานมากขึ้นอีกสาเหตุหนึ่ง
ป้าผู้จัดหาคู่ おせっかいおばさん Osekkai-Obasan แบบอดีตไม่มีแล้วในปัจจุบัน เพราะคนญี่ปุ่นไม่ได้มีลักษณะชาวบ้านต่างจังหวัดเหมือนสมัยก่อนแล้ว ต่างก็ทำงานในเมือง มีความยุ่งวุ่นวาย บางคนก็ไม่อยากเสียเงินไปหาคู่เพราะต้องหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง แต่บริษัทหาคู่ยังมีอยู่นะครับเพียงแต่อาจจะทำในระบบงานปาร์ตี้มีค่าหัวหรืออะไรก็ว่าไป ในวันนั้นรายการทีวีบอกว่าเพราะ ป้าผู้จัดหาคู่ おせっかいおばさん Osekkai-Obasan ไม่มีแล้วเลยทำให้คนญี่ปุ่นแต่งงานน้อยลง แต่ผมคิดว่าคงไม่ใช้สาเหตุนี้หรอก อาจจะมีหลายๆ เหตุผลแต่อย่างหนึ่งคือ คนที่ทำงานที่ใดที่หนึ่งนานๆ คนที่แต่งงานไปแล้วก็มี คนที่ยังไม่ได้แต่งก็ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ ไปตลอด ไม่ได้เจอคนใหม่ๆ ก็อยู่ในสภาพแบบเดิม และอีกเหตุผลคือเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะการที่แต่งงานอยู่เป็นครอบครัวต้องซื้อบ้าน ซื้อรถ อุปกรณ์ดำรงชีวิตมากมาย ยิ่งมีลูกก็ยิ่งต้องมีค่าใช้จ่าย ถ้าไม่ช่วยกันทำงานก็อยู่ยาก หลายๆ เหตุผลเช่นนี้คนในปัจจุบันจึงคิดว่าอยู่คนเดียวแบบโสดๆ ไปแบบนี้ไม่มีภาระ ไม่มีความเสี่ยง นั่นเอง วันนี้สวัสดีครับ
