ปัตตานี - เจ้าหน้าที่สนธิกำลังบุกตรวจค้นตู้รถไฟ (ตู้สินค้า) ขบวนรถไฟสายสุไหงโก-ลก-กรุงเทพฯ พบของหนีภาษีเพียบ มูลค่ารวมกว่าล้านบาท
วันนี้ (9 พ.ย.) พ.อ.ปราโมทย์ แสงลอย หัวหน้าแผนกประชาสัมพันธ์ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า พ.อ.จตุพร กลัมพสุต ผอ.ชุดปฏิบัติการพิเศษภัยแทรกซ้อน สำนักข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โดยการนำของ พ.อ.ชัยวิทย์ พิมพ์ทอง หัวหน้าชุดปราบปรามภัยแทรกซ้อน สำนักข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรโคกโพธิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรจังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอโคกโพธิ์ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สนธิกำลังจำนวน 50 นาย เข้าตรวจค้นตู้รถไฟ (ตู้สินค้า) ขบวนรถไฟสายสุไหงโก-ลก-กรุงเทพฯ
ซึ่งวิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ปลายทางสถานีรถไฟกรุงเทพฯ ขณะเข้าจอดที่ชานชาลาสถานีรถไฟปัตตานี ภายหลังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่า จะมีการลักลอบลำเลียงสินค้าหนีภาษี และผิดกฎหมายมาบนขบวนรถไฟ เมื่อวานนี้ (8 พ.ย.) เวลา 19.00 น. ที่สถานีรถไฟปัตตานี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
จากการตรวจสอบพบสินค้าหนีภาษีเป็นจำนวนมากบรรทุกในตู้สินค้า ประกอบด้วย เนื้อหมูป่าน้ำหนักประมาณ 4,000 กิโลกรัม นมผงเด็ก 850 กิโลกรัม อาหารแห้ง 150 ลัง สบู่เหลว 30 ลัง และสินค้าเบ็ดเตล็ดที่นำเข้ามาจากประเทศมาเลเซียอีกจำนวนมาก รวมทั้งนกเงือกที่ยังมีชีวิต 3 ตัว ซุกซ่อนอยู่ในลังภายในกระสอบ 3 ใบ รวมมูลกว่าล้านบาท โดยสอบสวนแล้วไม่มีใครยอมรับเป็นเจ้าของ คาดว่าไหวตัวทันในช่วงที่เจ้าหน้าที่เร่งสอบพยานบุคคลบนรถไฟหลบหนีไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ปัตตานี เดินทางมารับนกเงือกทั้ง 3 ตัว ไปตรวจสอบว่ามาจากพื้นที่ไหน
นายเศวต เพชรนุ้ย นายอำเภอโคกโพธิ์ เปิดเผยว่า สินค้าหนีภาษีล็อตนี้เบื้องต้นทราบว่า มาจาก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยทำกันเป็นขบวนการ และทำกันมานานแล้ว เจ้าหน้าที่มีความพยายามที่จะจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นรายใหญ่เพื่อสาวให้ถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม
ในส่วนของกลางจะแยกเป็น 3 ส่วน โดยเนื้อหมูป่า จะให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้นำขยายผลต่อไป ส่วนเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรก็จะทำหน้าที่นำสินค้าที่เข้าประเทศโดยไม่ถูกต้อง เช่น ขนม แป้ง นมผง เพื่อนำไปสู่กระบวนการที่ถูกต้อง ส่วนนกเงือก นั้นทางเจ้าหน้าที่กรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ก็ได้รับไปอนุบาลเพื่อส่งกลับคืนสู่ผืนป่าต่อไป
“ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ถือเป็นภัยแทรกซ้อนหนึ่ง โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับและเน้นย้ำว่าจะต้องกวาดล้างกลุ่มอิทธิพลที่เข้าข่ายภัยแทรกซ้อนให้หมดโดยเร็ว เพื่อปิดช่องว่างระหว่างกลุ่มก่อความไม่สงบกับกลุ่มสินค้าหนีภาษี เชื่อว่าหากกลุ่มภัยแทรกซ้อนเบาบางลง สถานการณ์อาจจะดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งจะได้เร่งหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้” นายอำเภอโคกโพธิ์ กล่าว
