ยะลา - ย้อนรอยพระบารมีในหลวงรัชกาลที่ ๙ ชาวนิคมฯ กือลอง หลั่งน้ำตาร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือพสกนิกรที่ประสบเหตุวาตภัยที่แหลมตะลุมพุก จ.นครศรีธรรมราช ให้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่ จ.ยะลา
วันนี้ (19 ต.ค.) นายสุนทร รอดเนียม ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้นำเหล่าข้าราชการ ลูกจ้าง ประชาชนที่บ้านตลาดนิคมฯ กือลอง ทำพิธีลงนามแสดงความอาลัยต่อหน้าพระบารมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ ที่ทำการนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ ม.6 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา
โดยเหล่าข้าราชการ และประชาชนที่ร่วมพิธีได้ทำการลงนามถวายความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกันนี้ ได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี แด่องค์ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซึ่งทำให้ประชาชนที่เข้าร่วมพิธีต่างร่ำไห้ แสดงความเศร้าโศกเสียใจต่อการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของคนไทยทั้งประเทศ
หมู่บ้านนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ หรือที่เรียกว่า บ้านนิคมฯ กือลอง เป็นหมู่บ้านที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือพสกนิกรที่ประสบเหตุวาตภัยที่แหลมตะลุมพุก จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี พ.ศ.2505 โดยให้มีการจัดสรรที่ดินทำกิน จำนวน 15 ไร่ต่อครอบครัว ให้แก่พสกนิกรที่ย้ายมาตั้งถิ่นฐาน โดยได้เริ่มการก่อสร้างนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อปี พ.ศ.2506 ซึ่งในขณะนั้นมีประชาชนที่ย้ายมาอยู่ในพื้นที่จัดสรรดังกล่าว จำนวนกว่า 3,271 ราย
นายดวน มุสิกแดง อายุ 76 ปี ชาวบ้านนิคมฯ กือลอง หนึ่งในผู้ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐาน และได้เคยเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2510 ซึ่ง พระองค์ได้เสด็จมาเยี่ยมราษฎรที่ประสบเหตุวาตภัยในพื้นที่
นายดวน มุสิกแดง เล่าให้ฟังว่า ได้เข้ารับเสด็จบริเวณที่ทำการนิคมสร้างตนเอง ซึ่งขณะนั้นมีประชาชนเข้ารับเสด็จเป็นจำนวนมาก ได้นั่งเป็นแถวเพื่อรอรับพระองค์ท่าน โดยตนเองนั้นได้ย้ายถิ่นฐานมาเมื่อปี พ.ศ.2508 จาก จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากประสบเหตุวาตภัยที่แหลมตะลุมพุก โดยทางการได้ให้ผู้ประสบภัยลงชื่อสมัครใจมาอยู่ในพื้นที่จัดสรร ตนเอง และครอบครัวก็ได้ย้ายมาอยู่ เมื่อมาถึงสภาพนิคมสร้างตนเองในขณะนั้นยังเป็นป่าไม้รกทึบ ได้รับการจัดสรรที่ทำกินให้ครอบครัวละ 15 ไร่ ตอนนั้นรู้สึกปลื้มใจดีใจ เพราะไม่เคยเห็นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเลย บางคนก็ร้องไห้เมื่อได้เห็นพระบารมีของพระองค์ท่าน
นางจำเรียง มีแต้ม อายุ 77 ปี ชาวบ้านนิคมฯ กือลอง เล่าให้ฟังว่า ตนเองก็ย้ายมาตั้งถิ่นฐานที่บ้านนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ นี้ เมื่อปี พ.ศ.2508 จากเหตุวาตภัยที่แหลมตะลุมพุก จ.นครศรีธรรมราช มาเป็นรุ่นแรกของที่นี่ ตอนนั้นพื้นที่ยังเป็นป่าไม้ หลังได้รับการจัดสรรพื้นที่ทำกิน ก็อยู่อย่างสบายกับครอบครัว 7 คน ลูกทุกคนเรียนจบหมดแล้ว ตนเองเคยเข้าเฝ้ารับเสด็จทั้งในหลวง สมเด็จย่า พระราชินี พระพี่นางเธอ และสมเด็จพระเทพฯ ซึ่งได้พระราชดำเนินเยี่ยมเยียนพสกนิกรในพื้นที่
นางจำเรียง กล่าวอีกว่า ครอบครัวของตนเองรักในหลวงเป็นอย่างมาก รู้สึกเศร้าเสียใจต่อการเสด็จสวรรคต และมีความตั้งใจจะไปกราบพระบรมศพ โดยพระองค์ท่านมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรทุกคน ถ้าหากไม่ได้รับจัดสรรพื้นที่ทำกินให้ก็คงจะลำบาก
ขณะที่ นายสุนทร รอดเนียม ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ คนปัจจุบัน กล่าวว่า พระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีต่อพสกนิกรในพื้นที่อย่างหาที่สุดมิได้ โดยพระองค์ท่านได้มีพระกระแสรับสั่งในครั้งเสด็จเยี่ยมพสกนิกรในพื้นที่ครั้งนั้น เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2510 ว่า ให้ข้าราชการนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ ให้ดูแลสมาชิกนิคมให้มีความอยู่ดีกินดี ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะพวกเขาเหล่านั้นได้ประสบปัญหามาแล้ว ซึ่งปัจจุบันสมาชิกนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ที่ได้รับการจัดสรรที่ดิน ก็มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมาก มีอาชีพเป็นของตนเอง มีคุณภาพชีวิตที่ดี ทางนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ ก็ได้น้อมเอาแนวทางพระราชดำริมาสู่ชาวนิคม ทั้งเศรษฐกิจพอเพียงให้ประชาชนในพื้นที่ได้ปฏิบัติตามแนวทางที่พระองค์ได้ทรงรับสั่งไว้
ซึ่งปัจจุบัน นิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้จัดสรรพื้นที่ทำกินให้แก่พสกนิกรทั้งหมด 121,725 ไร่ มีสมาชิกนิคมทั้งหมด 6,752 ครอบครัว ในพื้นที่ 3 ตำบล คือ ต.ตาเนาะปูเต๊ะ ต.ตลิ่งชัน และ ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา