xs
xsm
sm
md
lg

กป.อพช.ใต้ จดหมายเปิดผนึกจี้ สกว.ทบทวนโครงการร่วม กฟผ. เตือนยิ่งสร้างความขัดแย้งในชุมชนมากขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ขอให้ทบทวนโครงการความร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ชี้มีวาระซ่อนเร้น มุ่งสร้างภาพลักษณ์ผลักดันโรงไฟฟ้าถ่านหิน เตือนจะยิ่งสร้างความขัดแย้งในชุมชนมากขึ้น

วันนี้ (27 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้) ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เรื่อง ขอให้ทบทวนโครงการความร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

โดยเนื้อหาระบุว่า สืบเนื่องจากโครงการความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ร่วมกันสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เพื่อจัดตั้งกองทุนการวิจัยว่าด้วยเรื่องพลังงาน เสมือนจะเป็นเรื่องปกติ

และน่ายินดีที่ กฟผ.มีแนวความคิดที่จะส่งเสริม และสนับสนุนให้ทุนวิจัยผ่าน สกว. ในเรื่องนี้ หากแต่ภายใต้สถานการณ์ความขัดแย้งอย่างหนักด้านพลังงาน โดยเฉพาะการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงจากถ่านหิน จึงถือเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะปกตินักของโครงการนี้

ทั้งนี้ เนื่องจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย หรือ สกว.เป็นที่รับรู้กันในสังคมวงกว้างว่า คือ สถาบันที่สร้างองค์ความรู้ และส่งเสริมให้เกิดกระบวนการวิจัยในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นที่ยอมรับทั่วไปอย่างไม่ต้องสงสัย

โดยเฉพาะการส่งเสริมสนับสนุนให้ชุมชนท้องถิ่นในประเทศไทยได้ใช้เครื่องมือที่เรียกว่า “งานวิจัย” เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนท้องถิ่นต่างๆ ซึ่งนับเป็นคุณค่าที่มิอาจประเมินได้ การสั่งสมชื่อเสียง และเกียรติภูมิของความเป็นสถาบันแห่งการสร้างการเรียนรู้นี้ จึงเป็นความภูมิใจร่วมกันของคนในสังคมไทย โดยเฉพาะประชาชน และภาคประชาสังคมทั่วไป

แต่ในประเด็นโครงการความร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ มีข้อสังเกตดังนี้ กล่าวคือ

ที่ผ่านมา กฟผ.ไม่เคยยอมรับว่าเชื้อเพลิงถ่านหิน คือ มลพิษที่ร้ายแรง แต่ยิ่งดึงดันที่จะหาความชอบธรรมทุกวิถีทาง และกำลังจะใช้สถาบันอย่าง สกว.มารับรองความเชื่อนี้อีกทางหนึ่ง โดยการสร้างความร่วมมือผ่านสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย เพื่อสร้างภาพลักษณ์องค์กรท่ามกลางความขัดแย้งเรื่องการใช้พลังงานถ่านหินในโรงไฟฟ้าใช่หรือไม่

และการใช้งบประมาณ หรือกองทุนส่วนนี้ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการสร้างทางเลือกเพื่อเป็นทางออกของสังคม แต่แท้จริงแล้วเป็นการสนับสนุนผ่านบางกลุ่มบางฝ่ายเท่านั้น ดังนั้น การดำเนินงานในครั้งนี้ของ กฟผ.กำลังกลายเป็นการสร้างความแปลกแยกทางสังคม และในระดับชุมชนมากยิ่งขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น กฟผ.ก็กำลังกลายเป็นคู่ขัดแย้งที่สำคัญกับภาคประชาสังคม หรือคนทั่วไปที่พยายามทักท้วงถึงความอันตรายของโรงไฟฟ้าถ่านหิน อันถือเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งในขณะนี้

สำหรับ สกว.ซึ่งเป็นสถาบันที่มีสถานะที่ดีทางสังคม และได้รับการยอมรับว่าเป็นองค์กรที่สร้างสรรค์สังคมไปสู่สิ่งดีงามผ่านกระบวนการศึกษาวิจัย จึงต้องระมัดระวังในการนำพาองค์กรไปสู่ความขัดแย้งอย่างไม่จำเป็น และอาจจะกลายเป็นคู่ขัดแย้งใหม่เสียเอง

สกว.จึงควรเป็นองค์กรเพื่อการค้นหาคำตอบ หรือหาทางออกให้แก่สังคมอย่างเป็นธรรม และมีคุณธรรมตามหลักวิชาการ และไม่ควรลดบทบาทของตนเองเพียงเพราะเงินงบประมาณจำนวนหนึ่งเพียงเพื่อไปรักษาภาพลักษณ์ขององค์กรใดองค์กรหนึ่งเท่านั้น

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ ซึ่งมีสมาชิกที่เป็นองค์กรนักพัฒนากว่า 20 องค์กรในภาคใต้ จึงของเรียกร้องให้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ทบทวนโครงการความร่วมมือที่ทำขึ้นกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และควรตระหนักถึงเกียรติภูมิขององค์กรที่ได้สั่งสมมาอย่างช้านาน ในฐานะองค์การสาธารณะของสังคมโดยรวม
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น