xs
xsm
sm
md
lg

แกะรอยป่วน 7 จ.ใต้ (7)...เปิดตัวละครสำคัญชุดใหม่ “กลุ่มวาดะห์” ที่มี “วันนอร์” เป็นแกนนำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

แฟ้มภาพ
 
เป็นเวลา 13 วันแล้วสำหรับการทำคดีก่อวินาศกรรม 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเริ่มใช้วิธีการสืบสวนสอบสวนแบบ “ลูบๆ คลำๆ” อันไม่ต่างจาก “ตาบอดคลำช้าง”
 
จนเมื่อวานนี้เป็นครั้งแรกที่หลายคนได้ยิน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กลืนน้ำลายดังเฮือก ก่อนที่จะ “กลับหลังหัน” ให้สัมภาษณ์นักข่าวยาวเหยียดเป็นครั้งแรก อันเป็นการระบุถึงกลุ่มผู้เป็นมือก่อวินาศกรรมว่า เป็นคนใน “ขบวนการบีอาร์เ อ็น” และ “ขบวนการพูโล” แห่งพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
 
ไม่เพียงเท่านั้นยังแถมด้วยการลากเอา “กลุ่มวาดะห์” ซึ่งเป็นกลุ่มของนักการเมืองใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมี “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และรัฐมนตรีหลายกระทรวง ผู้เป็นเป็นแกนนำกลุ่มเข้ามาพัวพันด้วย
 
ประเด็นที่น่าติดตามจากคำให้สัมภาษณ์ของ ผบ.ตร.คือ เส้นทางการเงิน 4.5 ล้านบาท ที่ ผบ.ตร.เชื่อว่าเป็น “ทุน” ที่ใช้ในการ “ว่าจ้าง” ให้มีการก่อวินาศกรรม 7 จังหวัดภาคใต้ในครั้งนี้
 
คำให้สัมภาษณ์ของ ผบ.ตร.อาจจะ “ตีวงกว้าง” ไปบ้าง และยังพยายามที่จะรักษากรอบของ “ธง” ครั้งแรกที่เกิดระเบิดชักตั้งไว้ กล่าวคือ เรื่องเป็นของ “การเมือง” และ “ประชามติ”
 
แต่การพาดพิงถึง “กลุ่มวาดะห์” ก็คือการพาดพิงถึง “การเมือง” และพาดพิงถึง “ประชามติ” ด้วยนั่นเอง เพราะเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ถือเป็นพื้นที่ไม่รับประชามติ และเมื่อการพาดพิงถึง “กลุ่มวาดะห์” ก็สามารถเชื่อมโยง และร้อยรัดไปยังบีอาร์เอ็น และพูโลได้แบบเนียนๆ
 
สำหรับ “รายงานแกะรอยป่วน 7 จ.ใต้” ที่ติดตามเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราเชื่อโดยสุจริตใจว่า คดีนี้มี “จุดเปลี่ยน” อยู่ที่การจับกุมผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ จ.สงขลา อันเป็น “ผู้ทำหน้าที่รับ-ส่งคนร้าย” ไปขึ้นรถตู้ หรือรถทัวร์จากพื้นที่ อ.หาดใหญ่ เพื่อเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ ที่เป็นเป้าหมายในการก่อวินาศกรรม
 
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจสืบสวนภาค 9 ชุดที่ 1 ได้ทำการรวบตัว 2 ผู้ต้องสงสัยว่าเป็น “ผู้อยู่ในขบวนการก่อวินาศกรรม” ในฐานะที่เป็นผู้รับ-ส่งมือระเบิดได้แล้ว และอยู่ระหว่างการสอบขยายผลเพื่อจับกุมคนในเครือข่ายต่อไป
 
แหล่งข่าวในชุดสืบสวนสอบสวน เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการติดตามจับกุม “ผู้ที่อยู่ในเครือข่าย” ทั้งที่อยู่ในพื้นที่ของ อ.หาดใหญ่ อ.จะนะ และ อ.เมือง จ.สงขลา เพียงแต่ยังมีปัญหาในเรื่องว่า จะรู้เฉพาะกลุ่มของตนเองว่ามีหน้าที่อะไร แต่ไม่รู้ในรายละเอียดของ “แผนการก่อวินาศกรรม” โดยรวม รวมถึงบุคคลที่ตนไปรับ-ส่งมีภารกิจต้องไปปฏิบัติการทำอะไร พวกเขากลับไม่รู้อะไรแลย
 
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า มมีการวางแผนเพื่อให้เกิดการ “ตัดตอน” หรือ “คัตเอาต์” เอาไว้อย่างแนบเนียนยิ่ง โดยเฉพาะเหมือนกับคดีการวางระเบิดในที่อื่นๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผ่านมา
 
แหล่งข่าวชุดสืบสวนเพิ่มเติมว่า ได้นำผู้ต้องสงสัย 2 ราย ไปควบคุมตัวไว้ใน “ค่ายทหารแห่งหนึ่ง” เพื่อรอให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพารหมณกุล รอง ผบ.ตร. ได้ไปทำการสอบสวน และตรวจหลักฐานด้วยตัวเอง ก่อนที่จะแจ้งข้อหา
 
เนื่องเพราะไม่ต้องการให้เป็นเหมือนประวัติศาสตร์ซ้ำรอยว่า เป็นการ “จับแพะ” อย่างกรณีของ “นายศักรินทร์ คฤหัสถ์” ที่สร้างความเสียหายให้แก่ตำรวจมาแล้ว
 
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวยังเปิดถึงถึงเรื่อง “เส้นทางการเงิน 4.5 ล้านบาท” ด้วยว่า กรรี ผบ.ตร.อ้างเป็นข้อมูลว่า อาจจะเป็นเงินที่ใช้ “ว่าจ้าง” ในการก่อวินาศกรรมในครั้งนี้นั้น
 
ทว่าจากการตรวจสอบกลับยัง “ไม่มีความชัดเจน” และบุคคลดังกล่าวก็ไม่อยู่ในพื้นที่ แต่อาจจะเป็นเงินที่เกี่ยวพันกับคดี “ภัยแทรกซ้อนไฟใต้” ซึ่งเป็นเรื่องของเหตุการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และถูกนำมาเชื่อมโยงกับ “กลุ่มการเมือง” ในพื้นที่ และ “บีอาร์เอ็น”
 
แหล่งข่าวในด้านความมั่นคงกล่าวว่า เมื่อคดีนี้ถูกทอดระยะเวลาให้ดำเนินไปถึงจุดหนึ่ง กลับพบว่า เป็นการยากแล้วที่จะจับกุมใครมาเป็นผู้ต้องหา แม้ว่าจะมีรายละเอียดของกลุ่มก่อเหตุมากขึ้น เพราะผู้ต้องหาตัวจริงได้หลบหนีเตลิดเปิดเปิงไปหมดแล้ว
 
ส่วนที่ทำการควบคุมตัวไว้นั้นส่วนใหญ่เป็นเพียง “ผู้ต้องสงสัย” ว่าเป็นผู้ที่อยู่ในขบวนการเดียวกับผู้ต้องหา ซึ่งอาจจะรู้เรื่องของกลุ่มมือปฏิบัติการวางระเบิดเท่านั้น
 
ส่วนในกรณีที่ ผบ.ตร.อ้างว่า มีคนใน “กลุ่มวาดะห์ อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายในครั้งนี้นั้น แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวความมั่นคง รวมถึงฝ่ายปกครองต่างยืนยันเป็นสียงเดียวกันว่า การก่อวินาศกรรม 7 จังหวัดภาคใต้ในครั้งนี้มี “นักการเมืองในชายแดนใต้” รับรู้เรื่องราวแน่นอน
 
ส่วนจะเข้าไปมีส่วนในเรื่องนี้แค่ไหน หรือพียงใด กลับยังไม่มีหลักฐานในการเชื่อมต่อ ซึ่งเวลานี้สามารถยืนยันได้ว่า พวกเขารู้กันในกลุ่มที่เป็นระดับนำ และสุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถหาหลักฐาน และพยานในการเอาผิดพวกเขาได้ อันเหมือนกับหลายๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเป็นที่รับรู้กันมานมนานแล้ว
 
ในขณะที่แกนนำในกลุ่มวาดะห์เองที่ไม่ขอให้เปิดเผยชื่อกล่าวถึงประเด็นนี้ให้ฟังว่า กลุ่มนักการเมืองในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้พูดคุยกันมาตั้งแต่วันที่เกิดเหตุใหญ่เมื่อ 12 ส.ค.แล้ว และพยากรณ์ล่วงหน้าแล้วว่า สุดท้ายคดีนี้จะถูกฉุดลากให้ไปถึง “กลุ่มวาดะห์” เหมือนกับหลายครั้งที่เกิดเรื่องใหญ่ๆ
 
“ถ้ามีหลักฐานชัดเจน และระบุว่ามีคนในกลุ่มวาดะห์ร่วมในขบวนการจริงจัง เชิญมาจับได้เลย และขอรับรองจะไม่มีใครแม้สักคนเดียวหลบหนีการจับกุมด้วย”
 
อย่างไรก็ตาม “รายงานแกะรอยป่วน 7 จ.ใต้” จะทำหน้าที่แกะรอยการก่อวินาศกรรมระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ในครั้งนี้ต่อไป เพื่อที่คนส่วนหนึ่งจะได้รับรู้ถึงความคืบหน้าของคดีนี้อย่างต่อเนื่อง เพรานี่คือ “พันธกิจของผู้มีอาชีพเป็นสุนัขเฝ้าบ้าน และอาจจะต้องจุดคบไฟถือเดินนำหน้าบ้างในบางครั้งบางครา
 
--------------------------------------------------------------------------------
 
อ่านเรื่องเกี่ยวเนื่อง
 
- แกะรอยป่วน 7 จ.ใต้ (1)..ข้อมูลข่าวกรองยันป่วน 7 จ.ใต้โยง “ไฟใต้” ตามติด 13 รายชื่อ-จิ๊กซอว์เส้นทางก่อเหตุ
 
- แกะรอยป่วน 7 จ.ใต้ (2)...เปิด “แผนอำพรางรุก-อำพรางถอย” ทีมวินาศกรรมที่ล้วนไปจาก “นราฯ” และ “หมายจับแท้ง”
 
- แกะรอยป่วน 7 จ.ใต้ (3)...หวย “จับแพะชนแกะ” ออก 17 มือก่อการ 13 เข้ามาเลย์แล้ว จับตาเงื่อนไขใหม่ “สงขลา” จะรอดไหม?
 
- แกะรอยป่วน 7 จ.ใต้ (4)...สันติบาลมาเลย์ยกนิ้ว “มือพระกาฬ” เบื้องหน้าดูเหมือน ตร.จะปิดจ๊อบแล้ว แต่เบื้องลึกยังลุยต่อ
 
- แกะรอยป่วน 7 จ.ใต้ (5)...ดูท่าจะไปกันใหญ่! วงจรปิดชี้ “สรีระ” มือบึ้มคล้าย “กลุ่มต่างชาติ” เคยพัวพันวินาศกรรมไทย
 
- แกะรอยป่วน 7 จ.ใต้ (6)...งัดไม้เด็ด! ตร.ขอข้อมูลค่ายมือถือถอดรหัสสนทนา พร้อมเร่งจี้พยานแวดล้อมมือปฏิบัติการจากไฟใต้
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น