xs
xsm
sm
md
lg

สอบท่อน้ำเลี้ยงทีมบึ้ม บิ๊กแป๊ะแฉมืออาชีพรับงาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360-"จักรทิพย์"ย้ำขบวนการบึ้ม-เผา 7 จังหวัดใต้ มีมากกว่า 20 คน เผยเป็นคนรุ่นใหม่ที่ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แฝงกายเป็นนักท่องเที่ยว สั่งตรวจสอบเส้นทางการเงินหาท่อน้ำเลี้ยง "ศรีวราห์"บินไปนครศรีธรรมราช ขอหมายศาลทหารจับ "ศักรินทร์"อีกครั้ง รัฐบาลเคาะจ่ายเยียวยา เสียชีวิตรับ 1.18 ล้านบาท ตำรวจสุราษฎร์ฯ จ่าย 1 แสน คนให้เบาะแส 2 คนร้าย "บิ๊กป้อม"ยันจับ 15 นปป. ไม่ใช่แพะ เผยล่าสุดศาลให้ประกันตัว เผยอดีตนักข่าวรอยเตอร์หย่าเมียแล้ว ตรังเกือบวุ่นอีก หลังเจอกระเป๋าต้องสงสัย

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ระหว่างวันที่ 10-12 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า การสืบสวนนับตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.เป็นต้นมา มีความคืบหน้าไปมากจนทราบขั้นตอน วิธีการ และจุดรวมตัวของผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว ซึ่งต้องทำด้วยความรอบคอบ ทั้งการเดินทางมาและเดินทางกลับหลังจากเสร็จภารกิจ ทราบแล้วว่าแผนประทุษกรรมของคนร้ายเป็นอย่างไร น่าเชื่อว่าจะมีผู้ร่วมขบวนการ 20 คนขึ้นไป โดยวิธีการผิดแปลกไปจากธรรมเนียมประเพณีของคนมุสลิม โดยครั้งนี้การก่อเหตุพยามปกปิดใบหน้า ใส่กางเกงขาสั้น เพื่ออำพรางตัวเอง โดยปกติแล้วการแต่งกายต้องเป็นไปตามวัฒนธรรมของตัวเอง แต่ครั้งนี้พยายามทำตัวทำคล้ายนักท่องเที่ยวเพื่อก่อเหตุ ขณะนี้ออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุเพียง 1 ราย คือ นายอาหะมะ เลงหะ ชาว จ.นราธิวาส จากกรณีวางระเบิดที่ป่าตอง จ.ภูเก็ต

ส่วนประเด็นการก่อเหตุยังไม่ตัดทิ้ง ทั้งเรื่องการลงเสียงประชามติ การสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ การขยายพื้นที่ของแนวร่วมก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจะจริงหรือไม่จริงก็ยังไม่ตัด หรืออาจจะมาทำงานแบบรับจ้างเฉพาะกิจก็อาจจะเป็นไปได้ เบื้องต้นในทางสืบสวนหน้าที่รู้ตัวแล้วว่ามีคนร้ายมากกว่า 20 คน ส่วนหนึ่งมีหมายจับ มีประวัติก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

“การก่อเหตุครั้งนี้เป็นคนลงมือจากคนรุ่นใหม่ หลายคนไม่เคยมีประวัติมาก่อน แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าเป็นการกระทำของกลุ่มใด เพราะยังไม่มีการประกาศตัวอย่างชัดเจน แต่คนรุ่นเก่าก็อาจจะมีส่วนร่วมในการสนับสนุน เพราะดูจากแผนประทุษกรรมแล้วแทบจะเป็นคนรุ่นใหม่ ซึ่งทางการสืบสวนค่อนข้างลำบาก แต่เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานอยู่ทั้ง 20 กว่าคน เชื่อว่าทั้งหมดผ่านการฝึกฝนก่อนที่จะมาก่อเหตุ ถ้าได้ตัวคนหนึ่งใน 20 คนนี้ก็อาจจะรู้ตัวผู้บงการ พวกนี้เป็นระดับปฏิบัติการอยู่แล้วและมีการแบ่งงานกันทำชัดเจน มีการเดินทางมารับภารกิจจังหวัดใครจังหวัดมัน ส่วนจะมีการควบคุมตัวใครตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือมาตรา 44 หรือไม่ เป็นเรื่องของการสืบสวน ผมขอไม่พูด” ผบ.ตร.กล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนของ 20 คนนี้ ส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอไม่เปิดเผยว่าเป็นคนสองสัญชาติหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามอยู่ในพื้นที่ จ.ยะลา นราธิวาส และปัตตานี ส่วนจะเป็นแนวร่วมกลุ่มบีอาร์เอ็น หรือพูโลเก่า-ใหม่ หรือไม่ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดออก

***สั่งเช็กเส้นทางการเงิน

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวถึงกรณีพบพิรุธว่าการโอนเงิน 4.5 ล้านบาทเข้าบัญชีผู้ต้องสงสัยว่า เรื่องนี้่อยู่ในการสืบสวนเส้นทางการเงิน ซึ่งกำลังดำเนินการ ส่วนจะออกหมายจับถึงระดับสั่งการหรือไม่นั้น ตนเองก็อยากให้สาวถึงระดับบงการ ขณะนี้ทีมสืบสวนพยายามทำงานอย่างเต็มที่

***ขอหมายจับ "ศักรินทร์"อีกครั้ง

พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการกองแผนงานอาชญากรรม สำนักยุทธศาสตร์ตำรวจ ในฐานะคณะพนักงานสอบสวน กล่าวว่า วันนี้ (23 ส.ค.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. จะเดินทางไปจ.นครศรีธรรมราช เพื่อขออนุมัติศาลทหารออกหมายจับนายศักรินทร์ คฤหัสถ์ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้มีการถอนหมายจับและปล่อยตัวไป ส่วนพยานหลักฐานที่จะนำไปมอบให้ศาล ยังเป็นชุดเดิม แต่มีหลักฐานเพิ่มบางส่วน ส่วนจะเกี่ยวข้องอย่างไร ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ อยู่ในสำนวน หากศาลมีความเห็นอย่างไรจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้ง

**สรุปเยียวยาตายได้1.18ล้านบาท

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหาทางเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ และระเบิด 7 ในจังหวัดภาคใต้ โดยมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ ปลัดกระทรวงยุติธรรม รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

หลังการประชุม นายวิษณุ แถลงว่า มีการพิจารณาเยียวยาช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ประสบภัย อันเกิดจากการวางระเบิดและการวางเพลิงเผาทรัพย์ ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ที่มีผู้เสียชีวิต 4 ราย เป็นคนไทยทั้งหมด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 37 ราย เป็นคนไทย 26 ราย ต่างชาติ 11 ราย ประกอบด้วย เยอรมัน อิตาลี เนเธอร์แลนด์ และออสเตรเลีย ซึ่งเดินทางกลับประเทศแล้ว 10 ราย และยังพักรักษาตัวอยู่ 1 ราย เบื้องต้นหลายหน่วยงานได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือเยียวยาไปบ้างแล้ว โดยการเยียวยา ผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินรายละ 1.18 ล้านบาท ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ความช่วยเหลือเป็นไปตามระดับความรุนแรง

***ให้1แสนแจ้งเบาะแส2ผู้ต้องสงสัย

พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ตั้งรางวัลนำจับ 1 แสนบาท ให้แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแส 2 ผู้ต้องสงสัยที่กล้อง CCTV ของร้านทวีสิน พลาสติก สามารถบันทึกไว้ได้ หลังจากทั้ง 2 คนได้เข้าไปทำทีซื้อสินค้าภายในร้าน และลักลอบวางเพลิงในชั้นวางสินค้า 2 จุด จึงขอความร่วมมือประชาชนที่พบเห็นผู้ต้องสงสัย หรือมีเบาะแสของทั้งคู่ หรือมีภาพผู้ต้องสงสัยที่เปิดหน้า หรือมีภาพกล้องที่ติดหน้ารถบันทึกภาพไว้ได้ในลักษณะที่เห็นใบหน้าของบุคคลทั้ง 2 ให้แจ้งมาที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-1787-4224 ซึ่งเป็นหมายเลขของตนเอง ทางตนจะปกปิดเป็นความลับและปกป้องคุ้มครองผู้ให้เบาะแสอย่างสูงสุด

***"บิ๊กป้อม"ยันจับ15นปป.ไม่ใช่แพะ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการติดตามมาตัวคนร้ายลอบวางระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ ว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวคนร้ายอยู่ ซึ่งได้ตัวมาแล้วบางคน แต่ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน ถ้าเปิดเผยไปเกรงว่าจะเกิดความวุ่นวาย ส่วนที่มีการติดตามผู้ต้องสงสัยส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมีข้อมูลเชื่อมโยงหรือไม่นั้น ตนยืนยันว่าได้ข้อมูลมาก แต่ถ้าบอกตอนนี้ ก็ไม่มีประโยชน์ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ และออกมาแถลงพร้อมกัน พร้อมทั้งขอยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีความเชื่อมโยงกับความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

สำหรับที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า 15 แกนนำพรรคแนวร่วมปฏิวัติเพื่อประชาธิปไตย (นปป.) ที่เป็นคนสูงอายุนั้น ตนเข้าใจว่าพวกเขาทำกันมานาน และตอนนี้ก็ทำผิดกฎหมายไม่ว่าจะแก่ หรือหนุ่ม ถ้าทำผิดกฎหมาย และทำผิดรัฐธรรมนูญ ก็ต้องดำเนินการ ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้จับแพะ เพราะมีการติดตามกันมานาน จนมีการเคลื่อนไหวที่แรงขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องติดตามจับกุมตัวในที่สุด

เมื่อถามถึงการจับกุมตัวนางมีนา แสงศรี แม่ค้าขายพริกแกงนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า พบมีการเชื่อมโยงกัน ถ้าไม่มีหลักฐานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คงไม่จับ

*** ยื่นประกันตัว15 นปป.รายละ1แสน

ที่ศาลทหารกรุงเทพ นายธนเดช พ่วงพูล ทนายความสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.) ซึ่งเป็นทนายความของ 15 ผู้ต้องหา ในคดีผิดตาม มาตรา 209 ตามประมวลกฎหมาย ป.วิอาญา ข้อหา การกระทำผิดอั้งยี่ และฝ่าฝืนคำสั่งคสช. ที่ 3/2558 ว่าด้วยการชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ได้เดินทางมายื่นเอกสาร และหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัวทั้ง 15 คน รายละ 1 แสนบาท หลังจากที่ศาลทหารกรุงเทพ ได้อนุญาตฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยทั้ง 15 คน เป็นแกนนำ นปป.

ทั้งนี้ ล่าสุดศาลทหารกรุงเทพได้อนุญาตให้ประกันตัวทั้ง 15 คน เป็นวงเงินประกันคนละ 1 แสนบาท โดยมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ ห้ามเคลื่อนไหวทางการเมืองและห้ามแสดงความคิดเห็นทางการเมือง

***อดีตนักข่าวรอยเตอร์หย่าเมีย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แอนดรูว์ แม็กเกรเกอร์ มาร์แชล อดีตผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ประจำประเทศไทย ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เขาและภรรยาตัดสินใจหย่ากันแล้ว เนื่องมาจากเหตุการณ์เมื่อเดือนก่อน ซึ่งบ้านของครอบครัวภรรยา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นายบุกไปที่บ้าน และเธอเองถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสอบสวนนานหลายชั่วโมง เพียงเพราะเธอเป็นภรรยาของเขา และตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า พลอยและครอบครัวของเธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับงานของตน และไม่ควรต้องเผชิญกับการคุกคามโดยรัฐบาลทหารและผู้สนับสนุน อย่ายุ่งกับพวกเขา

***เกือบวุ่นพบกระเป๋าต้องสงสัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 ส.ค. พ.ต.ท.เอกชัย สีดำ สวป.สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่า มีกระเป๋าต้องสงสัยวางอยู่บริเวณจุดรับส่งผู้โดยสาร ถ.ตรัง-ปะเหลียน อยู่ห่างจากห้างเทสโก้ โลตัส สาขาตรัง ประมาณ 50 เมตร จากนั้นได้รายงานใให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วย พ.ต.ท.ภูมิ บาลทิพย์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองตรัง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ และเจ้าหน้าที่จราจร รุดตรวจสอบ พบกระเป๋าต้องสงสัยสีดำ จำนวน 2 ใบ และได้ประสานไปที่เจ้าหน้าที่อีโอดี เข้าทำการเก็บกู้ระเบิด แต่ต่อมาได้มีนายเอก (นามสมมติ) ชาว อ.ควนโดน จ.สตูล แสดงตัวอ้างว่าเป็นเจ้าของกระเป๋า และกล่าวขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ท่ามกลางความโล่งอกของชาวบ้านและนักท่องเที่ยว
กำลังโหลดความคิดเห็น