ศูนย์ข่าวภาคใต้ - เปิดสถานะทางการเงินประปาเทศบาลนครศรีธรรมราช บักโกรกขาดทุนหนักทุกเดือน หนี้ค้างค่าไฟเกือบ 10 ล้าน หาญกล้าซื้อน้ำเอกชนวันละ 5 แสน ท่ามกลางพิรุธเอกสารอื้อ เตรียมวัดใจ ส.ท.กล้ายกมือ “เพื่อใคร”
วันนี้ (17 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครศรีธรรมราช ความเคลื่อนไหวในการติดตามกรณีผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ผ่านมหากาพย์ ประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เป็นตอนที่ 5 แล้ว สำหรับการเตรียมนำญัตติขอความเห็นชอบให้เอกชนเข้ามาดำเนินการพัฒนาระบบประปา และจำหน่ายน้ำประปาให้เทศบาลนครนครศรีธรรมราช และขอความเห็นชอบก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายเกินกว่า 1 ปีงบประมาณ ซึ่งเป็นญัตติที่เสนอโดย นายเชาว์นวัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ให้แก่สภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช พิจารณาในวันที่ 18 พ.ค.59 โดยโครงการนี้มีสาระสำคัญคือ การให้เอกชนเข้ามาผูกขาดขายน้ำให้เทศบาลนครนครศรีธรรมราช เป็นระยะเวลา 30 ปี มีมูลค่ารวมกว่า 5 พันล้านบาท
ท่ามกลางกระแสของความไม่พอใจ และความเดือดร้อนของประชาชน ที่เป็นลูกค้าของสำนักการประปาในความดูแลบริหารจัดการของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยาวนานนับแรมเดือน ท้ายที่สุด เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นายดนัย เจียมวิเศษสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช หัวหน้าคณะทำงานแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำของประชาชน เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่แหล่งน้ำดิบในย่านใกล้เคียงกับโรงสูบน้ำท่าใหญ่ ตำบลท่าดี อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่เป็นของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เป็นที่น่าดีใจ ตกใจ หรือเสียใจ แล้วแต่ผู้ติดตาม น้ำปริมาณมหาศาลที่พร้อมจะถูกสูบเข่าสู่ระบบผลิตประปาของเทศบาลแห่งนี้ ทั้งที่เจ้าของที่ดินพร้อมที่จะให้สูบน้ำเข้ามาโดยไม่ได้คิดมูลค่าใดๆ แต่เป็นที่น่าเสียใจสำหรับผู้ใช้น้ำ วิสัยทัศน์ที่จะเตรียมความพร้อมหาไม่เจอ แต่รองผู้ว่าราชการจังหวัดรายนี้ต้องเป็นแม่งานในการสั่งงานการติดตั้งเครื่องสูบน้ำจึงเริ่มขึ้น สิ่งนี้คงจะสร้างความคับข้องใจสำหรับเป้าหมายที่มองไกลไปอีก 30 ปีข้างหน้าไม่น้อย
“น้ำมีพอ” แต่ไม่มีแผนในการจัดการนำมาใช้ ไม่น่าจะผิดนักสำหรับวิกฤติการณ์ของผู้ใช้น้ำของสำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ลามไปถึงความเสี่ยงต่อชีวิตผู้ป่วยที่ต้องพึ่งพาระบบการรักษาของโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช น้ำสำหรับศูนย์ไตเทียมไม่มี ต้องหยุดบริการ เป็นผลพวงจากวิสัยทัศน์อันยาวไกล แต่สั้นเพียงแค่ 30 ปี ของใครบางคน
เมื่อดูสถานะทางการเงินในปัจจุบันของสำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช อยู่ในสภาพบักโกรกหนี้สินมหาศาล รายได้ในแต่ละเดือนทีเพียง 6 ล้านบาทเศษ แต่ต้องมีรายจ่ายถึงเดือนละกว่า 8 ล้าน ไม่รวมหนี้ค่าไฟฟ้าที่ค้างจ่ายอีกกว่า 8 ล้านบาท เหตุใดถึงหาญกล้ายอมพลีสภาพคล่องซื้อน้ำจากเอกชนวันละ 48,000 ลบ.ม. มูลค่าร่วม 5 แสนบาทต่อวัน เฉลี่ยต่อเดือนราว 15 ล้านบาท เงินจากไหนจะมาถมให้สำนักการประปา หรือจะเลยไปถมบ้านใครบ้างคน คงเป็นคำถามที่ตอบยาก
วันนี้ (17 พ.ค.) คงเป็นโค้งสุดท้ายที่จะต้องมีการพิจารณาญัตติผูกขาดน้ำ 30 ปี ให้แก่เอกชนของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยมีรายงานการศึกษาที่วงการวิชาการ เรียกว่า “งานอัปยศ” ที่ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าใครทำ แม้ว่าหน้าปกจะระบุว่า เป็นการเสนอโดยภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้เสนอจากการว่าจ้างโดยเทศบาลให้สถานการศึกษาแห่งนี้จัดทำด้วยมูลค่า 2 แสนบาท ต่อรายงาน 10 เล่ม และใช้เวลาในการจัดทำสำหรับโครงการมูลค่าครึ่งหมื่นล้านบาทเพียง 45 วัน
สมาชิกสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ผู้ทรงเกียรติทั้งหมดมีอยู่ 22 เสียง จะต้องพิจารณา ญัตตินี้ท่ามกลางความสนใจ และเสียงคัดค้านอย่างหนักในสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าแม้ประชาชนจะจับได้ไล่ทันความไม่ชอบมาพากล หรือการจัดซื้อที่ดิน 600 ไร่รองรับผลประโยชน์นี้ไว้เรียบร้อยแล้ว มือของผู้ทรงเกียรติที่ยกออกมาแน่นอนว่า สำหรับการปกป้องผลประโยชน์ให้แก่ประชาชน แต่ถ้ายกมือแล้วเพื่อเพียงประโยชน์ชั่วครู่ ชั่วคราว สนองใครบางคนมันไม่ต่างอะไรกันกับฝักถั่ว
เรื่องนี้เห็นทีจะต้องถึงหู ลุงตู่ เสียแล้วกระมัง ในฐานะที่ลุงเป็นคนออกวีซ่า