ศูนย์ข่าวภาคใต้ - หางโผล่ตามนัดทิ้งทวนโปรเจกต์ยักษ์ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ประเคนเอกชนผูกขาดขายน้ำประปาให้ชาวบ้านอีกครั้ง อึ้ง 30 ปี จ่อรับเละกว่าครึ่งหมื่นล้าน เตรียมเข็นเข้าสภา 18 พ.ค. หึ่งตลาด “ฝักถั่วราคาพุ่งกระฉูด”
วันนี้ (9 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากปัญหาวิกฤตการณ์ผู้ใช้น้ำของสำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เป็นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความสงสัยของหลายฝ่ายที่แหล่งน้ำดิบสำรองที่มีอย่างเพียงพอ รวมทั้งแหล่งน้ำธรรมชาติที่ยังมีอย่างพอเพียงสำหรับการสูบผลิตน้ำประปาเข้าสู่ระบบจำหน่าย แต่ประปาชนผู้ใช้น้ำกลับเดือดร้อนอย่างหนัก
ขณะที่ผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยืนยันมาก่อนหน้านี้โดยตลอดเวลา น้ำในแหล่งน้ำดิบที่เช่าใช้ 2 บ่อ และมีการให้เปล่าอีก 1 บ่อ เพียงพอต่อการผลิตประปา แต่ทุกอย่างสวนทางอย่างสิ้นเชิง ขณะที่มีการตั้งข้อเกตว่า ประชาชนผู้ใช้น้ำของสำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช กำลังตกเป็นตัวประกันโดยอ้างเอาความเดือดร้อนเป็นเหตุผล ดึงเอาเอกชนเข้ามาผลิตน้ำประปาขายให้แก่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช และส่งเข้าระบบจำหน่ายขายต่อให้แก่ประชาชนผู้ใช้น้ำ
ท่ามกลางกระแสข่าวความพยายามของนักการเมืองระดับชาติที่ส่งคนเข้ากว้านซื้อพื้นที่ย่านชานเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อรองรับโครงการ โดยมีแนวโน้มว่าผู้ที่จะได้สิทธินั้นจะเป็นบริษัทเอกชนที่ใกล้ชิดกับพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่นักการเมืองรายนี้สังกัดอยู่
ความคืบหน้าล่าสุด พบว่า ในที่สุดเป็นตามคาดหมายหลังจากที่ “MGR ONLINE ภาคใต้” ได้เสนอข่าวนี้มาอย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ล่าสุด นายเชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ได้นำญัตติการขอความเห็นชอบให้เอกชนเข้ามาดำเนินการพัฒนาระบบประปา และจำหน่ายน้ำประปาให้เทศบาลนครนครศรีธรรมราช และขอความเห็นชอบก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายเกินกว่า 1 ปีงบประมาณ
โดยสาระสำคัญคือ ให้เอกชนเข้ามาผลิตประปาส่งให้แก่เทศบาลตลอดระยะเวลา 30 ปี โดยเฉลี่ยเทศบาลจะต้องซื้อน้ำจากเอกชนตกวันละ 48,000 ลบ.ม.ในราคาอัตราก้าวหน้าตลอด 30 ปี เฉลี่ยรวมมูลค่าที่เทศบาลจะต้องชำระค่าน้ำให้แก่บริษัทเอกชนถึงราว 6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นประโยชน์ที่ตกอยู่กับเอกชนตลอดทั้ง 30 ปี โดยญัตตินี้ได้ถูกบรรจุเข้าเป็นวาระที่ 6 วาระ 6.7 ในการประชุมสภาสมัยสามัญ สมัยที่ 2 ประจำปี 2559 ในวันที่ 18 พ.ค.59
โดยในญัตตินี้เคยถูกเสนอไปแล้วเมื่อช่วงปี 2558 แต่ไม่ประสบความสำเร็จต้องตกไป โดยได้นำกลับมาใหม่อีกครั้งในสมัยนี้ ขณะที่ก่อนหน้านี้ ได้มีกระแสข่าวของการเตรียมพื้นที่รองรับโครงการย่านชานเมืองนครศรีธรรมราช โดยที่เทศบาลได้จัดวางท่อไว้เรียบร้อยแล้วเพื่อรองรับการส่งน้ำ อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายที่เฝ้าติดตาม และตรวจสอบการแก้ไขปัญหาระบบประปาของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช มาตลอด 4 ปี และเข้าสู่ปีที่ 5 ช่วงต่ออายุการดำรงตำแหน่งของ คสช.ได้ใช้งบประมาณไปแล้วราว 100 ล้านบาท แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้ ขณะที่ผู้บริหารพยายามที่จะผลักดันโครงการ เช่น การจัดซื้อเครื่องสูบน้ำ ระบบไฟฟ้า การจัดวางท่อแม้ว่าจะมีระบบท่อที่เพิ่งวางเสร็จแต่กลับไม่ยอมใช้งาน พยายามที่จะจัดงบประมาณมาวางใหม่อย่างต่อเนื่อง
โดยหลังจากที่ญัตตินี้ได้ถูกเผยแพร่ออกมาในหลายช่องทาง โดยที่ประชาชนไม่เคยรับรู้มาก่อน และขาดการชี้แจงทำความเข้าใจ หรือการเปิดรับฟังความคิดเห็นการให้สัมปทานแก่เอกชนผูกขาดน้ำถึง 30 ปี กระแสความไม่พอใจเริ่มแพร่หลายมากขึ้น ทุกฝ่ายต่างพุ่งเป้าไปที่การปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ว่า จะมีความคิดเห็นอย่างไร และจะตัดสินใจอย่างไรในช่วงของวาระพิเศษของการดำรงตำแหน่งสำหรับโครงการผูกขาดนี้ที่ถูกเสนอเข้ามาโดยฝ่ายบริหาร ท่ามกลางเสียงเปรียบเปรยเหน็บแนมจากสังคมออนไลน์ ว่า ภายหลังจากญัตตินี้ถูกนำเข้าสู่สภา ส่งผลให้ตลาดถั่วฝักยาว ราคาได้ถีบตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง