นครศรีธรรมราช - หลายหน่วยงานเร่งส่งน้ำเข้าสู่ระบบของ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช อย่างต่อเนื่อง หลังประปา ทน.นครศรีธรรมราช ไม่สามารถจ่ายน้ำได้อย่างเพียงพอ ขณะที่ ผอ.โรงพยาบาลเตรียมเร่งทำแผนป้องกันการขาดน้ำระยะยาว
วันนี้ (21 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานภาวการณ์ขาดแคลนน้ำประปาในเขต อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยเฉพาะในส่วนของผู้ใช้น้ำจากสำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยังคงเป็นปัญหาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของน้ำที่ไหลน้อยลงมาก หรือบางจุดไม่ไหลอย่างสิ้นเชิง ส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นวงกว้าง
ล่าสุด ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงพยาบาลศูนย์ขนาดใหญ่ รถบรรทุกน้ำของมณฑลทหารบกที่ 41 กองทัพภาคที่ 4 และองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เร่งส่งน้ำจ่ายเข้าสู่ระบบส่งจ่ายน้ำของโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช อย่างต่อเนื่อง วันละกว่า 20 เที่ยว หลังจากที่ระบบจำหน่ายของสำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ไม่มีความมั่นคง และไม่สามารถจ่ายน้ำเข้าสู่โรงพยาบาลแห่งนี้ได้อย่างเพียงพอ
ซึ่งแต่ละหน่วยงานที่ได้รับการร้องขอต้องเร่งบรรทุกน้ำเข้าสนับสนุน เพื่อให้มีน้ำใช้อย่างเพียงในโรงพยาลบาลแห่งนี้ โดยเฉพาะการหล่อเลี้ยงในหอผู้ป่วย โรงงานซักรีด โรงล้างอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ ด้วยวิธีการต้มฆ่าเชื้อในระบบแรงดัน และอาคารผ่าตัดที่ต้องใช้น้ำจำนวนมาก โดยโรงพยาบาลต้องนำน้ำเหล่านี้เข้าสู่ระบบผลิตอีกครั้งก่อนที่จะส่งจ่าย
ขณะที่ นพ.ทรงเกียรติ เล็กตระกูล ผอ.โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ระบุว่า การสนับสนุนของหลายหน่วยงานในขณะนี้สามารถมีน้ำเข้ามาในระบบของโรงพยาบาล ทำให้ส่วนต่างๆ ที่ต้องใช้น้ำสามารถประคับประคองไปได้ หลังจากนี้ ต้องเตรียมที่จะทำแผนในการแก้ไขปัญหาระยะยาว ซึ่งต้องมาหารือกันกับอีกหลายหน่วยงาน เพื่อให้ระบบน้ำซึ่งสำคัญมากสำหรับโรงพยาบาลมีความมั่นคงเพียงพอ ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อทุกระบบงาน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของการแก้ไขปัญหาระบบประปาของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ยังไม่สามารถแก้ไขได้เลย แม้ว่าจะเป็นผู้บริหารงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้แบบเบ็ดเสร็จตลอดทั้ง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการใช้งบประมาณที่เกี่ยวข้องต่อระบบประปานั้นจะใช้จ่ายไปกับระบบการจัดซื้อเครื่องสูบน้ำ การจัดการระบบไฟฟ้า การเช่าบ่อน้ำ ซึ่งเป็นขุมเหมืองทรายเก่า การจัดวางท่อจากบ่อน้ำ การจัดซื้อเครื่องจดมิเตอร์แบบพิมพ์ใบแจ้งหนี้หน้าบ้านของผู้ใช้น้ำ และระบบซอฟต์แวร์ ซึ่งรวมทั้ง 4-5 ปีที่ผ่านมาอาจใกล้เคียง 100 ล้านบาท หรืออาจมากกว่านั้น
เมื่อมีปัญหาทุกปี ผู้บริหารจะไม่ได้แสดงความรับผิดชอบใดๆ ถึงความล้มเหลวของระบบจำหน่ายน้ำ ท่ามกลางความเดือดร้อนของประชาชน โดยจะอ้างในทำนองเดียวกันทุกปีในทำนองว่า ความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของการเมืองที่คอยกลั่นแกล้ง น้ำดิบไม่เพียงพอ ถูกขัดขวางการพัฒนา โดยเฉพาะความพยายามในการเสนอซื้อน้ำจากเอกชนเป็นเวลา 30 ปีแบบผูกขาด ด้วยงบประมาณหลายพันล้านบาท
และยังระบุในทำนองว่า ท่อส่งน้ำเก่าไม่สามารถเพิ่มแรงดันได้จะแตกเสียหาย ซึ่งเป็นผลงานของผู้บริหารชุดเก่า แม้ว่าทั้ง 5 ปีที่ผ่านมา ผู้บริหารชุดนี้จะเป็นผู้ที่จัดทำงบประมาณ และแผนงานทั้งหมด โดยไม่ได้แสดงความรับผิดชอบในการบริหารใดๆ ออกมาเลย โดยปัญหาทั้งหมดที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนจะถูกตีความหมายเป็นเรื่องการเมือง และเป็นปัญหาของผู้บริหารชุดเก่าเมื่อ 6 ปีที่แล้ว
วันเดียวกันนี้ ดร.ณัฐวุฒิ ภารภพ ผู้บริหารโรงเรียนเอกชน ได้ทำหนังสือเข้าร้องเรียนต่อ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาสัย รองนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมายัง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อติดตามโครงการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะอ่าวไทย โดยได้ยื่นหนังสือร้องเรียนข้อความช่วยเหลือปัญหาการจัดการน้ำของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ที่กลายมาเป็นปัญหาซ้ำซากตลอด 5 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งข้อร้องเรียนตรวจสอบจากองค์กรอิสระ โดยเฉพาะเรื่องผลการตรวจสอบการทุจริต และไม่โปร่งใสกลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ
