ศูนย์ข่าวภาคใต้ - จี้ “มหิดล” แจงเอกสารรายงานการศึกษาอัปยศ ชี้ช่องเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ให้เอกชนผูกขาดขายน้ำ 30 ปี เจ้าหน้าที่เผย “ค่าศึกษา” 2 แสน ฝ่ายตรวจสอบเตรียมบุกพบอธิการหาข้อเท็จจริง TOR หางยังโผล่เอื้อเอกชนอื้อ ใบปลิวบิดเบือนข้อมูลว่อน
วันนี้ (13 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวในการติดตามกรณีผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช การเตรียมนำญัตติขอความเห็นชอบให้เอกชนเข้ามาดำเนินการพัฒนาระบบประปาและจำหน่ายน้ำประปาให้เทศบาลนครนครศรีธรรมราช และขอความเห็นชอบก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายเกินกว่า 1 ปีงบประมาณ ซึ่งเป็นญัตติที่เสนอโดย นายเชาว์นวัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ให้แก่สภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช พิจารณาในวันที่ 18 พ.ค.59 โดยโครงการนี้มีสาระสำคัญคือ การให้เอกชนเข้ามาผูกขาดขายน้ำให้เทศบาลนครนครศรีธรรมราช เป็นระยะเวลา 30 ปี มีมูลค่ารวมกว่า 5 พันล้านบาท
ความคืบหน้าล่าสุด สมาชิกสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จำนวนหนึ่งได้เดินทางไปยังภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และนำเอารายงานการศึกษาโครงการศึกษาเพื่อดำเนินการพัฒนาระบบน้ำประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ฉบับสมบูรณ์ ซึ่งถูกระบุหน้าปกเอกสารชิ้นนี้ว่า เสนอโดยภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นเอกสารที่ถูกตรวจพบความบกพร่องอย่างร้ายแรง ไม่ปรากฏข้อมูลของผู้ทำการศึกษาจัดทำ อีกทั้งรูปแบบที่ผิดระเบียบวิธีการศึกษาทางวิชาการ รูปแบบการจัดทำเอกสาร รวมทั้งข้อมูลที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงทั้งพื้นที่ศึกษา ตัวเลขบางจุดยังพบร่องรอยของการก๊อบปี้ข้อมูล และไม่ได้แก้ไขพื้นที่จังหวัด หรือตัวเลขอย่างเห็นได้ชัด
ซึ่งความบกพร่องทั้งหมดที่ปรากฏในเอกสารในทางวิชาการนั้นถือว่าเป็นความอัปยศอย่างร้ายแรง และสมาชิกสภาเทศบาลจำนวนหนึ่งได้นำเอกสารชิ้นนี้เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อขอพบกับ ผศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อให้ตรวจสอบที่มาของเอกสารชิ้นนี้ว่า มีการว่าจ้างบุคลากรภายในภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม ในคณะวิศวกรรมศาสตร์ จัดทำรายงานการศึกษาชิ้นนี้หรือไม่ หรือเป็นการว่าจ้างบุคคลภายนอกแล้วนำเอาชื่อของคณะ หรือภาควิชามาระบุในเอกสารโดยถูกต้องหรือไม่อย่างไร ซึ่งจะเป็นข้อมูลหลักฐานชิ้นสำคัญ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องรายหนึ่งต่อเอกสารชิ้นนี้ ระบุว่า เป็นการว่าจ้างด้วยวงเงิน 200,000 บาท สำหรับการจัดทำเอกสารทั้งหมด 10 เล่ม ซึ่งเฉลี่ยค่าจัดทำ 10 เล่ม ตกราคาเล่มละ 2 หมื่นบาท ส่งให้แก่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช และหลังจากนี้ หากมีการตรวจพบข้อบกพร่องอย่างร้ายแรงในเอกสาร กรรมการผู้ตรวจรับงานกำลังหวาดวิตกว่าจะได้รับผลกระทบตามมา เนื่องจากมีการลงนามรับงานเรียบร้อยแล้ว และมีการจ่ายเงินค่าจ้างไปเรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน ดังนั้น ผู้ที่รับผิดชอบโดยตรง คือ กรรมการผู้ตรวจรับผลงานชิ้นนี้ ส่วนผู้บริหารไม่ได้มีส่วนใดๆ ในการรับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากญัตตินี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไปได้เกิดกระแสความไม่พอใจของประชาชนอย่างกว้างขวาง ต่างแสดงออกถึงการไม่เห็นด้วยต่อการจัดทำโครงการ โดยเฉพาะการผูกขาดขายน้ำโดยเอกชนเพียงรายเดียวถึง 30 ปี วันละ 48,000 ลบ.ม. เฉลี่ยเทศบาลจะต้องจ่ายค่าน้ำวันละ 5 แสนบาททุกวัน ทำให้ผู้ที่มีส่วนร่วมในการจัดทำโครงการนี้ต่างกังวล และได้จัดทำเอกสารใบปลิวออกแจกจ่าย โดยมีตราสัญลักษณ์ของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช อยู่ในใบปลิวชิ้นนี้ด้วย มีใจความทำนองว่า ไม่ได้มีการยกการประปาเทศบาลให้แก่เอกชน เอกชนลงทุนเองทั้งหมด ซึ่งเป็นใจความที่แตกต่างกับข้อมูลใน TOR ที่ให้เอกชนเข้ามาผูกขาดขายน้ำให้แก่เทศบาลเพียงรายเดียวเป็นเวลาถึง 30 ปี โดยที่เป็นการบังคับซื้อทุกวันวันละ 5 แสนบาท หรือราว 48,000 ลบ.ม.
ส่วนเอกสาร TOR (เอกสารร่างขอบเขตงาน) มีการเปิดช่องให้เอกชนเข้ามาผูกขาดขายน้ำให้แก่เทศบาลเป็นเวลา 30 ปีแล้ว จะมีรายละเอียดในหัวข้อใหญ่ทั้งหมดรวม 8 หัวข้อด้วยกัน และในขอบเขตงานบางข้อพบว่า มีการเอื้อให้เอกชนอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งข้อมูลนี้สามารถติดตามได้ใน มหากาพย์การประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ตอนที่ 5
นอกจากนั้น เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 12 พ.ค.59 ภาคประชาสังคมนครศรีธรรมราช ได้จัดทำการเสวนาประชาชน ในหัวข้อวิกฤตการณ์น้ำประปานครศรีธรรมราช จะผ่านไปได้อย่างไร ปรากฏว่า ไม่มีตัวแทนที่ชัดเจนของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช มาชี้แจงในข้อมูลเหตุผล ส่วนความเคลื่อนไหวของ นายเชาว์นวัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ได้ไปเป็นประธานในการเปิดใช้สะพานลอยที่มีการวาดภาพ 3 มิติบนพื้นทางเดิน และมีการบันทึกภาพออกเผยแพร่อย่างอารมณ์ดี และไม่มีท่าทีเคร่งเครียด หรือวิตกกังวลใดๆ ท่ามกลางความเดือดร้อนอย่างหนักของผู้ใช้น้ำของสำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช