นครศรีธรรมราช - วิกฤตประปานครศรีธรรมราช ยังขยายวงกว้าง อึ้ง! ข้อมูลวิชาการปริมาณชวนแปลกใจ แหล่งน้ำดิบเพียงพอแต่ขาดการบริหารจัดการที่ดีทำเดือดร้อนหนัก ตำรวจสุดทนขอสนับสนุนน้ำข้ามอำเภอมาใช้ ผู้รับผิดชอบเมินออกทัวร์ต่างประเทศสบายใจเฉิบ
วันนี้ (6 พ.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช วิกฤตความเดือดร้อนของผู้ใช้น้ำของสำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยังลุกลามต่อไปอย่างหนัก เนื่องจากระบบจำหน่ายขาดแคลนน้ำอย่างหนัก น้ำหยุดไหลเป็นวงกว้างในหลายจุด หรือหากไหลจะเป็นก๊อกระดับต่ำไม่มีแรงดัน ส่งผลให้การใช้น้ำไม่เพียงพอ ขณะที่แท็งก์น้ำของสำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช นำมาจัดวางไว้ตามแหล่งชุมชนในเขตตัวเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อให้ประชาชนมารองรับน้ำไปใช้ ไม่ได้รับความสนใจจากผู้ใช้น้ำ เนื่องจากต้องนำภาชนะมารองรับ และขนกลับไปเอง ทำให้ต้องหันไปซื้อน้ำจากพ่อค้าเร่ขายน้ำแทนเนื่องจากมีบริการขนส่งถึงบ้าน ท่ามกลางความเดือดร้อนที่ชุมชนเมืองกำลังขาดแคลนน้ำจากระบบจำหน่ายของสำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และประชาชนผู้ใช้ต่างแปลกใจที่ขาดแคลนน้ำ ทั้งที่แหล่งน้ำสำรองมีอย่างเพียงพอแต่กลับถูกนำมาใช้น้อยมาก
นายเอียด บันดาลทรง อายุ 52 ปี ชาวนาในตำบลปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าได้ใช้โอกาสวิกฤตการขาดแคลนน้ำของประชาชนลูกค้าของสำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช นำรถยนต์กระบะบรรทุกแท็งก์น้ำขนาด 2 พันลิตร ออกส่งขายในชุมชนต่างๆ ในราคา 300 บาทต่อ 1 พันลิตร ต่อวันสามารถสร้างรายได้ให้เกือบ 1 หมื่นบาท เป็นช่วงเวลาที่ทำรายได้ให้มากกว่าการทำนาทั้งฤดูกาล
เช่นเดียวกับความเดือดร้อนที่กองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช และแฟลตที่พักอาศัยของข้าราชการตำรวจที่อยู่ติดกัน ผู้บังคับบัญชาระดับสูงต้องขอสนับสนุนรถบรรทุกน้ำจาก อบต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ต้องขนน้ำข้ามอำเภอมาบรรเทาความเดือดร้อนของข้าราชการตำรวจ และครอบครัว รวมทั้งน้ำใช้บนอาคารกองบังคับการที่มีข้าราชการตำรวจอยู่เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ข้าราชการรายหนึ่งของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ระบุว่า ในช่วงนี้ผู้บริหารไม่อยู่ ทราบเพียงว่าเดินทางไปเที่ยวทัวร์ต่างประเทศกับผู้ใกล้ชิด ท่ามกลางความเดือดร้อนของผู้ใช้น้ำของเทศบาลนครนครศรีธรรมราชแห่งนี้
และก่อนหน้านี้ ปฏิเสธความรับผิดชอบปัญหาการขาดแคลนน้ำมาตลอดทั้ง 5 ปี ซึ่งมีเหตุผลที่หลากหลาย เช่น แหล่งน้ำดิบไม่เพียงพอ ระบบท่อไม่ดี หรือเป็นปัญหาจากทีมบริหารเมื่อ 6 ปีก่อน และเมื่อถูกกดดันอย่างหนักกลับอ้างเหตุผลว่า ไม่มีปัญหาน้ำดิบมีเพียงพอในการผลิต แต่มีปัญหาเรื่องท่อ แต่ข้อเท็จจริงพบว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยใช้ท่อที่ถูกวางไว้แต่กลับพยายามหาเหตุผลที่จะจัดวางท่อใหม่ด้วยงบประมาณหลายสิบล้านบาท โดยไม่ยอมใช้ท่อเดิมที่ถูกทิ้งไว้ตลอดทั้ง 5 ปีที่ผ่านมา จนมีความทรุดโทรม
อย่างไรก็ตาม มีการเปิดเผยข้อมูลศึกษาวิจัย โดยมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ กรมชลประทาน และสถาบัน giz ศึกษาแหล่งน้ำในลุ่มน้ำท่าดี โดยเฉพาะในลำคลองท่าดี ที่เป็นแหล่งน้ำดิบหลักของสำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช พบว่า มีปริมาณน้ำถึง 253 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี แต่สำนักการประปาเทศบาลนครศรีธรรมราช ใช้เพียง 20 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี ดังนั้น น้ำต้นทุนยังมีอีกเป็นจำนวนมากแต่ขาดการบริหารจัดการน้ำที่ดี ขณะที่จำนวนผู้ใช้แต่เดิมมีราว 33,000 ราย แต่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผู้ใช้น้ำในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหายไปเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีแหล่งน้ำบริหารจัดการเอง เช่น เทศบาลตำบลปากพูน ทำให้ผู้ใช้น้ำลดลงเป็นจำนวนมาก แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่า การผลิตน้ำกลับไม่เพียงพอ
ขณะที่หลายฝ่ายกำลังติดตามความพยายามของฝ่ายบริหารในการจัดหาเอกชนมาขายน้ำให้แก่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช กำลังถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้ โครงการนี้ถูกเสนอมาแล้วโดยเป็นการผูกขาด 30 ปี วงเงินกว่า 6,800 ล้านบาท แต่ถูกแรงเสียดทานจากประชาชนอย่างหนัก จนโครงการนี้ต้องตกไป และหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตตรงกันว่า วิกฤตในระบบจำหน่ายน้ำครั้งนี้อาจตั้งใจถูกใช้เป็นตัวประกันในการจัดทำโครงการซื้อน้ำเอกชนอีกครั้ง ทั้งที่แหล่งน้ำดิบมีอย่างเพียงพอ