xs
xsm
sm
md
lg

จับตา! ปี 59 การเผชิญหน้าของคนจนกับนายทุน แผนแม่บทยางพาราไทยฉบับชาวสวนยางคือทางออกจากวิกฤต! (ตอนที่ 1)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพจากอินเตอร์เน็ต
 
โดย..สุนทร รักษ์รงค์ ผู้ประสานงานแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยาง และนายกสมาคมเกษตรกรชาวสวนยาง 16 จังหวัดภาคใต้

บทนำ

วิกฤตยางพาราไทย โดยเฉพาะปัญหาราคายางพาราตกต่ำที่ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ และไม่สามารถหาทางออกได้ แม้รัฐบาลจะพยายามอย่างไร ราคายางพาราก็ยิ่งตกต่ำ ทั้งๆ ที่เรามีเครื่องมือมากมายในการแก้ปัญหา เช่น มาตรา 44 ที่สามารถสั่งการให้หน่วยงานของรัฐใช้ยางในประเทศได้

และยังมี พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย ที่ก้าวหน้า อีกทั้งไทยยังเป็นผู้ผลิตยางพาราอันดับหนึ่งของโลก ที่มีสภาไตรภาคียาง (International Tripartite Rubber Council) มีสมาชิกอยู่ 3 ประเทศ คือ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยมีสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย คือ IRCO International Rubber Consortium Limited แต่ไม่เคยมีพลัง และสามารถเอามาใช้งานได้จริง หรือจริงๆ แล้วรัฐบาลไม่มีฝีมือในการแก้ปัญหานี้ รัฐบาลทหารมีจุดอ่อน คือ ขาดความรู้ และความสามารถทางด้านเศรษฐกิจ

อีกทั้งรัฐบาลชุดนี้ยังเต็มไปด้วยข้าราชการ และอดีตข้าราชการในคณะรัฐมนตรี ซึ่งต้องยอมรับว่าข้าราชการเหล่านี้ก็เคยอยู่ในวงจรของสามเหลี่ยมทรราช ประกอบด้วย “นักการเมืองโกง ข้าราชการชั่วและนายทุนเลว” และมีส่วนร่วมในการทำร้ายประเทศไทยที่ผ่านมา และข้าราชการไทยใครก็รู้ว่ามีวัฒนธรรมสั่งการ (Top down) ไม่ค่อยฟังเสียงของประชาชน (Bottom up) มีวิชันเชิงรับมากกว่าเชิงรุก

ที่อันตรายต่อการปฏิรูปประเทศไทยก็คือ รัฐมีมุมมองต่อพลเมืองไทยว่า “ดื้อ ชั่ว โง่ และอ่อนแอ” เลยต้องออกกฎหมาย “บังคับ ควบคุม และอนุญาต” ทำให้ในปัจจุบันทุนสามานย์เข้าถึงอำนาจรัฐได้ง่ายผ่านข้าราชการที่ทุนเหล่านี้เคยเลี้ยงดูปูเสื่อ ผ่านนักการเมือง เข้าทำนองลงทุนต่ำกำไรสูง (Low Profile High Profit) และรัฐมนตรีก็ตกอยู่ในหมากล้อมนี้ และเชื่อฟังข้าราชการอย่างไม่มีทางเลือก ในขณะที่ประชาชนเข้าถึงอำนาจรัฐได้น้อยมาก จะเคลื่อนไหวก็ถูกควบคุมด้วยกฎหมายพิเศษยุค คสช.ถูกกดดันจนใกล้ระเบิด

การจัดตั้งคณะกรรมการภาครัฐ และเอกชนในนาม “ประชารัฐ” เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แบ่งเป็นคณะทำงานย่อย 12 ชุด จะเห็นว่ามีแค่ตัวแทนจากภาครัฐ นายทุน พ่อค้า ไม่มีตัวแทนจากภาคประชาชน เหมือนฝากปลาย่างไว้กับแมว จึงเป็นหลักฐานสำคัญที่รัฐบาลนี้ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า กำลังทำให้อำนาจของสังคมการเมือง (PoliticalSociety) อยู่ในมือกลุ่มทุนใหญ่ผูกขาด และรัฐบาลกำลังถอยห่างจากความเห็นค้านของภาคประชาสังคม (Civil Society) โดยประชาธิปไตยของทางเศรษฐกิจของกลุ่มทุนใหญ่ผูกขาดไม่กระทบกระเทือนเลย แต่ชีวิตทางเศรษฐกิจของชนชั้นล่างสังคมไทยกลับย่ำแย่ และกำลังล่มสลาย

ผู้เขียนเชื่อว่าในปี 2559 จะเกิดความขัดแย้งครั้งสำคัญระหว่างคนจนผู้ไม่รับความยุติธรรม กับทุนใหญ่ผูกขาด จนเป็น “น้ำผึ้งหยดเดียว” ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ และสุดท้ายรัฐบาลต้องรับผิดชอบ

การแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ลองให้เกษตรกรชาวสวนยางได้ร่วมกันออกแบบอนาคตของตัวเองผ่านแผนแม่บทยางพาราไทยดูสิครับ ให้เกษตรกรชาวสวนยางช่วยคิด ช่วยทำ ช่วยรับผิดชอบ อาจมีทางออกจากวิกฤตก็เป็นได้

บทความนี้จะเสนอเป็นตอนๆ โปรดติดตามครับ
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น