ศูนย์ข่าวภาคใต้ - แฉพิรุธ! กระบวนการสรรหา “ผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย” คนแรก เผยมีการทำสัญลักษณ์เพื่อส่งซิกให้เลือกเด็กในคาถานักการเมืองใหญ่ถิ่นอีสาน และภาคกลาง แถมทุ่มทุนใช่โซเซียลมีเดียโปรโมตสร้างความเหนือกว่าอย่างเป็นระบบ
อนุสนธิจากกรณีมีการประกาศใช้ “พระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย” ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.2558 ซึ่งมีผลให้รัฐบาลต้องจัดตั้งองค์กรการยางแห่งประเทศไทยขึ้น พร้อมๆ กับให้มีกระบวนการสรรหาผู้มีความรู้ความสามารถไปนั่งบริหารองค์กรใหม่แห่งนี้เป็นคนแรกอีกด้วย ซึ่งต่างก็เป็นที่คาดหวังของผู้คนในแวดวงธุรกิจยางพาราไทยว่า ต่อไปจะมีองค์กร และตัวบุคคลชัดเจนที่จะเป็นเจ้าภาพหลักช่วยแก้ปัญหาที่หมักหมมอยู่มากมายให้คลี่คลายไป โดยเฉพาะในภาวะที่ราคายางดิ่งเหวลงมาอยู่ที่ “3 กิโลร้อย” และมีการคาดการณ์กันว่า ในปี 2559 นี้น่าอาจจะลงไปแตะก้นเหวที่ “4 กิโลร้อย” ก็เป็นไปได้นั้น
แหล่งข่าวผู้คร่ำหวอดในวงการพืชเศรษฐกิจการเมืองบอกเล่าต่อ “MGR Online ภาคใต้” ว่า จากการที่ได้เฝ้าติดตามกระบวนการสรรหาผู้ที่จะไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทยคนแรก ถึงเวลานี้อยากจะตั้งข้อสังเกตให้สังคมได้รับรู้ไว้ว่า ในกระบวนการสรรหาน่าจะมีจุดที่เป็นพิรุธปรากฏให้เห็นชัดเจนแล้ว แต่จะไปสอดรับต่อกระแสข่าวที่สะพัดว่า มีกลุ่มก๊วนนักการเมืองใหญ่แห่งภาคอีสาน และภาคกลาง ยืนแผ่พังพานเป็นเงาทะมึนครอบงำคณะกรรมการสรรหาอยู่หรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สังคมต้องร่วมกันพิจารณา
แม้ตอนนี้มีข่าวที่ทั้งจริง และลวงออกมาหลายเรื่องหลายราว แต่สำหรับประเด็นแรกที่ตนอยากตั้งข้อสังเกตให้สังคมได้รับรู้ไว้ก็คือ เราลองไปพิจารณาเอกสาร “รายชื่อผู้สมัครผู้สมัครดำรงตำแหน่งผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย” ซึ่งน่าจะเป็นเอกสารทางราชการที่ให้ทั้ง 8 รายที่เสนอตัวเซ็นไว้ตอนส่งเอกสารสมัคร และเอกสารชิ้นนี้ก็มีการเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์แล้วอย่างกว้างขวาง ปรากฏว่า มีอยู่ 1 ลายเซ็นที่ผิดแผกแตกต่างจากที่คนทั่วไปมักทำกัน ซึ่งน่าจะมีความต้องการสร้างสัญลักษณ์ให้เกิดความแตกต่างจากคนอื่นๆ อย่างเป็นที่สังเกตได้หรือไม่ แล้วทำเช่นนั้นเพื่อส่งสัญญาณให้คณะกรรมหารสรรหาหรือไม่
“จากภาพรายชื่อผู้สมัครผู้สมัครดำรงตำแหน่งผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย เราจะเห็นชัดเจนเลยว่า ผู้สมัครรายที่ว่านี้ตอนเขียนชื่อตัวเองใช้ปากกาหมึก ‘สีน้ำเงิน’ แต่ไหงเวลาเซ็นชื่อกับเอาปากกาสีอื่นๆ มาเซ็นเสียงั้น และมีสิ่งที่ไม่ธรรมดาเอามากๆ ด้วย ไม่เชื่อลองไปดูที่ช่องที่ระบุให้เป็นลายเซ็น ทำไมเขาต้องเอาปากกาทั้งที่เป็นหมึก ‘สีแดง’ และหมึก ‘สีเขียว’ มาเซ็นชื่อตัวเองในรายเซ็นครั้งเดียวกัน เรื่องแบบนี้ใครจะว่าไม่แปลก แต่สำหรับคนทั่วไปแล้วเขาไม่น่าจะทำกันแบบนี้” แหล่งข่าวกล่าว และเสริมว่า
มีอีกประเด็นที่มีผู้คนตั้งข้อสังเกตไว้มากเช่นกัน คือ มีการรวบรวมรายชื่อ และภาพถ่ายผู้สมัครแข่งขันเป็นผู้ว่าการยางฯ คนแรกของทั้ง 8 คนเผยแพร่ไว้ในสื่อสังคมออนไลน์ แต่ปรากฏว่ามีความจงใจใส่ประวัติผู้สมัครคนที่มีลายเซ็นแปลกๆ ไว้อย่างเป็นระบบให้เกิดแรงจูงใจได้รับเลือก ทั้งภาพถ่ายก็ดูสง่า และใหญ่กว่า แต่สำหรับคนที่คาดว่าจะเป็นคู่แข่งสำคัญกลับจงใจให้ข้อมูลในลักษณะแบ่งสีแบ่งค่ายไว้ให้ ส่วนคนอื่นๆ ที่เหลือกลับไม่พยายามให้ข้อมูลใดๆ ที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการสรรหาเลย
“เชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญต่อการแก้ปัญหาในวงการยางไทยอย่างมาก ถึงขั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำคณะเดินทางไปผลักดันนโยบายเมืองยางที่ จ.สงขลา ด้วยตัวเองสดๆ ร้อนๆ ส่วนใครจะว่าเราตั้งข้อสังเกตมากไปหรือไม่ เรื่องนี้ก็ไม่ว่ากัน แต่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมในองค์รวม โดยเฉพาะแวดวงธุรกิจยางไทย ยิ่งในยุคที่รัฐบาลทหารต้องการทำความสะอาดบ้านเมือง ไม่ต้องการให้ก๊วนการเมือง นายทุนห รือกลุ่มผลประโยชน์เข้าไปยุ่มย่ามต่อองค์กรที่ต้องเป็นกลางต่างๆ ด้วยแล้ว เรื่องราวเหล่านี้น่าจะทำให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักมากขึ้น” แหล่งข่าวระบุ