สตูล - กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราสตูล วอนรัฐส่งเสริมเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบเป็นผลิตภัณฑ์ เชื่อจะทำให้คุณภาพชีวิตเกษตรกรดีขึ้น พร้อมวอนให้มีการขยายเวลาขึ้นทะเบียน
วันนี้ (5 พ.ย.) เกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดสตูล ยอมรับว่าแม้ราคาตลาดรับซื้อน้ำยางจะตกต่ำ แต่ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้นอกจากก้มหน้ากรีดยางเพื่อส่งขายต่อไป เนื่องจากเป็นอาชีพหลักที่ต้องหาเลี้ยงครอบครัว พร้อมเชื่อมั่นลึกๆ ว่า รัฐบาลจะไม่ทิ้งเกษตรกรแม้จะไม่มีการประกันราคายางเหมือนก่อน
กลุ่มรับซื้อน้ำยางพารา บ้านนาทอน หมู่ที่ 1 ต.ควนขัน อ.เมือง จ.สตูล ยังคงรับซื้อน้ำยางพาราจากเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกลุ่มกันตามปกติ แม้ราคาวันนี้ในเกรดเดียวกันจะอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 35 บาท ยาวนานติดต่อเป็นวันที่ 4 แล้ว แต่ในช่วงที่ผ่านมา ราคาอยู่ที่ 33 บาท และขยับมาเป็น 34 บาท ซึ่งทางกลุ่มได้แอบหวังว่าราคาน้ำยางจะขยับสูงขึ้นไปอีกไปแตะที่ 50 บาท ซึ่งเป็นความหวังที่ทุกคนแอบคิดไว้ พร้อมเห็นว่าการขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยางแห่งชาติ ของการยางแห่งประเทศไทย จะเป็นสัญญาณที่ดีที่จะช่วยเหลือให้คุณภาพชีวิตเกษตรกรดีขึ้น แม้รัฐบาลจะยืนยันว่า จะไม่มีการพยุงราคา แต่เกษตรกรเห็นว่าหากรัฐบาลเข้ามาส่งเสริมในด้านการแปรรูปให้กลุ่มเกษตรกรมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีวัตถุอยู่จำนวนมากในตลาดจะทำให้เกษตรกรอยู่ได้ และยั่งยืน ไม่ต้องรอตลาดกลางยางพารา
นายอาหลี เจ๊ะง๊ะ รองประธานกลุ่ม สกย.ควนขัน ต.ควนขัน อ.เมืองสตูล ยอมรับว่า ทางกลุ่มซึ่งมีสมาชิกอยู่ 230 ราย ผลิตน้ำยางพาราได้วันละ 9-14 ตันต่อวัน อยู่ระหว่างการรอโครงการที่ทางสภาเกษตรกรจังหวัดสตูล จะผลักดันให้เป็นศูนย์ผลิตถุงมือยาง โดยทางกลุ่มรองบประมาณในการอุดหนุนจากรัฐบาล และส่งเสริมการเป็นผู้ผลิตมากกว่าจำหน่ายแต่วัตถุดิบ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าให้ชาวสวนยางได้มีรายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นหากรัฐบาลลงมาสนับสนุน หากไม่มีการประกันราคายางเหมือนก่อน และเชื่อว่าหากทางกลุ่มเป็นทั้งวัตถุดิบ และเป็นผู้ผลิต ราคายางที่เกษตรกรนำมาขายให้ทางกลุ่มจะมีราคาที่สูงขึ้นได้ โดยไม่ต้องรอให้รัฐบาลเข้ามาพยุงราคา
ขณะที่บรรยากาศการขึ้นทะเบียนเกษตรกรชาวสวนยาง ของการยางแห่งประเทศไทย เกษตรกรบางรายติดขัดในเรื่องของเอกสารในการขึ้นทะเบียน และเกรงว่าจะเดินทางไปขึ้นทะเบียนไม่ทันตามที่มีเวลากำหนด พร้อมร้องขอให้มีการยื่นเวลาออกไปก่อนเพื่อให้ได้เตรียมตัว