xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อ “รวันดา” ที่แอฟริกานำหน้าไทยใน “โครงการพลังงานแสงอาทิตย์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
แปลและเรียบเรียง  :  ทีมงาน  Data Forsiam
 
ประเทศรวันดา ลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใช้เวลาสร้างน้อยที่สุดในแอฟริกา เสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งานภายในเวลาไม่ถึงปี ตั้งเป้าหมายให้ประชากรครึ่งหนึ่งของประเทศได้ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ภายในปี 2017
 
“จงลุกขึ้น และส่องแสงของคุณฉายออกมาให้โลกได้เห็น” (จากพระคัมภีร์ (Isaiah 60:1-3)) บริเวณป้ายทางเข้าด้านหน้าทางเข้าฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ บอกถึงความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าพัฒนาด้านพลังงานประเทศเพื่อมาตรฐานที่ดีขึ้นของประชาชน
 
โรงไฟฟ้าขนาด 8.5 เมกะวัตต์ ได้รับการออกแบบเพื่อให้มีรูปแบบคล้ายกับแผนที่ของทวีปแอฟริกา ในขณะที่มีผู้เข้าเยี่ยมชมโรงงานขนาด 17 เฮกตาร์ หัวหน้าโรงงานบอกแบบติดตลกกับผู้เยี่ยมชมว่า บริเวณดังกล่าวคือ ประเทศโซมาเลีย
 

 
ที่ตั้งโครงการอยู่ท่ามกลางเนินเขาสีเขียวที่งดงาม และมีชื่อเสียงของรวันดา บริเวณทะเลสาบ Mugesera ทางตะวันออก ห่างจากเมืองหลวงประมาณ 60 กิโลเมตร แผ่นโซลาร์เซลล์ชนิดบาง 28,360 แผ่น ถูกจัดวางในแถวเรียบร้อย มีต้นหญ้าล้อมรอบพื้นที่ และสถานที่แห่งนี้กำลังได้รับการประชาสัมพันธ์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว
 
คอมพิวเตอร์ 1 ตัว ใช้ควบคุมพื้นที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ประมาณ 1.9 ตารางเมตร มีการตั้งโปรแกรมอัตโนมัติเพื่อให้แผงสามารถหมุนเอียงติดตามดวงอาทิตย์จากทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตก ตลอดเช้าจดค่ำ เพื่อให้แผงโซลาร์เซลล์ได้รับแสงอย่างมีประสิทธิภาพ และได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพให้สูงขึ้น 20% เมื่อเทียบกับแผงที่มีการติดตั้งมาจากประเทศจีน ในขณะที่อินเวอเตอร์ และหม้อแปลงได้มาจากประเทศเยอรมนี
 
การก่อสร้างโรงไฟฟ้าทำให้เกิดการสร้างงานในท้องถิ่นกว่า 350  แรงงาน และช่วยเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศรวันดาถึง 6% สามารถให้บริการมากกว่า 15,000 บ้าน ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่สำคัญในระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นระยะเวลา 21 ปี
 
หลังการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เศรษฐกิจมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากที่พวกเขาเคยหมดหวังที่จะได้ใช้พลังงาน โดยในปี 2013 พวกเขาสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียง 110 เมกะวัตต์ และมีความต้องการเพิ่มตลอดเวลา
 

 
จากการสนับสนุนของโอบามาที่ผลักดันให้เกิดความคิดริเริ่มในการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ในแอฟริกา การก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จึงเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 และแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคมในปีเดียวกัน ทำให้โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ใช้เวลาในการก่อสร้างน้อยที่สุด และสร้างเสร็จเร็วที่สุดในแอฟริกา
 
“เรามีความอุดมสมบูรณ์ของดวงอาทิตย์ มีบางคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลไม่สามารถเข้าถึงแหล่งพลังงานได้ พลังงานแสงอาทิตย์จะเป็นหนทางในการขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้า” 
 
โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ตั้งอยู่บนที่ดินของศูนย์เยาวชน ซึ่งมีภารกิจในการดูแลเด็กและเยาวชนที่เปราะบางที่สุดของประเทศรวันดา พวกเขาเป็นเด็กกำพร้าทั้งก่อน และหลังการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ สัญญาพื้นที่โรงไฟฟ้านี้จะเป็นแหล่งรายได้ที่ใหญ่ที่สุด
 
ปัจจุบัน เยาวชนคนหนุ่มสาว 512 คน สนใจที่จะเข้าร่วมในโครงการ ซึ่งจัดให้มีการฝึกอบรม และเรียนรู้ภายในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงการทำงานในโครงการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของพวกเขา
 
รวันดา เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงการละเมิดในสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง แต่ตอนนี้ได้รับยกย่องสำหรับความมุ่งมั่นการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ 
 
ตัวแทนของบริษัทชั้นนำในการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ของอิสราเอลได้กล่าวถึงรวันดาอย่างชื่นชมว่า...
 
“ประเทศรวันดามีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพียง 110 เมกะวัตต์ สำหรับประชากร 12 ล้านคน ในขณะที่อิสราเอล สามารถผลิตได้ถึง 13,000 เมกะวัตต์ต่อประชากร 8 ล้านคน รวันดา ยังมีสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ดี ไม่มีการทุจริต และที่สำคัญที่สุด รวันดาสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นลงมือทำในสิ่งที่เรากำลังทำ”
 
------------------------
หมายเหตุ
- บทความจากป้ายหน้าประตูทางเข้าโครงการ นำมาจากพระคัมภีร์  Isaiah 60:1-3 “Arise, shine, for your light has come, and the glory of the LORD rises upon you. 2 See, darkness covers the earth and thick darkness is over the peoples, but the LORD rises upon you and his glory appears over you. 3 Nations will come to your light, and kings to the brightness of your dawn.”
- http://www.theguardian.com/environment/2015/nov/23/how-africas-fastest-solar-power-project-is-lighting-up-rwanda
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น