คอลัมน์ : คนคาบสมุทรมลายู
โดย...จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย
หลายคนคงคาดไม่ถึงว่า ร่างรัฐธรรมนูญที่คณะกรรมาธิการที่มีประธานกรรมาธิการมาจากการแต่งตั้งของแป๊ะเจ้าของเรือ (และสมาชิกส่วนใหญ่อีก 20 คนมาจาก สปช. ที่เหลืออีก 15 คนก็มาจากแม่น้ำอีก 3 สาย ที่ประคับประคองเรือแป๊ะให้พวกเด็กๆ ของแป๊ะได้ขี่เรือเล่นกันอย่างสนุกสนาน แม้ว่าจะทำน้ำให้กระฉอกใส่บ้านเรือนของชาวบ้านบ้างก็ไม่ว่ากัน) จะถูกคว่ำอย่างไม่เป็นท่าด้วยคะแนน 135/105 และงดออกเสียง 7 เสียง (ซึ่งก็มีความหมายใกล้เคียง หรือเท่ากับไม่รับ)
หลายคนอาจจะคิดว่าที่สมาชิก สปช.ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้คงเป็นเพราะเนื้อหาบางมาตราที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และเกรงว่าถ้าผ่านไปเข้าสู่กระบวนการทำประชามติก็มีโอกาสสูงมากที่จะไม่ผ่าน และเกรงว่าจะสูญเสียงบประมาณเปล่าๆ (ฟังดูดีมีอารยะทีเดียว)
แต่ถ้าพวกเขาคิด และมีเหตุผลเช่นนั้นจริง ถามว่าสิบกว่าเดือนที่ผ่านมาต่อการทุ่มเทให้แก่การยกร่างรัฐธรรมนูญในขั้นตอนต่างๆ ต้องสูญเสียทั้งงบประมาณ เสียเวลา เปลืองสมอง และลากประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้วุ่นวายไปทั่วประเทศนี่แปลว่าอะไร และถามว่าสมาชิก สปช.ที่กินเงินเดือน และสวัสดิการด้วยเงินภาษีของพี่น้องประชาชนนี่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากยกมือแล้วพูดเพียงสองพยางค์ในวันหมดหน้าที่
อย่าลืมว่าบ้านเมืองกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม พวกท่านถูกเรียกใช้ไหว้วานในสถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติ เพื่อเข้ามาทำหน้าที่กู้สถานการณ์บ้านเมืองให้เข้าสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด แน่นอนการไม่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญอาจจะมีส่วนดีต่อชาติบ้านเมืองอยู่เหมือนกัน เช่น ทำให้รัฐบาล และนายกรัฐมนตรีได้ต่อลมหายใจไปอีกระยะหนึ่ง รัฐมนตรีที่เพิ่งปรับเข้ามาแทนชุดเก่าจะได้มีเวลาทำหน้าที่ อันนี้คงเป็นเหตุผลที่แท้จริงอีกอันหนึ่งที่พวกเขาโหวตไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่พูดกันมากคงได้รู้ได้เห็นความจริงกันในวันที่เขาประกาศรายชื่อสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปออกมาในไม่ช้านี้ครับ โปรดอดใจรอ
ปรากฏการณ์ทางการเมืองในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า วิกฤตการเมือง และวิบากกรรมสังคมไทยยังไม่มีวันสิ้นสุดยุติลงได้ง่ายๆ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ที่มีอำนาจหน้าที่ และโอกาสตัดสินใจแทนคนไทยทั้งประเทศยังไม่มีวุฒิภาวะทางสังคมมากพอที่จะสร้างความมั่นใจให้แก่คนในสังคมได้ ยังถูกเคลือบแคลงสงสัยจากคนส่วนใหญ่ทุกครั้งที่ต้องมีการชี้ขาดเพื่อหาทางออกให้แก่สังคมไทย
บางคนบอกว่า ร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านไม่เห็นเป็นไร กลับไปเริ่มต้นใหม่ ไม่งั้นมันไม่มีทางออก แน่นอนครับ ตามโรดแมปมันเป็นอย่างนั้น แต่ในความรู้สึกนึกคิดของสามัญปุถุชนทั่วไปถามว่า กรรมาธิการยกร่างชุดใหม่จะรู้สึกอย่างไร และประชาชนทั่วไปจะคิดอย่างไร จะเท่ากับกรรมาธิการชุดก่อนไหม กระบวนการจัดทำจะคึกคักตื่นเต้นน่าสนใจไหม ที่สำคัญประชาชนส่วนใหญ่จะรู้สึกเบื่อหน่ายไหม และมีหลักประกันอะไรว่าจะผ่านประชามติของประชาชน ฯลฯ
ทางออกสำหรับข้าพเจ้าคือ คนในสังคมนี้ต้องยอมรับความจริงว่า ส่วนใหญ่เราไม่ได้เอาชนะกันที่เนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญ แต่เราเอาชนะกันด้วยเกมกลในการแย่งชิงความได้เปรียบ เพื่อเอาชนะผู้เสียเปรียบ โดยอ้างว่าทำเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ ทำเพื่อประชาชน โดยบอกไม่ได้ว่า “ประชาชนของเรา” อยู่ที่ไหน และเขาเป็นใคร เขาได้ประโยชน์อะไร แต่ที่แน่ๆ เราผู้มีโอกาสเหนือคนอื่นได้ประโยชน์อย่างแน่นอนครับ
ข้าพเจ้าได้แต่ห่วงว่า วันเวลาที่ผ่านไปแม่น้ำทั้ง 5 สายที่ประคับประคองเรือแป๊ะ ซึ่งบัดนี้เหลือแค่ 4 สาย จะกลับกลายเป็นแม่น้ำที่ขอดแห้ง หรือกลายเป็นแม่น้ำเน่าเหม็นคลุ้งกลิ่น ปล่อยให้เรือแป๊ะอับปางอยู่ระหว่างทาง ห่างตลิ่ง กลายเป็นที่เกาะของหอยเพรียง ศัตรูร้ายของเรือก่อนวันเวลาอันสมควร
การอยู่นาน และทำอะไรไม่เข้าท่าก็เป็นอันตรายอย่างหนึ่งของผู้มีอำนาจทางการเมือง ไม่ว่าเขาผู้นั้น กลุ่มนั้นจะมาจากการเลือกตั้ง หรือแต่งตั้งก็ตาม ข้าพเจ้าชื่นชมแป๊ะที่มีความกล้าหาญทำในหลายเรื่องที่นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง และลากตั้งคนอื่นไม่ยอมทำ หรือทำไม่ได้ แต่ข้าพเจ้าเกรงว่าจะมีคนที่นั่งในเรือลำเดียวกันมีส่วนในการจมเรือแป๊ะโดยคาดไม่ถึง
ยังไงๆ ไหนๆ ก็ไหนๆ ใครจะคิดจะทำอะไรที่ดีงามแก่สังคมก็รีบๆ ทำเข้าเถอะครับ ไฟกำลังไหม้ป่าอยู่ มาช่วยกันดับไฟก่อนเถอะ อย่ามัวก้มหาดอกกุหลาบ หรือเก็บเห็ดเหม็ดกันอยู่เลยครับ เดี๋ยวไฟไหม้บ้านเรือนหมดเสียก่อน
ขอขอบพระคุณทุกท่านที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรมตัดสินใจเพื่อความอยู่รอดของบ้านเมือง จะด้วยความเข้าใจถูก เข้าใจผิดก็ตามที และขอตำหนิคนที่พูดไม่จริง ปากไม่ตรงกับใจ มีใครบ้าง ไม่นานคงได้เห็นธาตุแท้กันอย่างแน่นอนครับ