ชมรมแท็กซี่รักกระบี่ร้องขอเพิ่มเคาน์เตอร์รับส่งนักท่องเที่ยวที่ท่าเรือ

กระบี่ - ชมรมแท็กซี่รักกระบี่ ร้องนายก อบจ. เพิ่มบูทประกอบการภายในท่าเรือ หลังถูกมองสร้างความเดือดร้อน และไม่เป็นระเบียบ อ้างบูทที่มีอยู่เดิมไม่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ทั้งหมด

วันนี้ (13 ส.ค.) ชมรมแท็กซี่รักกระบี่ ประมาณ 20 คน นำโดย นายกิตติ พรหมภัทร ประธานชมรมแท็กซี่รักกระบี่ ได้รวมตัวกันเข้าพบ นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ เพื่อขอให้เพิ่มบูทประกอบการภายในท่าเรือ อบจ.กระบี่ ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่เพิ่มขึ้นอีก 1 บูท เพื่อป้องกันการผูกขาด และอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้าไปใช้บริการภายในท่าเรือ หลังพบว่าบูทภายในท่าเรือที่มีอยู่เดิม จำนวน 1 ราย ไม่สามารถรองรับนักท่องเที่ยว และกลุ่มผู้ประกอบการรถแท็กซึ่ที่เพิ่มจำนวนขึ้นได้ พร้อมได้เข้าประชุมเพื่อหาทางออกร่วมกัน

นายกิตติ พรหมภัทร ประธานชมรมแท็กซี่รักกระบี่ กล่าวว่า ปัจจุบันชมรมฯ มีสมาชิกประมาณ 80 คัน โดยได้วิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวที่บริเวณท่าเรือ อบจ.กระบี่ ไปยังสถานที่ต่างๆ มานาน แต่ไม่ได้เข้าร่วมกับบูทที่มีอยู่ภายในท่าเรือที่มีอยู่เดิม เนื่องจากเกรงว่าจะถูกเอาเปรียบ ได้ส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาหลายเรื่อง ทั้งการถูกร้องเรียน และความไม่เป็นระเบียบ ทำให้รู้สึกไม่สบายใจที่ถูกมองว่าชมรมเป็นผู้สร้างปัญหา จึงได้รวมตัวตัวกันเข้าพบนายก อบจ.กระบี่ และผู้เกี่ยวข้องเพื่อขอให้เพิ่มบูทอีก 1 บูทภายในท่าเรือ เพื่อให้พวกตนได้ทำกินเลี้ยงครอบครัว โดยที่ไม่ถูกร้องเรียนอีก หรือหมิ่นเหม่ต่อการทำผิดกฎหมาย

ประธานชมรมแท็กซี่รักกระบี่ กล่าวด้วยว่า ภายในท่าเรือ อบจ.มีเพียงรายเดียวที่ได้รับสัมปทาน และผูกขาดมานาน จึงอยากให้มีการเพิ่มบูท หรือเปิดให้มีการประมูลใหม่ และมีหลายรายในการประกอบการภายในท่าเรือ เพื่อจะได้มีการแข่งขัน และพัฒนาการให้บริการนักท่องเที่ยวได้ดียิ่งขึ้น และไม่เป็นการผูกขาด ทำให้คนจนอีกจำนวนมากได้มีงานทำ และมีรายได้เลี้ยงครอบครัวโดยไม่เดือดร้อน และที่สำคัญกลุ่มแท็กซี่ของตนเป็นรถป้ายเขียวถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่สามารถเข้าให้บริการภายในท่าเรือได้ เนื่องจากไม่มีบูท

นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายก อบจ.กระบี่ กล่าวว่า ตามที่ทางชมรมแท็กซี่รักกระบี่ ได้เรียกร้องให้ อบจ.มีการเปิดบูทเพิ่ม คงไม่สามารถทำได้ เนื่องจากได้มีการให้สัมปทานไปแล้ว และเจ้าของพื้นที่เอง คือ กรมธนารักษ์ อบจ.เป็นเพียงผู้ดูแลพื้นที่เท่านั้น ทางออกที่ทำได้ก็คือให้ทางชมรมฯ ไปพูดคุยกับผู้สัมปทานรายเดิมเพื่อหาทางออกร่วมกัน และทำมาหากินร่วมกันได้และอยู่ในกรอบของกฎหมาย โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่นักท่องเที่ยว และผู้ที่เข้าไปใช้บริการท่าเรือซึ่งหลังจากนี้ก็คงจะมีการจัดระเบียบกันอย่างจริงจัง