นครศรีธรรมราช - ชาวบ้านหน้าศาลหัวไทร สู้ป้องกันสิทธิในที่ดินทำกินยาวนานกว่า 60 ปี วอนทางการเร่งพิสูจน์สิทธิแก้ไขปัญหาหวั่นจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
วันนี้ (24 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหน้าศาล ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช มีชาวบ้านจำนวนประมาณกว่า 20 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากที่ดินที่อาศัยทำกินอยู่กันมานานกว่า 70 ปีนั้น ทำนิติกรรม หรือโอนให้ลูกให้หลานไม่ได้ เพราะถูกคัดค้านว่าเป็นที่ดินของทางราชการ ทั้งๆ ที่ชาวบ้านได้ทำมาหากินอยู่ในบริเวณดังกล่าวมานานหลายชั่วอายุคนก่อนหน้าที่จะมีการก่อตั้งอำเภอหัวไทร
นายจรูญ จันทร์เทพ อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/1 ม.7 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราชระบุว่า ที่ดินบริเวณนี้เป็นที่ดินสมัยบรรพบุรุษชาวบ้านมาบุกเบิกหักร้างถางพงทำกินใกล้กับคลองหัวไทรไปจนถึงทะเล อาศัยทำกินก่อนที่จะก่อตั้งอำเภอหัวไทร เนื่องจากก่อนหน้านั้นยังเป็นอำเภอพังไกร ที่ตั้งอยู่ที่บ้านเขาพังไกรในปัจจุบัน ครั้นทางราชการออกกฎหมายที่ดินได้ประกาศให้ผู้ที่ครอบครองที่ดินให้ไปแจ้งเพื่อเป็นเจ้าของ และออก ส.ค.1 ให้ ทางพ่อแม่ของตนก็ไปแจ้งเอาไว้
ต่อมา ปี 2498 กรมที่ดินได้ประกาศอีกว่าใครที่มี ส.ค.1 ให้ไปทำ น.ส 3 ก. และได้ทำกันทุกคน โดยสามารถนำมาใช้ประโยชน์ หรือนำเข้าธนาคารได้เรียบร้อย แต่หลังจากนั้นไม่นานปรากฏว่าทางราชพัสดุมาคัดค้านจนเป็นที่เดือดร้อน และทิ้งระยะมาเป็นเวลานานมาก ชาวบ้านจึงไปปรึกษากับราชการที่เกี่ยวข้อง กระทั่งกรมธนารักษ์เข้ามาตรวจสอบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่าเป็นมาอย่างไร โดยได้ตรวจตามที่ทางราชการสมัยนั้นทำแผนที่เอาไว้
“ขณะตรวจสอบได้พบกับผู้ครอบครองก็บอกว่า ได้ทำมาหากินกันมาตั้งแต่ปู่ย่าตาทวดแล้ว เจ้าหน้าที่ที่มาจากกรมธนารักษ์จึงบอกไม่ต้องวัดแล้ว ให้ชาวบ้านทำหนังสือคัดค้านได้เลยว่าครอบครองมาก่อนหน้านั้น และชาวบ้านก็ทำการคัดค้านครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2512 ซึ่งเรามีพยานหลักฐานต่างๆ ของชาวบ้านมากมายส่งไปยังกรมธนารักษ์ แล้วยังมีการเข้ามาดำเนินการต่างๆ อีกมากมาย และเรื่องเงียบไปเป็น 10 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จนถึงปัจจุบัน” พ่อเฒ่าจรูญกล่าว
พ่อเฒ่าจรูญ ยังกล่าวด้วยว่า “จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาให้ความเป็นธรรมในการพิสูจน์สิทธิว่า เอกสารสิทธิของทั้งสองฝ่ายใครมีน้ำหนักกว่ากัน เพื่อความแน่นอน และเที่ยงธรรม และที่บอกมาว่ามีการส่งให้พนักอัยการสั่งฟ้องชาวบ้านในปี 2554 นั้น อยากทราบว่าตอนนี้มีการดำเนินการอย่างไร และที่มาเรียกร้องในครั้งนี้ จริงๆ แล้วเรามีเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก.กันทุกคน แต่ไม่สามารถทำโฉนดที่ดินได้ และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป”
ขณะเดียวกัน ผู้เดือดร้อนในวัยชราภาพอีกหลายคนได้ชี้แจงถึงที่มาที่ไปของที่บริเวณดังกล่าวว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากทางราชการ โดยตลอดแนวถนนตั้งแต่คลองหัวไทรไปจนถึงริมทะเล บางจุดถูกอ้างเป็นที่ดินของทางราชการ บางจุดสามารถออกโฉนดที่ดินได้ทั้งที่อยู่ในแนวเดียวกัน ทำให้ผู้ที่ถูกระบุว่า อยู่ในที่ดินของทางราชการเกิดข้อสงสัยว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม