สตูล - ระบบจัดการขยะบน “เกาะหลีเป๊ะ” จ.สตูล เริ่มเจอปัญหา การขนขยะนับร้อยตันไปยังทิศตะวันออกของเกาะทำผู้ประกอบการรีสอร์ตแฮปปี้ แต่ทำชาวเลกว่า 70 ครัวเรือนเดือดร้อน ได้รับกลิ่นเหม็นจนสุขภาพจิตย่ำแย่ แพทย์เตือนสูดดมกลิ่นเหม็นขยะมากๆ อาจป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ด้านจังหวัดเตรียมจัดระบบขนขยะใหม่
วันนี้ (20 มี.ค.) การจัดการปัญหาขยะบนเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ที่ได้กระทำทำเป็นระบบในช่วงหลังที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นการจัดเก็บอย่างถูกวิธี แม้จะแยกส่วนทั้งขยะเปียก ขยะแห้ง ขยะที่นำมารีไซเคิลได้ โดยได้รับความร่วมมือของทางอำเภอเมืองสตูล ร่วมกับอำเภอส่วนหน้าบนเกาะหลีเป๊ะ และเจ้าของพื้นที่อย่างองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสาหร่าย
จนกลายเป็นที่พึงพอใจของทางผู้ประกอบการรีสอร์ตบนเกาะหลีเป๊ะ แต่ในขณะเดียวกัน การขนย้ายขยะหลายตันเพื่อนำไปขึ้นฝั่งบริเวณทิศตะวันออกหาดชาวเล บนเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาภาพรวมครั้งใหญ่ ขยะจำนวนมาก ทั้งขยะเปียก ที่เป็นจำพวกเศษอาหาร ที่มีกลิ่นเหม็นเน่าต้องทำการขนย้ายผ่านหมู่บ้านชาวเลอูรักลาโว้ยเกือบ 70 กว่าครัวเรือน ที่ต้องรับผลกระทบจากกลิ่นที่เหม็นเน่าลอยฟุ้งกระจายตามทิศทางของลมเข้าไปในหมู่บ้าน และพื้นที่ริมชายหาด ในส่วนปัญหาดังกล่าวไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อหมู่บ้านชาวเล ยังส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวที่เดินชมสัมผัสธรรมชาติริมชายหาดบนเกาะหลีเป๊ะ
เช่นเดียวกับ นางฮารีบ๊ะ แดหวา อายุ 26 ปี ชาวเลที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้ง นางละออง หาญทะเล อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล (เกาะหลีเป๊ะ) ที่สร้างบ้านอยู่ริมชายหาดซึ่งเป็นเส้นทางที่หน่วยงานในพื้นที่ใช้ในการขนส่งขยะขึ้นเรือลำใหญ่ที่บรรจุขยะได้ประมาณ 300 ตัน เปิดเผยว่า ตนเองรับผลกระทบตั้งแต่มีนโยบายที่นำเรือใหญ่มาจอดลอยลำเป็นท่าขึ้นขยะประมาณ 4 เดือนมาแล้ว ชาวบ้านต้องรับผลกระทบจากกลิ่นเหม็นเน่าทั้งคืนทั้งวัน
เช่นเดียวกับ นางละออง หาญทะเล กล่าวเช่นกันว่า เด็กเล็กที่อยู่ใกล้พื้นที่การขนขยะต้องรับผลกระทบทำให้หายใจไม่ออก ติดขัด และบางทีต้องเดินทางไปปรึกษาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เกาะหลีเป๊ะ จึงวอนขอให้ทางผู้ใหญ่ที่ใหญ่กว่าในระดับจังหวัดสตูล โดยทางรัฐบาลได้รับรู้ในการแก้ไขปัญหาตรงนี้
ในขณะที่ทาง นายสุสัณฐ์ เครือแก้ว สาธารณสุขอำเภอเมืองสตูล เปิดเผยว่า การสูดดมกลิ่นขยะโดยเฉพาะขยะเปียกที่ได้สะสมกันเป็นจำนวนมากจะเกิดก๊าซมีเทน หรือก๊าซไข่เน่าโดยผู้สูดดมเข้าไปมากๆ จะเกิดทำให้ระบบทางเดินหายใจ ตั้งแต่โพรงจมูกยาวไปถึงปอด จนส่งผลกระทบทำให้สภาพจิตใจย่ำแย่ เช่นเดียวกับ นายนราศักดิ์ บินดาโอะ พยาบาลวิชาชีพเวชปฏิบัติประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เกาะหลีเป๊ะ ออกมาเปิดเผยเช่นกันว่า ชาวเลต่างพาบุตรหลาน หรือตนเองเดินทางเข้ามาขอคำปรึกษาในเรื่องการดูแลสุขภาพ และการบำบัดจิตใจหลังหาทางออกไม่ได้
ไม่ต่างกับทางอำเภอเมืองสตูล ที่ไดรับการร้องเรียนผ่านเข้ามา จึงได้มีการวางแผนการจัดการปัญหาขยะในเรื่องการขนย้ายเพื่อที่นำไปขึ้นเรือลำใหญ่ หากจะหาพื้นที่ใหม่ในการขนย้าย ในขณะนี้ได้ทำเรื่องปรึกษาทางอุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะตะรุเตา จัดหาที่ใหม่แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้สรุปหาพื้นที่ใหม่
นายจรัล สุวรรณรัตน์ ปลัดอำเภอเมืองสตูล ที่รับผิดชอบประจำบนเกาะหลีเป๊ะ กล่าวว่า ในขณะนี้ทางจังหวัดสตูล ร่วมกับทางอำเภอเมืองสตูล และตำบลเกาะสาหร่าย ได้หาแนวทาง และสรุปได้ว่าจะให้มีการขนขยะเปียกที่มีกลิ่นเหม็นเน่าขึ้นฝั่งทีหลัง และนำเรือขึ้นฝั่งทันทีเพื่อบรรเทาสภาวะกลิ่นที่เหม็นเน่ารบกวนชาวบ้าน
สำหรับข้อมูลการขนย้ายขยะพบว่า ขยะเปียกจะมีมากกว่าขยะแห้งเกือบประมาณ 80เปอร์เซ็นต์ และยังพบข้อมูลที่น่าตกใจว่า ขยะบนเกาะหลีเป๊ะในแต่ละวันมีมากถึง 10-15 ตัน เดือนละประมาณ 300 ตัน จะมีการขนขึ้นฝั่งเดือนละ 3-4 เที่ยว
