กลิ่นเหม็นของ “ก๊าซไข่เน่า” ยังไม่ทันจางหาย กลิ่นตุๆ ของการ “เชือดไก่ให้ลิงดู” ก็คละคลุ้งขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อทางสำนักงานจัดการทรัพย์สินของจุฬาฯ เจ้าของพื้นที่และตึก “สยามสแควร์วัน” ออกหมายบีบให้เจ้าของร้านค้า ซึ่งเป็นเจ้าของป้ายประท้วงผู้จุดประเด็นเรื่องมลภาวะเป็นพิษภายในห้างฯ ออกจากพื้นที่ในทันทีด้วยข้อหา “หมิ่นประมาทชื่อเสียงจุฬาฯ” พร้อมกับผู้ค้าอีกหลายรายเริ่มทยอยออก เห็นทีว่าดรามาเรื่องนี้จะไม่จบง่ายๆ เป็นแน่!!
เชือดไก่สังเวยกลิ่นไข่เน่า!!?
“ตามที่อ้างถึง ส่วนบริหารกิจการสยามสแควร์วัน แจ้งให้ท่านดำเนินการทำสัญญาเช่าพื้นที่บริเวณชั้น LGห้องเลขที่ MS LG022 ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 24 กันยายน 2557 หากท่านไม่ดำเนินการ จักถือว่าท่านปฏิบัติผิดเงื่อนไขในการจองสิทธิการเช่า โดยหนังสือฉบับดังกล่าวเป็นการยกเลิกหนังสือจองสิทธิของท่าน พร้อมรับเงินตามเงื่อนไขทันทีและให้ท่านส่งคืนพื้นที่ภายใน 7 วัน นับจากวันยกเลิกการจองสิทธิ ความละเอียดดังทราบแล้วนั้น
เมื่อปรากฏว่าท่านมิได้ดำเนินการทำสัญญาเช่าตามกำหนดเวลาดังกล่าว หนังสือจองสิทธิของท่านจึงถูกยกเลิกตามกฎหมายในวันที่ 24 กันยายน 2557 บัดนี้ ครบกำหนดเวลาส่งมอบพื้นที่คืนแล้ว แต่ท่านก็มิได้ดำเนินการส่งมอบพื้นที่คืนแต่อย่างใด การที่ท่านไม่อยู่ในฐานะผู้เช่าและยังคงละเมิดเข้าเปิดร้านค้าโดบไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายจนถึงปัจจุบัน และยังปิดประกาศที่หน้าร้านของท่านโดยการโฆษณาข้อความที่เป็นการหมิ่นประมาท ทำให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับความเสียหายเป็นอย่างยิ่ง
ข้าพเจ้าในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงขอแจ้งให้ท่านยุติการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาของท่าน พร้อมทั้งขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 19 ตุลาคม 2557 หากท่านไม่ดำเนินการขนย้าย จักถือว่าท่านสละกรรมสิทธิ์ในบรรดาทรัพย์สินต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว โดยส่วนบริหารกิจการฯ จักทำการตัดกระแสไฟฟ้าในวันที่ 20 ตุลาคม 2557 และใช้สิทธิในการเข้าครอบครองพื้นที่จากการทำละเมิดใช้พื้นที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีความจำเป็นต้องดำเนินคดีกับท่านตามกฎหมายทั้งทางแพ่งและทางอาญาโดยเคร่งครัดต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการโดยด่วน”
(หมายเชิญต้นตอประเด็นข่าว ออกจากพื้นที่)
นี่คือจดหมายเรื่อง “ขอให้ขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากพื้นที่และยุติการหมิ่นประมาท” จากทางสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เป็นเจ้าของพื้นที่และตึก “สยามสแควร์วัน” จากกรณีที่ผู้ค้ารายนี้เป็นต้นตอให้ประเด็นข่าวเรื่อง “ก๊าซไข่เน่า” ภายในห้างฯ แพร่สะพัดไปทั่วจากการติดประกาศไว้ทั่วพื้นที่กระจกใสของร้าน
(ไม่ใช่แค่อันตรายต่อคน แม้แต่โลหะยังดำ)
หากได้ติดตามข่าวจะทราบว่าผลการตรวจวัดจากเจ้าหน้าที่กรมอนามัยระบุไว้ชัดเจนว่า ภายในตัวห้างฯ มี “ก๊าซไข่เน่า” หรือ “ก๊าซไนโตรเจนซัลไฟด์” สูงถึง 10 - 83 ppm ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงกว่ามาตรฐาน เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต กระทั่งสิ่งของก็สามารถก่อความเสียหายได้ เพราะแม้แต่โลหะที่ตั้งเอาไว้ในนั้นยังแปรสภาพเป็นสีดำคล้ำ
กรณีที่เกิดขึ้น ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่สำหรับห้างสรรพสินค้าที่ควรใส่ใจเรื่องการก่อสร้างและสภาพแวดล้อมให้มากกว่านี้ มองในแง่นี้แล้ว ผู้จุดประเด็นเหล่านี้ขึ้นมาให้สังคมได้รับรู้จึงควรได้รับการเชิดชูชมเชยมากกว่าถูกขับไล่ไสส่ง เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จึงอดชวนให้คิดไม่ได้ว่า นี่อาจเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูโดยอ้างวิถีทางกฎหมายเพื่อความถูกต้องและชอบธรรม
หลายร้านขอลา ใครทนได้ก็ทนไป!!
ขณะนี้ ยังไม่สามารถติดต่อเจ้าของร้านค้าผู้ถูกเชิญให้ออกได้ เพราะทราบมาว่าเจ้าของห้องเลขที่ MS LG022 ไม่ได้อยู่ประจำที่ร้านสักพักใหญ่ๆ แล้ว ทิ้งไว้เพียงเสื้อผ้าและร้านที่ตกแต่งเอาไว้เสร็จสรรพ จึงจำเป็นต้องถามจากผู้ค้าร่วมชั้น LG ชั้นเดียวกันนี้แทน ในฐานะเจ้าของร้านผู้ต้องประสบปัญหาเรื่องมลภาวะเป็นพิษในห้างฯ นี้เช่นเดียวกัน เธอจึงขอบอกเล่ากับทีมข่าว "ASTVผู้จัดการ Live" ถึงเรื่องราวและความรู้สึกเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้นแบบไม่ประสงค์จะออกนาม
“ตอนแรก ที่เจ้าของร้านร้านนั้น เขามาติดป้ายบอกคนอื่นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางห้างฯ ก็ได้ออกมาเตือนร้านนั้นแล้วว่า มันมีผลกระทบต่อทางห้างฯ ขอให้ช่วยเอากระดาษแผ่นนั้นออก แต่เขาก็ยังไม่ยอมเอาออก จนห้างฯ ต้องเอากระดาษแผ่นอื่นมาแปะทับอีกทีนึง ทางพี่เขาก็แกะกระดาษออก ทางห้างฯ เขาก็ไม่ยอม เลยมาตีไม้กั้นตามที่เป็นข่าวขึ้นมา หลังจากนั้น ทางห้างฯ ก็เลยขอยกเลิกสัญญาเพราะถือว่าพี่เขาทำผิดกฎ ผลก็เลยออกมาอย่างที่เห็นค่ะ
(เมื่อครั้งไม่ยอมเอาประกาศแฉออก ทางห้างฯ จึงแก้เผ็ด ล้อมด้วยไม้)
ถ้าให้พูดในฐานะคนเช่าคนนึง ส่วนตัวแล้วคิดว่ามันก็มีทั้งดีและไม่ดีเลยที่พี่เจ้าของร้านคนนั้นเขากล้าออกมาแปะป้ายประกาศแบบนั้น เพราะมันเป็นเหมือนดาบสองคม ถ้าไม่เกิดประเด็น ไม่เป็นข่าวขึ้นมา ห้างฯ เขาก็อาจจะไม่ออกมากระตือรือร้นหรือออกมาทำอะไรสักอย่าง เพราะทางห้างฯ เขาก็นิ่งมาตลอดเลยค่ะ แม้กระทั่งเอกสารที่จะแจ้งเตือนเราเกี่ยวกับผลกระทบเรื่องมลพิษก็ไม่มี ไม่เคยชี้แจงว่ากลิ่นเหม็นที่เกิดขึ้นมันมีสาเหตุมาจากอะไร จนเรื่องเป็นข่าว ถึงได้มีกรมควบคุมมลพิษมาตรวจ เราถึงได้รู้กันว่ากลิ่นที่สูดๆ กันอยู่มันคือสารพิษนะ เพราะตอนแรกเราก็ไม่รู้ไงคะ คิดว่ามันคือกลิ่นเหม็นของการก่อสร้างที่ยังไม่เสร็จ ก็ไม่ได้เอะใจอะไรมากมาย จนได้มาคุยกันระหว่างผู้เช่าหลายๆ คนเลยเกิดเป็นข้อสงสัยกันขึ้นมา
ตอนแรกเขายังไม่มีมาตรการว่าจะช่วยเหลือเรายังไงได้บ้าง บอกว่าจะมีลดค่าเช่าให้ 90 เปอร์เซ็นต์บ้าง 70 เปอร์เซ็นต์บ้าง แต่ก็ยังไม่มีร้านไหนขอทำสัญญาเลยค่ะเพราะแต่ละร้านก็ยังขายไม่ค่อยได้ ยังไม่ค่อยมีคนเดิน ไม่แน่ใจว่าจะอยู่ได้มั้ย และมาจนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่ได้ทำสัญญาอย่างเป็นทางการค่ะ
พอเกิดเรื่อง ทางจุฬาฯ เขาก็ขอประชุมเรียกทางร้านค้าขึ้นมา ประกาศเลยว่าจะไม่เก็บค่าเช่าร้านค้าในนี้จนถึงเดือน ม.ค. และไม่มีการเก็บย้อนหลังใดๆ ทั้งสิ้น แค่ค่าไฟ ค่าส่วนกลาง ร้านค้าต้องเสียตามปกติ ไม่ต้องเสียแค่ค่าเช่าอย่างเดียว ส่วนเรื่องจะอยู่ต่อมั้ย ก็คิดไว้เหมือนกันค่ะว่าช่วงนี้เรายังอยู่ฟรีก็อยู่ได้ แต่ถ้าถึงเดือน ก.พ. เขาเรียกเราเข้าไปทำสัญญาและเราเห็นว่ามาตรการการช่วยเหลือของเขา ช่วยเราไม่ได้อย่างเต็มที่ อาจจะลดได้แค่ 50-60 เปอร์เซ็นต์ เราคงอยู่ไม่ได้ค่ะ
ให้เทียบกับร้านเราอีกสาขานึง รายได้เทียบกันไม่ได้เลยค่ะ ปกติถ้าเปิดร้านจะได้หลักแสนต่อเดือน แต่ร้านที่มาตั้งที่นี่ได้แค่ 30,000-40,000 บาท ซึ่งมันไม่คุ้มอยู่แล้วค่ะ เพราะมีค่าเด็ก ค่าไฟต่างๆ ด้วย ยิ่งต่อไป ต้องจ่ายค่าที่ด้วย คิดตามตารางวาต่อเดือนก็จะตกประมาณ 40,000 บาท ก็คงอยู่ไม่ได้แน่ๆ
(กระทู้ต้นเหตุให้เกิดประเด็น ก๊าซไข่เน่า)
ส่วนเรื่องมลภาวะเป็นพิษ ตอนนี้ก็ถือว่าเริ่มดีขึ้นนะคะ วันนั้นที่เรียกประชุม ท่านรองฯ ท่านก็บอกว่า กำลังดำเนินการเต็มที่ เรื่องกลิ่นก็พยายามจัดการให้อยู่ ตัวเราเองก็รู้สึกได้ค่ะว่ามันดีขึ้นเยอะนะ จากช่วงแรกที่เดินเข้ามา จะได้กลิ่นเหม็นเข้าจมูกเลย แต่ตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีแล้ว เพราะเขามีการพ่นยาด้วยค่ะ ก็คงต้องรอดูค่ะว่าช่วงหลัง Grand Opening ช่วงเดือน ธ.ค.ที่จะถึงนี้จะเป็นยังไงบ้าง”
ส่วนเรื่องที่มีกระแสข่าวว่าผู้เช่า 20 กว่าร้านค้าเริ่มทยอยย้ายออกจากที่นี่แล้วเพราะรู้สึกถึงความไม่มั่นคงในชีวิตและรายได้นั้น เป็นเรื่องจริงส่วนหนึ่งและอีกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะหลายๆ ปัจจัยประกอบกัน
“ร้านที่ออกน่าจะเกี่ยวกับเรื่องความเงียบของห้างฯ มากกว่าค่ะ บางร้านก็มีสาขาที่อื่นรองรับอยู่แล้วด้วย คิดว่าอยู่ตรงนี้คงใช้เวลานานกว่าจะจัดการทุกอย่างได้หมด เพราะกว่าจะจัดการได้คงอีกนานค่ะ คงอยากออกไปเสี่ยงที่อื่นกันดูดีกว่า ตอนนี้ก็เริ่มมีร้านทยอยออกบ้าง แต่ก็ไม่ได้ออกแบบประท้วงไปพร้อมกันหมดนะคะ น่าจะไปเพราะเหตุผลส่วนตัวมากกว่า บางร้านที่ยังไม่เคยได้เข้ามาตบแต่งก็ขอยกเลิกสัญญาไปเลยก็มี
ส่วนกรณีที่ถูกเชิญให้ออกมีหลายสาเหตุนะคะ มีทั้งร้านที่ตกแต่งร้านแล้วแต่ไม่ยอมเอาของมาลงก็มีค่ะ ห้างฯ ก็เลยต้องขอยกเลิกสัญญา ขอคืนพื้นที่ หรือบางร้านไม่ยอมยื่นใบยินยอมกับตัวห้างฯ ตามที่เขากำหนดไว้ตั้งแต่แรก กำหนดว่าต้องยื่นก่อนวันที่ 24 ก.ย. สุดท้าย ทางห้างฯ ก็เลยต้องเชิญออก มันเป็นใบยินยอมที่ระบุว่าคุณจะสู้ไปกับทางห้างฯ หรือเปล่า เพราะเขาแค่อยากรู้จำนวนที่แน่ชัดของร้านค้าที่จะยังอยู่ต่อค่ะ แต่สุดท้าย ถ้าเราจะขอย้ายออกก็ได้ค่ะ เพราะเรายังไม่ได้เซ็นสัญญา เรายังมีสิทธิตัดสินใจจนถึงสิ้นเดือน ม.ค.
หรืออีกกรณีที่ทางห้างฯ ต้องเชิญออก ก็อาจจะเป็นเพราะทางร้านปล่อยเช่าค่ะ แล้วทางห้างฯ เขาจับได้ ก็ถือว่าผิดสัญญา มันมีหลายกรณีค่ะที่จะถูกยกเลิกสัญญาและเชิญให้ออก แต่กรณีของพี่เจ้าของร้านคนนั้น น่าจะถูกเชิญให้ออกในกรณีที่ทางห้างฯ เจรจาขอให้ปลดป้ายออก เหมือนกับมันไปทำลายชื่อเสียงของทางห้างฯ ค่ะ”
ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับร้านค้าภายในห้างฯ “สยามสแควร์วัน” เท่าที่ทราบมาคือ ยังไม่มีใครได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่กับทางห้างฯ แม้แต่คนเดียว มีเพียงการชำระค่าเช่าค่ามัดจำ โดยระบุในใบเสร็จเอาไว้ให้สั่งจ่ายในนาม “เงินอุดหนุนการศึกษา” เท่านั้นเอง
(ค่ามัดจำ จ่ายในนาม เงินอุดหนุนการศึกษา)
ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพและข้อมูลบางส่วนจาก: tcijthai.com
ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754
ข่าวที่เกี่ยวข้อง (คลิก)
- บุกห้างฯ ดัง พิสูจน์กลิ่น 'ก๊าซไข่เน่า' เหม็นนี้..ฟุ้งแค่ไหน? (มีคลิป)
- 'ก๊าซไข่เน่า..เหม็นคลุ้ง' เรื่องใกล้ตัว ภัยเงียบในห้างฯ
ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง (คลิก)
- ห้างสยามสแควร์วัน มลพิษและการบริหารงานสุดแย่ของห้าง
