xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการเสนอแนะแนวคิดการจัดการขยะชุมชนของประเทศไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสนธิ คชวัฒน์  เลขาธิการสมาคมอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย
ศูนย์ข่าวศรีราชา - นักวิชาการเสนอแนะแนวคิดการจัดการขยะชุมชนของประเทศไทย เนื่องจากในปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบปัญหาขยะล้นเมือง ปัญหาการจัดเก็บ รวมถึงปัญหาการจัดการขยะ ทำให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

นายสนธิ คชวัฒน์ เลขาธิการสมาคมอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า ปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนควรให้ความสนใจ เนื่องจากในแต่ละปีมีขยะชุมชนเกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 16 ล้านตัน เพียงร้อยละ 36 หรือประมาณ 5.6 ล้านตันเท่านั้น ได้รับการกำจัดอย่างถูกวิธี เช่นการฝังกลบอย่างถูกหลักสุขาภิบาล การเผาในเตาเผา แต่ที่เหลือประมาณ 10 ล้านตัน ส่วนใหญ่นำไปกำจัดแบบเทกองในที่โล่งกองขยะบางแห่งสูงจนเป็นกองภูเขาขยะ ตัวอย่างที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีกองภูเขาขยะขนาดตึก 5-8 ชั้น อยู่ประมาณ 20 แห่ง

ดังนั้น การเกิดไฟไหม้บ่อขยะ หรือกองขยะที่เทกองไว้เป็นจำนวนมากคงจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนนี้อย่างต่อเนื่องต่อไปอีก ดังเช่นในปี 2557 เกิดไฟไหม้บ่อขยะในซอยแพรกษา 8 จังหวัดสมุทรปราการ เนื้อที่กว่า 150 ไร่ ไฟไหม้กองขยะที่ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตากเนื้อที่ 5-6 ไร่ ไฟไหม้กองขยะที่ตำบลคลองปาง อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ไฟไหม้บ่อขยะของเทศบาลบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เนื้อที่ 32 ไร่ ไฟไหม้บ่อขยะของเทศบาลนครสุราษฎร์ฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไฟไหม้บ่อขยะกองสูงขนาดตึก 8 ชั้น ที่บ้านป้อม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น

สาเหตุหลักคือ เมื่อนำขยะมูลฝอยมาเทกองทับถมกันจะเกิดการหมักหมมระยะเวลานานเข้าจะเกิดการย่อยสลายของสารอินทรีย์ภายในกองขยะโดยไม่ใช้ออกซิเจนของจุลินทรีย์ ทำให้เกิดก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซที่ติดไฟ และก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ หรือก๊าซไข่เน่าส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วในช่วงอากาศร้อน หรือมีเชื้อไฟจะทำให้ก๊าซมีเทนภายในกองขยะติดไฟ และเกิดไฟไหม้กองขยะได้ หากกระแสลมพัดเข้าสู่ชุมชนจะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากฝุ่นละออง ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ รวมทั้งไอระเหยสารอินทรีย์ และสารพิษต่างๆ ก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ สูดเข้าไปนานๆ นำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งได้ โดยเฉพาะมะเร็งที่ปอดได้

ทำไมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงเลือกกำจัดมูลฝอย หรือขยะชุมชนโดยการเทกองมากกว่าวิธีอื่นที่ถูกต้องคามหลักสุขาภิบาล

นายสนธิ คชวัฒน์ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงมักใช้วิธีการกำจัดมูลฝอยโดยการเทกอง หรือที่เรียกว่า Open Dumping ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ถูกสุขลักษณะ และก่อให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศ กลิ่นเหม็น โรคจากแมลง และสัตว์แทะ น้ำเสียจากกองขยะ (Leachate) ไหลลงสู่แหล่งน้ำ และน้ำใต้ดิน เป็นต้น เนื่องจากเป็นวิธีการกำจัดมูลฝอยที่ราคาถูกที่สุด และไม่ผิดกฎหมายหากดำเนินการในพื้นที่ขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเอง และไม่ก่อให้เกิดการรบกวนต่อประชาชน หากจะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น อบต. เทศบาลตำบล หรือเทศบาลเมืองแต่ละแห่งไปลงทุนทำระบบกำจัดขยะครบวงจร หรือทำระบบฝังกลบขยะแบบถูกสุขาภิบาล หรือเตาเผาโดยลำพังคงเป็นเรื่องยากเนื่องจากต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูงมาก รวมทั้งท้องถิ่นเองไม่กล้าที่ออกเทศบัญญัติเก็บค่าธรรมเนียมการเก็บขน หรือค่ากำจัดจากประชาชนในราคาสูงเพื่อลดภาระในการแบกค่าใช้จ่ายเนื่องจากกลัวเสียคะแนนเสียงในการเลือกตั้งด้วย

ดังนั้น หากรัฐบาลจากส่วนกลางไม่สนับสนุนงบประมาณเพื่อให้มีการจัดตั้งศูนย์กำจัดขยะที่ท้องถิ่นสามารถใช้ร่วมกันแล้ว ในอนาคตคงจะเห็นกองขยะมีขนาดเท่าภูเขาอยู่ในทุกท้องถิ่นของประเทศไทย และก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนใกล้เคียงต่อไป

ต้องเร่งรีบปฏิรูประบบการจัดการขยะมูลฝอยเพื่อลดปริมาณขยะ

นายสนธิ คชวัฒน์ เสนอว่า การปฏิรูประบบการจัดการมูลฝอยชุมชนควรดำเนินการในหลายๆ ด้านดังนี้ 1.ด้านกฎหมายการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยเป็นหมวดหนึ่งที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 ซึ่งตามมาตรา 20 กำหนดให้ราชการส่วนท้องถิ่นมีอำนาจออกข้อกำหนดท้องถิ่นได้ โดยมาตรา 20 ข้อ 5 “ท้องถิ่นสามารถกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการให้บริการของราชการส่วนท้องถิ่น หรือบุคคลอื่นที่ราชการส่วนท้องถิ่นมอบให้ดำเนินการแทนในการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยไม่เกินอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง ทั้งนี้ การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยราชการส่วนท้องถิ่นนั้นต้องดำเนินการให้ถูกต้องด้วยสุขลักษณะตามที่ได้กำหนดในกฎกระทรวง”

ประเด็นที่น่าสนใจคือ ปัจจุบันยังไม่มีการออกกฎกระทรวงเรื่องค่าธรรมเนียมการกำจัดมูลฝอยและวิธีการกำจัดมูลฝอยที่ถูกสุขลักษณะ ดังนั้น ราชการส่วนท้องถิ่นจึงไม่มีข้อกฎหมายอ้างอิงเพื่อใช้ในการเก็บค่าธรรมเนียมการกำจัดมูลฝอยจากประชาชนได้ เมื่อไม่มีรายได้มาสนับสนุนจึงทำการกำจัดมูลฝอยด้วยวิธีการที่ราคาถูกที่สุดคือ การขุดบ่อและนำมูลฝอยเทลงไป หรือการหาสถานที่ของท้องถิ่นเองที่ห่างไกลชุมชน และนำมูลฝอยที่เก็บจากบ้านเรือนมาเทกองเป็นภูเขา การที่ท้องถิ่นดำเนินการดังกล่าวถ้าไม่เกิดเหตุรำคาญต่อประชาชนก็ถือว่าไม่ผิดกฎหมาย เนื่องจากกฎกระทรวงเรื่องวิธีการกำจัดมูลฝอยที่ถูกสุขลักษณะยังไม่ออก

ดังนั้น เรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในขณะนี้คือ จะต้องเร่งประกาศกฎกระทรวงให้เร็วที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดการกำจัดมูลฝอยแบบเทกองอีกต่อไป และผลักดันให้เกิดศูนย์รวมการจัดการขยะให้ถูกหลักสุขาภิบาลแบบครบวงจรเพื่อให้ท้องถิ่นมาใช้งานร่วมกัน เช่น การคัดแยกขยะเพื่อกลับมาใช้ใหม่ หรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ การเผาในเตาเผา และผลิตกระแสไฟฟ้า การทำปุ๋ยหมัก การจัดการซากผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้ว และการจัดการขยะพิษชุมชน เช่น ถ่านไฟฉาย หลอดนีออน แบตเตอรี่ กระป๋องยาฆ่าแมลง

สำหรับบ่อขยะเดิม ภาครัฐต้องเร่งดำเนินการหามาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพอนามัยอีกต่อไป เช่น 1.น้ำชะจากกองขยะเมื่อฝนตกต้องป้องกันไม่ให้ไหลลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ การป้องกันการเกิดไฟไม้กองขยะในช่วงฤดูร้อน การปลูกต้นไม้เป็น Buffer Zone แก่ชุมชน นอกจากนี้ บ่อขยะที่อยู่ใกล้ชุมชนควรดัดแปลงเป็นสนามกีฬา หรือสวนสาธารณะต่อไป นอกจากนี้ ควรออกกฎหมายบังคับให้ประชาชนทุกครัวเรือนคัดแยกชนิดหรือประเภทขยะเพื่อรอการเก็บขนจากท้องถิ่น รวมทั้งออกกฎหมายส่งเสริมให้เกิดโรงงานรีไซเคิลซากผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้ว

2.ด้านการบริหารจัดการ ภาครัฐต้องสนับสนุนให้มีการจัดตั้งศูนย์กำจัดมูลฝอยเพื่อให้ท้องถิ่นใช้ร่วมกันในหลายพื้นที่ เช่น ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดจัดหาสถานที่กำจัดมูลฝอยของจังหวัดส่วนกลางขึ้นมา โดยที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดต้องเก็บ ขน มูลฝอยนำมากำจัดในสถานที่นั้น ในการดำเนินการดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดอาจของบประมาณเพื่อจัดตั้งศูนย์กำจัดมูลฝอย ผ่านทางการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ส่งให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติต่อไป ทั้งหมดเป็นไปตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535

3.ด้านการลงทุน ภาครัฐต้องสนับสนุน และส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามาดำเนินธุรกิจการจัดการมูลฝอยอย่างครบวงจรตั้งแต่ การเก็บ การขนส่ง การคัดแยก การหาสถานที่ และวิธีการจัดการหรือกำจัด เช่น การคัดแยกมูลฝอยเพื่อนำวัสดุบางส่วนกลับมาใช้ใหม่ การฝังกลบอย่างถูกหลักสุขาภิบาล การเผาในเตาเผา การทำปุ๋ยหมัก เป็นต้น โดยเอกชนสามารถหารายได้จากการนำมูลฝอยกลับมาใช้ ตลอดจนแปรรูปขยะกลับมาใช้ให้มากที่สุด ทั้งนี้ รัฐต้องสนับสนุนงบประมาณบางส่วนในดำเนินการดังกล่าวด้วย

4.ด้านจิตสำนึก ต้องปลูกฝังทัศนคติที่ถูกต้องแก่เยาวชน และประชาชนในพื้นที่ โดยให้การศึกษาและรณรงค์ให้เกิดความร่วมมือปฏิบัติในการแยกขยะที่แหล่งกำเนิด การใช้ซ้ำ การแปรรูปขยะกลับมาใช้ใหม่ ท้องถิ่นควรหามาตรการจูงใจให้มีการแยกขยะกันทุกครัวเรือน เช่น ขยะเปียก ขยะแห้ง ขยะพิษ ขยะที่นำกลับมาใช้ใหม่ เป็นต้น รวมทั้งรณรงค์ไม่ใช้ถุงพลาสติก หรือโฟมในท้องถิ่นต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น