xs
xsm
sm
md
lg

เขาว่า “คนไทยโง่และเห็นแก่ตัว” จริงหรือ? / จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แฟ้มภาพ
 
คอลัมน์ : คนคาบสมุทรมลายู
โดย...จรูญ  หยูทอง-แสงอุทัย
 
จากการสำรวจของเอแบคโพลล์เมื่อปี  ๒๕๕๒  พบว่า  คนไทยร้อยละ  ๘๔.๕  มองว่าการทุจริตคอร์รัปชันเป็นเรื่องปกติธรรมดาในการทำธุรกิจ  และคนไทยร้อยละ  ๕๑.๒  ยอมรับได้ที่รัฐบาลทุจริตคอร์รัปชัน  ขอเพียงทำให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง และประชาชนอยู่ดีกินดีเท่านั้น
 
สะท้อนให้เห็นว่า คนไทยยังอยู่หลังเขาของระบบเศรษฐกิจโลกในศตวรรษที่  ๒๑  หรือคนไทยถูกนักการเมืองหลอกได้สนิท จนไม่รู้เลยว่าประเทศที่เจริญรุ่งเรือง  และประชาชนอยู่ดีกินดีได้จริงๆ นั้น  เพราะเขาป้องกัน และปราบคอร์รัปชันอย่างได้ผล  และการจะทำอย่างนั้นได้ประชาชนต้องได้รับการศึกษาอบรมให้มีความซื่อสัตย์สุจริต  มีจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม และความเป็นพลเมืองที่มีการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล
 
ความจริงแล้วเชื่อกันว่า  ประเทศไทยมิได้ขาดแคลนแรงงาน และทรัพยากร  แต่เราขาดภูมิปัญญา และจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม  โดยเฉพาะเราขาดผู้นำที่ฉลาด  มีสติปัญญา  จึงทำให้เราเป็นประเทศด้อยพัฒนา หรือกำลังพัฒนามานับศตวรรษแล้ว
 
ประเทศไทยเต็มไปด้วยชนชั้นนำที่คิด และทำเพื่อตัวเอง  ทั้งในทางเศรษฐกิจ  การเมือง  สังคมและวัฒนธรรม  ทั้งในอดีตและปัจจุบัน  ตลอดถึงอนาคตอันยาวนาน
 
ในสถานการณ์ความขัดแย้งทางความคิดอันรุนแรงตลอดกว่าทศวรรษที่ผ่านมาของปรากฏการณ์ระบอบทักษิณ (แนวคิด  นโยบายและการบริหารจัดการแบบทักษิณ) ของผู้ต่อต้านและสนับสนุนระบอบทักษิณ  เราพบเห็นแต่คนโง่ และเห็นแก่ตัวเต็มไปหมด  ทั้งโง่จริงและแกล้งโง่
 
ฝ่ายหนึ่งโง่ที่สำคัญผิดคิดว่า  ระบอบทักษิณเข้าใจ และเห็นใจคนจน  คนด้อยโอกาส  ทักษิณ และคนที่ทักษิณสนับสนุนเป็นนักประชาธิปไตย  เพราะเพียงแต่มาจากการเลือกตั้ง  มีอำนาจแล้วจะทำชั่วช้าสามานย์อย่างไรก็ได้  ประชาชนโดยเฉพาะพวกที่ไม่ได้เลือกพวกเขามาไม่มีสิทธิที่จะไปต่อต้าน  กระบวนการยุติธรรม  กระบวนการตรวจสอบที่มีอยู่  ถ้าไม่เข้าข้างพวกเขา  ก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะมาตรวจสอบ หรือถอดถอน  เพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
 
อีกฝ่ายหนึ่งก็โง่ที่เชื่อว่า  ถ้าล้มระบอบทักษิณลงได้แล้ว  ประเทศชาติจะมีความเจริญก้าวหน้าสถาพรทันที  โดยคิดว่าความเป็นจริงในสังคม  ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ของประเทศชาติบ้านเมืองมันมีความสลับซับซ้อนมากกว่านั้นหลายเท่านัก
 
ความเป็นจริงระบอบทักษิณ และปรากฏการณ์ทักษิณ  เกิดจากความผิดพลาดของชนชั้นสูง และชนชั้นกลางหรือที่ฝ่ายทักษิณเรียกว่า “อำมาตย์”  ตลอดศตวรรษที่ผ่านมาที่คนเหล่านี้มีส่วนในการพัฒนาประเทศแบบเพิ่มช่องว่าง  ความแตกต่างระหว่างคนจนกับคนรวย  คนเมืองกับคนชนบท  ผู้ได้เปรียบกับผู้เสียเปรียบ  ทั้งฐานะทางเศรษฐกิจ  การเมือง  สังคม  และวัฒนธรรม  การศึกษา  ขาดการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และการเข้าถึงบริการจากรัฐมากเสียจนทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้คนอย่างทักษิณก้าวขึ้นมาถึงจุดที่มีอิทธิพลขั้นนี้ได้  คือ เป็นทั้งผู้ผูกขาดทางเศรษฐกิจ  ผูกขาดอำนาจรัฐ  เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ที่มีเสียงข้างมากเด็ดขาดในรัฐสภา และรัฐบาล  เป็นเจ้าพ่อธุรกิจการสื่อสารโทรคมนาคม หรือเจ้าพ่อดาวเทียม  และเป็น “เทพเจ้า” ของคนจนคนด้อยโอกาสด้วยนโยบายประชานิยมจอมปลอม  และเป็นนักประชาธิปไตยแบบลวงโลกผู้เชื่อมั่นในนโยบายปราบปรามแบบฆ่าตัดตอน  มากกว่าผ่านกระบวนการยุติธรรม
 
ในวันที่นักการเมืองผู้ฉ้อฉลเชิงนโยบาย  ทุจริตต่ออำนาจหน้าที่  และเป็นเผด็จการรัฐสภาขัดต่อรัฐธรรมนูญ  รวมทั้งการบริหารชาติบ้านเมืองให้เกิดความเสียหาย  ก่อภาระหนี้สินครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์  จนถูกกระบวนการตรวจสอบพิจารณาดำเนินการถอดถอนออกจากอำนาจ และเอาผิดทางการเมือง และอาญา  แต่กลับมีประชาชนคนไทยจำนวนหนึ่ง  โดยเฉพาะระดับแนวหน้าในหลายวงการ  เช่น  นักวิชาการในสถาบันอุดมศึกษา  สื่อมวลชนอาวุโส  นักคิด  นักเขียนคนสำคัญ  ฯลฯ  ต่างออกมาปกป้องและประกาศตนเป็นปฏิปักษ์ต่อผู้ตรวจสอบ และผู้เห็นด้วยต่อการตรวจสอบ ด้วยตรรกะตื้นๆ เพียงว่า  “คนที่ถูกถอดถอนมาจากการเลือกตั้งของประชาชน  แต่ผู้ถอดถอนไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง  แต่มาจากการแต่งตั้งของเผด็จการทหารที่ยึดอำนาจจากผู้มาจากการเลือกตั้ง  ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย และไม่เอื้อต่อการปรองดองของคนในชาติ”
 
คนไทยจำนวนไม่น้อยที่ท่องคาถา  “มาจากการเลือกตั้ง  เป็นประชาธิปไตย  ไม่มาจากการเลือกตั้ง  ไม่เป็นประชาธิปไตย”  โดยไม่ได้คำนึงถึงประสิทธิภาพ  ประสิทธิผล  และที่สำคัญคือ ผลประโยชน์ของส่วนรวม  คล้ายๆ กับว่า  “แม้จะรู้ว่าน้ำที่อยู่ในกะลาเป็นน้ำบริสุทธิ์ สะอาด และมีประโยชน์  ไม่เป็นพิษเป็นภัย  ใช้ดับกระหายได้  แต่ก็ยังไม่น่ายินดีเท่ากับน้ำผสมยาพิษที่อยู่ในเหยือกทองคำ”
 
เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วจะให้ไม่เชื่อว่า “คนไทยโง่และเห็นแก่ตัว” ได้อย่างไรกัน.
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น