xs
xsm
sm
md
lg

NGOs ใต้แถลงการณ์จี้ คสช.ยกเลิกกฎอัยการศึก หยุดคุกคามสื่อและประชาชน (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ หรือ กป.อพช.ใต้ ออกแถลงการณ์ประณามการบริหารของรัฐบาล และ คสช. ระบุใช้อำนาจเกินขอบเขตรังแกประชาชน มองข้ามข้อเสนอเรื่องการปฏิรูปที่ดิน และพลังงาน พร้อมจี้ให้ยกเลิกกฎอัยการศึกทันที เผยหลังจากนี้ กป.อพช.ทั่วประเทศจะมีการเคลื่อนไหวใหญ่เพื่อกดดันรัฐบาล

   


วันนี้ (17 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมบูรณ์ คำแหง เลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ หรือ กป.อพช. นายวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี รองเลขาธิการ กป.อพช.ใต้ และนายศักดิ์กมล แสงดารา กรรมการ กป.อพช.ใต้ ได้ร่วมกันอ่านคำแถลงการณ์ เรื่องยกเลิกกฎอัยการศึก หยุดปิดกั้น คุกคามการแสดงออกของประชาชน โดยมีเนื้อหาระบุว่า

หลังการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งต่อมา ได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 ได้มีการจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จัดตั้งรัฐบาล จัดตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และมีกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับถาวรให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี โดยเหตุผลเพื่อลดความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นจากฝ่ายต่างๆ และเพื่อต้องการให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไป มีวาระแห่งชาติเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย นำไปสู่ความผาสุกของประชาชนร่วมกัน

แต่ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา การออกประกาศ ออกคำสั่ง และการดำเนินนโยบายในนามของคณะรัฐบาลชั่วคราว กลับสร้างความเดือดร้อน และผลกระทบให้แก่ประชาชนระดับทั่วไปทั้งประเทศ มีการใช้กำลังทหาร คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แผนแม่บทการจัดการป่าไม้แห่งชาติ และกฎอัยการศึก เข้ารุกไล่ที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน และตัดโค่นผลอาสินของประชาชนคนเล็กคนน้อย

ใช้กำลังทหาร และอำนาจในการออกคำสั่ง ลดกระบวนการ และขั้นตอนสำคัญในการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพที่จะเกิดขึ้นจากการจัดทำโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ทั้งที่กระบวนการต่างๆ เป็นผลดีต่อประชาชน

ใช้กำลังทหาร และอำนาจกฎอัยการศึก ข่มขู่ จับกุมประชาชน นักวิชาการที่แสดงความเห็นคัดค้านการเดินหน้าสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ที่เสนอให้มีการพัฒนาโครงสร้างการจัดการผลประโยชน์พลังงานใหม่

ใช้อำนาจในนามของรัฐบาลประกาศเดินหน้าโครงการขนาดใหญ่ภายใต้แผนพัฒนาชายฝั่งทะเลภาคใต้ เช่น การพัฒนาโครงข่ายลอจิสติกส์ การสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา ท่าเรือบ้านสวนกงเชื่อมสองฝั่งทะเลอ่าวไทยอันดามัน ที่จังหวัดสงขลา-สตูล และใช้อำนาจทหารตามกฎอัยการศึก ละเมิดสิทธิประชาชนที่จะมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น

ใช้กำลังทหาร และอำนาจกฎอัยการศึก ข่มขู่ คุกคาม ขัดขวางประชาชนไม่ให้มีส่วนร่วมในการคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้

ใช้อำนาจในนามของรัฐบาลออกแผนแม่บทแก้ไขปัญหาการประมง โดยไม่สนใจฟังเสียงของชาวประมงขนาดเล็ก แอบสอดไส้นิรโทษกรรมเรือประมงเถื่อน ตอบสนองความต้องการของนายทุนประมงเรือใหญ่ ไม่สนใจการรักษาฐานทรัพยากรทางทะเลให้ยั่งยืนในระยะยาว

ใช้กำลังทหาร และกฎอัยการศึกปิดกั้น คุกคาม การแสดงความคิดเห็นประชาชน การทำหน้าที่ของสื่อมวลชน เพื่อที่จะจำกัดการรับรู้ข่าวสารสาธารณะของประชาชน เช่น กรณีของ น.ส.ณาตยา แวววีระคุปต์ ผู้ดำเนินรายการเวทีสาธารณะ และเสียงประชาชนเปลี่ยนประเทศไทย

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้) มีความเห็นว่า การใช้กฎอัยการศึกในปัจจุบันได้ปิดกั้นการแสดงออกของประชาชน และผู้ได้รับความเดือนร้อนจากการบริหารราชการแผ่นดินในมิติต่างๆ ใช้อำนาจนี้เพื่อผลักดันเดินหน้าโครงการ กิจกรรมต่างๆ ของรัฐบาลที่อาจสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในหลายพื้นที่ โดยไม่ยอมรับฟังเสียงสะท้อนใดๆ ทั้งสิ้นไม่ใช่วิสัยของประเทศที่พัฒนาแล้ว และถือเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้

“เราเห็นว่าการประกาศกฎอัยการศึกในช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง จนถึงขณะนี้ ได้มีการจัดตั้งรัฐบาล และมีกลไกต่างๆ ในการดำเนินการตามวาระต่างๆ เพียงพอแล้ว ในโอกาสที่รัฐบาลจะสร้างบรรยากาศการปฏิรูปประเทศ จึงควรสร้างพื้นที่ และเปิดกว้างให้มีการรับฟังแนวคิด ข้อเสนอแนะ การสะท้อนถึงความเดือดร้อนที่แท้จริงของชาวบ้าน และประชาชนทั่วไปในทุกรูปแบบ จึงขอเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ และรัฐบาล ยกเลิกกฎอัยการศึกในทุกพื้นที่ เพื่อแสดงถึงความจริงใจในการบริหารประเทศนี้ให้เจริญก้าวหน้าต่อไป”

นายสมบูรณ์ คำแหง เลขาธิการ กป.อพช.ใต้ เปิดเผยต่อ “ASTVผู้จัดการภาคใต้” ว่า หลังจากนี้ กป.อพช.ทั้ง 4 ภาคจะมีการประชุมร่วมกันอีกครั้งที่กรุงเทพมหานคร เพื่อกำหนดมาตรการเรียกร้องต่อรัฐบาล และ คสช.ร่วมกันอีกครั้ง

“ยังบอกไม่ได้ว่าการเคลื่อนไหวจะมีรูปแบบการกดดันเป็นอย่างไร แต่ที่สำคัญขณะนี้ทางเครือข่าย กป.อพช.ทั้ง 4 ภาคเห็นตรงกันในการใช้อำนาจเกินขอบเขตของ คสช. และรัฐบาล หลังจากนี้ จะมีการเคลื่อนไหวใหญ่อย่างแน่นอน” นายสมบูรณ์ กล่าว
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น