ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์ฯ เปิดงาน “ภูมิรักษ์ พิทักษ์น้ำ” เฉลิมพระเกียรติฯ เสริมสร้างให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม ขณะที่กระทรวงทรัพย์ฯ อนุมัติงบ ปี 58 ให้ภูเก็ต กว่า 15 ล้านบาท ดำเนินโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำ
เมื่อเวลา 17.30 น.วันนี้ (20 ก.ย.) พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมโครงการ “ภูมิรักษ์ พิทักษ์น้ำ” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ในวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลองแห่งชาติ ประจำปี 2557 ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำ จัดขึ้น ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี อ.เมืองภูเก็ต
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์ฯ ได้เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ที่ชนะการประกวดวาดภาพในหัวข้อ “คืนความสุขให้คนไทย คืนความสดใสให้แม่น้ำคูคลอง” อีกด้วย มีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ นางภาวิณี ปุณณกันต์ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ รอง ผบช.ภ.8 รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ตลอดจนผู้แทนทหารบก ทหารเรือ และหน่วยงานราชการ ข้าราชการในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประชาชนทั่วไปร่วมในพิธีเปิด
พล.อ.ดาวพงษ์ กล่าวว่า กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรมโครงการ “ภูมิรักษ์ พิทักษ์น้ำ” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษ 12 สิงหาคม 2557 และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ในวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลองแห่งชาติ ประจำปี 2557 ระหว่างวันที่ 20-21 กันยายน 2557 ณ บริเวณสวนเฉลิมพระเกียติ 72 พรรษา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2544 กำหนดให้วันที่ 20 กันยายนของทุกปีเป็นวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลองแห่งชาติ สืบเนื่องจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงเสด็จประพาสทางชลมารคเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2537 เพื่อตรวจสภาพคลองแสนแสบ และเยี่ยมประชาชนสองฝั่งคลองจากกรุงเทพมหานคร ถึงจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นระยะทางกว่า 72 กิโลเมตร ซึ่งยังความปลาบปลื้มปีติแก่พสกนิกรตลอดเส้นทางเป็นอย่างยิ่ง
กรมทรัพยากรน้ำ ในฐานะเป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ประกอบกับเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทในการรณรงค์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการทรัพยากรน้ำ จึงได้จัดกิจกรรมเนื่องในวันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติประจำปี 2557 เพื่อเสริมสร้างให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องต่อหัวข้อ “วันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลองแห่งชาติ” โดยภายในงานมีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ การจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้ในการดูแลบำรุงรักษา และการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างรู้ค่า กิจกรรมสร้างจิตสำนึกตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำและร่วมกันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง ได้แก่ การเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ การประกวดวาดภาพของนักเรียน และบุคคลทั่วไป การประกวดถ่ายภาพ รวมทั้งการจัดกิจกรรมปลุกจิตสำนึก และการแสดงบนเวที
พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในปีงบประมาณ 2558 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำ ได้อนุมัติงบประมาณ จำนวน 15 ล้านบาทเศษ เพื่อดำเนินกิจกรรมโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำฯ จำนวน 3 โครงการ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต แบ่งเป็นโครงการอนุรักษ์พื้นฟูแหล่งน้ำขุมเหมืองบ้านลิพอน ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จำนวน 7,600,000 บาท ทั้งนี้ สืบเนื่องจากปัจจุบันขุมเหมืองบ้านลิพอน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบใช้สำหรับผลิตประปาบริการให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ต.ศรีสุนทร มีสภาพตื้นเขิน ส่งผลให้ปริมาตรเก็บกักน้ำมีน้อย ปริมาณน้ำดิบไม่เพียงพอต่อการผลิตน้ำประปา ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งการแก้ปัญหานั้นจะดำเนินการขุดลอกดินโคลน เพื่อให้มีพื้นที่ในการเก็บกักน้ำได้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูคลองบางใหญ่ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต งบประมาณ 4,000,000 บาท โดยการขุดลอกคลองบางใหญ่ ระยะทางจากสะพานคลองบางใหญ่ ถึงสะพานกอจ๊าน เป็นระยะทาง 1,225 เมตร เพื่อให้คลองบางใหญ่สามารถระบายน้ำได้เพิ่มขึ้น บรรเทาปัญหาความเดือดร้อนจากการเกิดอุทกภัยในพื้นที่เขตอนุรักษ์ย่านการค้าเมืองเก่า
โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำโรงเรียนภูเก็ตปัญญานุกูล พร้อมระบบกระจายน้ำ หมู่ที่ 2 บ้านป่าคลอก ต.ป่าคลอก อ.ถลาง งบประมาณ 4,300,000 บาท เพื่อปรับปรุงสระเก็บน้ำดิบ และปรับปรุงระบบผลิตน้ำสะอาด ทั้งนี้ สืบเนื่องจากปัจจุบันระบบผลิตน้ำสะอาดภายในโรงเรียนปัญญานุกูล มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ก่อให้เกิดปัญหาต่อนักเรียน เช่น เกิดโรคผิวหนัง โรคเกี่ยวกับทางเดินระบบอาหาร รวมทั้งประสบภาวะขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค
