xs
xsm
sm
md
lg

ตรึงค่าโดยสารรถใต้ดินถึงสิ้นปี “ประจิน”สั่งสรุปเดินรถสีน้ำเงินต.ค.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ประจิน” คืนความสุข เตรียมเจรจา BMCL ตรึงค่าโดยสารรถไฟใต้ดินต่อถึงสิ้นปี 57 ขีดเส้น ต.ค.สรุปเจรจาหรือประมูลเดินรถส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน ยอมรับ คตร.ตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส ยันเลือกวิธีที่ประชาชนได้ประโยชน์ ถูกกฎกติกาและหลักธรรมาภิบาล เผยข้อดี BMCLเดินรถต่อเนื่อง ช่วยรัฐประหยัดงบประมาณได้ 10,000 ล้านบาท แถมประชาชนได้ใช้เร็วขึ้นกว่า 1 ปีครึ่ง

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์และทำบุญหัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สัญญาที่ 2 ช่วงสนามไชย-ท่าพระ บริเวณสถานที่ก่อสร้างสถานีอิสรภาพซึ่งมีความคืบหน้า 63.74% เร็วกว่าแผน 0.59%วานนี้ (21 ก.ย.) ว่า บริเวณนี้เป็นจุดลอดแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีความสำคัญและใช้เทคนิคในการก่อสร้างด้านการคำนวนเวลาและการเคลื่อนหัวเจาะกับการก่อสร้างกำแพงคอนกรีตที่มีความแข็งแรงจึงเร่งรัดงานไม่ได้ แต่จะแล้วเสร็จในปี 2559 นอกจากนี้ได้ตรวจเยี่ยมสถานีเตาปูน ซึ่งเป็นสถานีหลักในการเชื่อมต่อกับสายสีน้ำเงินใต้ดิน และสีน้ำเงินส่วนต่อขยายและสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับให้ผู้โดยสารใช้บริการและเปลี่ยนรถได้สะดวกสบาย

ทั้งนี้ ในการพิจารณาคัดเลือกเอกชนเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายนั้น พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า รฟม.จะต้องเร่งรัดพิจารณาวิธีการว่าจะเจรจาหรือประมูลโดยจะต้องสรุปภายในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับงานโยธาที่จะก่อสร้าง แล้วเสร็จในปี 2559 ซึ่งทราบว่าคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ได้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ 2 ครั้งแล้วและได้สรุปผลการตรวจสอบเมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งคตร.มีความเป็นกลาง โดยจะรายงานผลการตรวจสอบต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.และนายกรัฐมนตรีจากนั้นจะให้ข้อมูลต่อมาที่ตนในฐานรองหัวหน้าคสช.ถึงแนวทางที่เหมาะสมหรือจะมีการศึกษาเพิ่มเติมอย่างไร

“หากตรวจสอบแล้ว ทำให้รฟม.ดำเนินงานมีความชัดเจนโปร่งใส แล้วโครงการอาจล่าช้าออกไปบ้างก็สามารถรับได้ โดยขณะนี้ขั้นตอนการพิจารณาอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35) ซึ่งต้องให้คณะกรรมการทำหน้าที่เต็มที่ก่อน เมื่อสรุปได้ ขั้นต่อไปคือทางกระทรวงจะรับลูกต่อ ซึ่งกรณีเจรจาแล้วทำให้เอกชน คือบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL ได้เปรียบนั้น ในการพิจารณาจะเน้นที่ประชาชนได้เปรียบ คือ เดินทางสะดวกปลอดภัย ได้รับบริการตามมาตรฐานสากล โดยต้องพิจารณากฎกติกา ถูกหลักธรรมาภิบาล การมีส่วนร่วม หลักเหตุผลและโปร่งใสมากที่สุด ส่วนรฟม.จะต้องไม่เอื้อประโยชน์ให้บริษัทใดบริษัทหนึ่งผมจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด”พล.อ.อ.ประจินกล่าว

เจรจา BMCL ตรึงขึ้นค่าโดยสารถึงสิ้นปี 57

ส่วนการปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ต้ดินสายเฉลิมรัชมงคลที่จะครบกำหนดในวันที่ 3 ตุลาคม 2557 นั้น พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า ในหลักของสัญญาสัมปทานร่วมกับเอกชนนั้น ต้องทำตามกติกาซึ่งในเดือนตุลาคมจะปรับขึ้นค่าโดยสารเพิ่มเฉลี่ยสถานีละ 1 บาท บางสถานีจะปรับ 1-2 บาท นโยบายในขณะนี้คือจะขอให้เอกชนชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารออกไปก่อน โดยในวันที่ 27 กันยายน นี้จะเชิญทาง BMCL มาเจรจาเพื่อขอความร่วมมือให้ตรึงการปรับค่าโดยสารออกไปถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้ หรือถ้าไม่ได้อย่างน้อยขอให้ทยอยการปรับขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจและช่วยแบ่งเบาภาระของประชาชน โดยอัตราค่าโดยสารปัจจุบันเริ่มต้นที่ 16 บาท สูงสุด 40 บาท

ส่วนการเปิดเดินรถสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) นั้น ทาง BMCL แจ้งว่า ขบวนรถจะเข้ามาในปลายปี 2558 แน่นอนและเริ่มทดสองระบบทันที ซึ่งได้ขอให้ BMCL พิจารณาเปิดเดินรถในไตรมา 1/2559 ได้หรือไม่ โดยล่าสุดทางบริษัทจะเร่งเปิดเดินรถให้เร็วขึ้น 6 เดือนหรือกลางปี 2559 จากแผนจะเปิดเดินรถปลายปี 2559

”ยงสิทธิ์“ ป่วยกระทันหัน

รายงานข่าวแจ้งว่า นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการ รฟม. ไม่ได้มาร่วมพิธีและตรวจงานในครั้งนี้ ด้วย ซึ่งการสอบถาม พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานบอร์ด รฟม. แจ้งว่า นายยงสิทธิ์ แจ้งลาป่วยกระทันหัน

BMCL เดินรถประชาชนได้ประโยชน์

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าการพิจารณาของคณะกรรมการมีความเห็นว่าการเดินรถต่อเนื่อง ของบริษัท BMCL นั้นจะทำให้ประชาชนสามารถเดินทางได้สะดวกและมีความปลอดภัยที่สุด นอกจากนี้การบริหารจัดการในการเดินรถและการบำรุงรักษาจะมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสามารถกำหนดระยะเวลาการเปิดให้บริการได้อย่างรวดเร็ว และเป็นประโยชน์กับประชาชนสูงสุด ซึ่งเป็นไปตามแผนงาน ดังนั้นการที่ รฟม.เห็นชอบและมีนโยบายในเรื่องการดำเนินการเดินรถต่อเนื่องนั้น จึงเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชนโดยเฉพาะ ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้กับ MBCL แต่อย่างไร

ทั้งนี้ หาก รฟม. มีการดำเนินการเองหรือเปิดให้เอกชนรายอื่นเข้ามาดำเนินการ ก็ต้องมีการกำหนดแผนงานให้มีการเดินรถต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งจะเป็นได้ว่าจะต้องมีบุคลากรเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องมีการแบกรับต้นทุนในการบริหารจัดการเพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียแล้ว การมีนโยบายให้เจรจาากับ BMCL เพื่อให้เดินรถต่อเนื่องนั้นจะเป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชนมากที่สุด และรัฐเองได้ประโยชน์สูงสุดปีะหยัดค่าใช้จ่ายได้กว่า 10,000 ล้านบาท โดยเฉพาะสังคมส่วนรวมจะได้ประโยชน์เพราะสามารถเปิดได้เร็วขึ้นกว่า 1 ปีครึ่ง

"ทางบริษัทBMCL พร้อมที่จะเจรจา และให้การสนับสนุนกับทางรัฐบาล เพื่อต้องการให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากรถไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้ความพร้อมของสถานีที่ก่อสร้างนั้นก่อสร้างแล้วเสร็จ รอเพียงนำขบวนรถไฟฟ้ามาก็สามารถให้บริการได้ ซึ่งหากยิ่งล่าช้าออกไปขั้นตอนการสั่งซื้อรถไฟฟ้าก็ต้องใช้เวลานานออกไป เพราะรถต้องสั่งผลิตใช้เวลาเป็นปีจึงเปิดให้บริการได้ ดังนั้นจึงอยากจะตัดสินให้จบภายในเดือนตุลาคมนี้ "แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น