ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชาวภูเก็ตร้องกรณีแยกไฟแดงซอยบางใหญ่ ถนนวิชิตสงคราม เปิดใช้สัญญาณไฟกะพริบแทนสัญญาณไฟเขียว-ไฟแดง ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต เตือนประชาชนสัญจรด้วยความระมัดระวัง ขณะที่ ผอ.ทางหลวงชนบท ผู้รับผิดชอบเผยรอยื่นซองประกวดราคา 2 ก.ย. คาดจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือน พ.ย.นี้
จากกรณีที่มีบุคคลซึ่งใช้ชื่อว่า แมน ซึ่งเป็นประชาชนชาวภูเก็ต ได้ร้องเรียนผ่านเว็บบอร์ดต่างๆในโซเชียลเน็ตเวิร์ก กรณีไฟแดงถนนวิชิตสงคราม เส้นทางไปอำเภอกะทู้ บริเวณปากซอยบางใหญ่ ใกล้ห้างแม็คโครภูเก็ต ที่มีอยู่ 2 ไฟแดง แต่มีการเปิดใช้สัญญาณเพียงไฟแดงเดียว คือ จุดที่เป็นสามแยกทางเข้าโครงการบ้านจัดสรร อีก 1 ไฟแดงที่เป็นสี่แยกไฟแดงซอยบางใหญ่ และถนนตัดใหม่ซอยนาเสือ มีการเปิดไฟกะพริบ ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเกิดความเสี่ยง ทั้งรถที่มาจากทางตรงสายหลัก (ถนนวิชิตสงคราม) และรถที่ออกมาจากถนนสายรอง โดยจุดดังกล่าวมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง หรือแทบทุกวัน โดยเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มโซเชียลเน็ตเวิร์กในภูเก็ตต่างตั้งคำถามว่า ทำไม่ไม่เปิดใช้ไฟแดงบริเวณจุดสี่แยกซึ่งมีการจราจรเป็นจำนวนมาก กลับไปเปิดใช้จุดที่เป็นสามแยกไฟแดงที่เป็นทางเข้าหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งเหมือนเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่คนบางกลุ่ม
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงบริเวณแยกไฟแดงทั้ง 2 จุดพบว่า ที่บริเวณสี่แยกไฟแดงจุดแรก (ปากซอยบางใหญ่) มีการเปิดสัญญาณไฟกะพริบ รถที่สัญจรทั้ง 4 ด้านจะต้องใช้ความระมัดระวัง โดยเฉพาะรถที่มาจากเส้นทางหลักส่วนใหญ่ใช้ความเร็วสูง เมื่อมาถึงจุดดังกล่าวจะต้องชะลอความเร็วอย่างกะทันหัน เนื่องจากมีรถที่ออกมาจากเส้นทางรองทั้ง 2 ด้าน (ซอยบางใหญ่ และซอยนาเสือ) ตัดข้ามไปมาอย่างรวดเร็ว ขณะที่รถที่ออกมาจากเส้นทางรอง (ซอยบางใหญ่ และซอยนาเสือ) จะต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากรถในทางหลัก (ถนนวิชิตสงคราม) บางคันไม่ชะลอความเร็วให้ผ่าน
สอบถามจากผู้ประกอบการที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวพบว่า จุดดังกล่าวมีการเกิดอุบัติเหตุแทบทุกวัน เนื่องจากมีการเปิดไฟกะพริบ รถที่ผ่านจะต้องวัดใจ ผู้ประกอบการร้านค้า และบ้านเรือนที่ตั้งอยู่บริเวณแยกไฟแดงดังกล่าวก็ต่างอกสั่นขวัญหายเพราะตลอดทั้งวันมีเสียงรถเบรก หรือหักหลบรถที่ออกมาจากทางแยกเพื่อตัดเข้าทางหลัก (ถนนวิชิตสงคราม) บางรายหักหลบพุ่งเข้ามาทางร้านค้าจนเกือบชนแล้วหลายครั้ง
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังไฟแดงแยกที่ 2 (ถนนวิชิตสงคราม) ซึ่งห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร จุดนี้เป็นสามแยกทางเข้าหมู่บ้านจัดสรรชื่อดังรายหนึ่ง พบว่ามีการเปิดใช้สัญญาณไปแดงแบบตั้งกำหนดเวลาชัดเจนเพื่อให้รถที่มาจากฝั่งโครงการสามารถออกได้อย่างปลอดภัย
สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต โดย พ.ต.อ.ชวลิต เพชรสีเปีย ผกก.สภ.วิชิต ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.ประวัติ ตันติบุษบรรย์ รองสารวัตรจราจร สภ.วิชิต เป็นผู้ให้รายละเอียด โดย ร.ต.อ.ประวัติ กล่าวว่า จุดสี่แยกไฟแดงดังกล่าวเดิมเป็นสามแยกไฟแดง ที่รับผิดชอบโดยแขวงการทาง แต่ภายหลังสำนักงานทางหลวงชนบท ได้อนุมัติงบประมาณก่อสร้างถนนเลี่ยงเมือง คือ ถนนใหม่ซอยนาเสือเชื่อมกับแยกไฟแดงดังกล่าว ซึ่งถนนสร้างเสร็จมีการเปิดใช้เมื่อไม่นาน ขณะนั้นมีการตกลงกันว่าให้สำนักงานทางหลวงชนบท เป็นผู้รับผิดชอบติดตั้งเสาไฟแดงอันใหม่ แต่งบประมาณในการจัดซื้อเสาไฟแดงอันใหม่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่สามารถเปิดใช้ไฟแดงได้ตามปกติ เนื่องจากผู้ที่มาจากฝั่งถนนเส้นใหม่ (ซอยนาเสือ) จะไม่สามารถมองเห็นสัญญาณไฟ และอาจถูกรถที่มาจากทางหลัก (ถนนวิชิสงคราม) เฉี่ยวชนได้ จึงมีความจำเป็นจะต้องเปิดสัญญาณไฟกะพริบเพื่อให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวัง ขณะเดียวกัน เมื่อประมาณกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้สอบถามถึงกรณีจัดซื้อเสาไฟแดงกับผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงชนบทในที่ประชุม ได้รับคำตอบว่าอยู่ระหว่างดำเนินการอนุมัติงบประมาณจัดซื้อ คาดว่าจะสามารถติดตั้งได้ภายในอีก 2 เดือน
ร.ต.อ.ประวัติ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ความเข้าใจของประชาชนส่วนใหญ่คิดว่าปัญหาสัญญาณไฟแดงต่างๆ นั้นจะต้องขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ความจริงแล้ว ทั้งในเรื่องงบประมาณ และการซ่อมบำรุงจะขึ้นอยู่กับแขวงการทาง ทางหลวงชนบท และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่รับผิดชอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เช่น กำหนดเวลาสัญญาณให้สอดคล้องต่อการจราจร หรือบังคับสัญญาณด้วยเจ้าหน้าที่แทนระบบอัตโนมัติ ในช่วงเวลาเร่งด่วน ส่วนการดูแลสภาพความพร้อมของตู้ควบคุมสัญญาณไฟ หรือซ่อมแซมในส่วนที่ได้รับความเสียหายก็จะขึ้นอยู่กับบริษัทที่ติดตั้ง หรือแขวงการทาง สำนักงานทางหลวงชนบท หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่รับผิดชอบโดยตรง เช่นกรณีนี้เจ้าหน้าที่ก็ต้องรอความพร้อมจากสำนักงานทางหลวงชนบทก่อนจะสามารถเปิดสัญญาณไฟได้ตามปกติ จึงขอให้ผู้ใช้เส้นทางดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
ด้านนายธีรพร จิระรัตนากร ผู้อำนวยการงานทางหลวงชนบทจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในการจัดซื้อเสาไฟจราจรนั้นรวมอยู่ในงบอำนวยความปลอดภัยทางแยก ทล.4022-ภก.4010 ซึ่งได้งบประมาณจากการแปรญัติในสภาผู้แทนราษฎร ประจำปี 2557 โดยการผลักดันของนายเรวัติ อารีรอบ อดี ส.ส.จังหวัดภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 5 ล้านบาท โดยงบอำนวยความปลอดภัยส่วนดังกล่าวจะรวมถึงการติดตั้งไฟส่องสว่าง การปรับปรุงผิวจราจร และการติดตั้งเสาสัญญาณไฟ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการยื่นซองประกวดราคา โดยจะเปิดให้ผู้ประกอบการยื่นในวันที่ 2 กันยายนที่จะถึงนี้ คาดว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จทั้ง 3 ส่วนในเดือนพฤศจิกายนนี้