ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงภูเก็ต ติดตามปัญหาบุกรุกที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ย้ำให้เจ้าหน้าที่เดินหน้าทำงานต่อเนื่อง พร้อมจัดกำลังสนับสนุนทุกด้าน ขณะที่ปัญหาความเห็นไม่ตรงกันระหว่างกรมที่ดิน และกรมอุทยานฯ ยืนยันไม่ใช่ไความขัดแย้ง แต่เป็นความเห็นต่าง ทุกฝ่ายพร้อมทำงานร่วมกัน ขณะที่หัวหน้าอุทยานสิรินาถฯ ที่ขอย้ายตัวเองหลังถูกข่มขู่ ล่าสุด ยืนยันขอทำหน้าที่ต่อ
เมื่อเวลา 12.10 น. วันนี้ (20 ก.ย.) ที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ภูเก็ต พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังเจ้าหน้าที่สังกัดกรมอุทยานฯ และกรมป่าไม้ฯ พร้อมติดตามความคืบหน้าปัญหากรณี นายกิติพัฒน์ ธาราภิบาล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ถูกข่มขู่จากผู้มีอิทธิพล หลังเข้าดำเนินการตรวจสอบเอกสารสิทธิ และจัดระเบียบชายหาด จนต้องขอย้ายตัวเอง โดยมี นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ นายธัญญา เนติธรรมกุล รองอธิบดีกรมอุทยานฯ นายสมัคร ดอนนาปี ผู้อำนวยการสำนักอุทยานฯ นายพล.ร.ต.ประยุธ ภู่เทียน เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 และนายไมตรี อินทุสูต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม
พล.อ.ดาว์พงษ์ ได้เข้าพูดคุยให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทั้งกรมอุทยานฯ และกรมป่าไม้ฯ พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มาเข้าร่วมภารกิจตรวจสอบเอกสารสิทธิ และยึดคืนผืนป่ากลับมาเป็นของชาติ ก่อนจะกำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นเอาใจใส่ และสอบถามปัญหาจากผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างต่อเนื่อง และรายงานตามสายบังคับบัญชามาถึงตน รวมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบที่ดินแปลงที่มีปัญหาที่ยังไม่ได้มีการก่อสร้างใดๆ ก่อน เพื่อไม่ให้นายทุนต้องมาลงทุนก่อสร้างเสียเงินเปล่าหากตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเป็นที่ดินของรัฐก็ต้องยึดคืน ส่วนแปลงที่กำลังก่อสร้างก็จะต้องแจ้งให้ทราบเพื่อให้เจ้าของหยุดการดำเนินการจนกว่าการตรวจสอบจะสิ้นสุด หลังจากนั้นจากนั้นใช้เวลาลาพูดคุยกับ นายกิตติพัฒน์ เป็นการส่วนตัวประมาณ 10 นาที เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าในการทวงคืนผืนป่า และกรณีการขอย้ายออกนอกพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น
พล.อ.ดาว์พงษ์ เปิดเผยภายหลังพูดคุยกับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ว่า จากการสอบถามถึงสาเหตุการขอย้ายนั้นทราบว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในลักษณะเหมือนการข่มขู่ แต่ไม่ได้เป็นการมาขู่ฆ่าโดยตรง เพียงแต่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าจะมีคนมาปองร้าย หลังจากนั้น กระแสข่าวก็เงียบไปซึ่งในส่วนนี้ตนได้คุยให้ความสบายใจต่อ นายกิตติพัฒน์ แล้วว่า จะมีการเพิ่มกำลังพลทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่ยังมีน้อย และบางส่วนยังขาดอยู่ พร้อมเพิ่มอุปกรณ์ป้องกันตัว และอุปกรณ์ปฏิบัติหน้าที่ พร้อมเสริมกำลังทหารเรือเข้ามาร่วมทำงาน และดูความปลอดภัย ซึ่งนายกิตติพัฒน์ เป็นคนมีฝีมือ ที่ผ่านมาได้ทวงคืนผืนป่ากลับมาจากกลุ่มนายทุนได้หลายแปลงแล้ว จึงต้องการให้ทำหน้าที่ต่อไป โดยนายกิตติพัฒน์ เองก็ยินดีที่จะอยู่ต่อ และจากการพูดคุยในวันนี้ยังได้รับทราบปัญหาเพิ่มเติม ทั้งเรื่องงบประมาณในการดำเนินการเพื่อยึดคืนผืนป่า ซึ่งจำเป็นที่จะต้องจัดหาเพิ่มเติม ตนก็รับจะดูแลดำเนินการให้ โดยในวันนี้รองอธิบดีกรมอุทยานฯ เดินทางลงมาด้วย ก็คาดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้
พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาของการบุกรุกป่ามีเหมือนกันทั่วประเทศ มีทั้ง ส.ค.บิน ส.ค.บวม ที่มีเอกสารสิทธิ และที่ไม่มีเอกสารสิทธิ ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ต เฉพาะป่าเขารวงเขาเมือง และเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ พบว่า มีการบุกรุกจำนวนมาก ในพื้นที่ป่าสงวนมีจำนวน 132 แปลง และพื้นที่อุทยานฯ 600 กว่าแปลง ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายได้เพียงครั้งเดียวคือ การจัดระเบียบชายหาด ที่เหลือยังไม่ได้ไปไล่ใคร คือต้องรอกระบวนการตรวจสอบ และเพิกถอนให้ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ไปเอง
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า กรมอุทยานฯ และกรมป่าไม้มีปัญหากับกรมที่ดินนั้น ขอแย้งว่าไม่ใช่ แต่เป็นความเห็นต่างกันของหน่วยงานราชการ เช่น อุทยานฯ ขอให้เพิกถอน แต่ที่ดินเห็นว่าที่ดินได้มาถูกต้อง จนทำให้มองว่าเป็นความขัดแย้ง ความจริงนั้นไม่ใช่ มันมีขั้นตอนหลังจากนี้ที่ต้องพิสูจน์กันต่อไปอีก โดยเฉพาะในยุคนี้กระทรวงทรัพย์ ได้รับความอนุเคราะห์จาก รมว.มหาดไทยเป็นพิเศษ ทำให้การประสานงานทั้ง 2 หน่วยงานมีความง่ายขึ้น และจะถูกต้องขึ้น ขอให้มั่นใจว่าจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ การดำเนินการก็แต่ต้องให้เหตุและผล รวมถึงกฎหมายเป็นหลัก สุดท้ายแล้วกฎหมายต้องเป็นกฎหมายตามนโยบายรัฐบาล
“ถ้าถามว่าที่ผ่านมานั้นเป็นความอ่อนแอของเจ้าหน้าที่ทั้งอุทยานฯ และป่าไม้หรือไม่ที่ปล่อยให้มีการบุกรุกนั้น ไม่ปฎิเสธ” เพราะจากที่ตรวจสอบดูบางรายย้อนไปนับสิบปี มีการเปลี่ยนมือไปแล้ว 3-4 ครั้ง แต่ก็เป็นปัญหาที่เราจะต้องแก้ แน่นอนว่าที่ผ่านมาก็มีการทุจริตของเจ้าหน้าที่เกิดขึ้น ทั้งในส่วนของที่ดิน อุทยานฯ และป่าไม้ฯ แต่คำสั่งโดยตรงของท่านนายกรัฐมนตีว่า “อดีตไหนไม่รู้แต่ต้องหามาถ้าเขากระทำผิด” และอีกอย่างจะบอกว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลยอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะเครื่องไม้เครื่องมือในการปฎิบัติหน้าที่ไม่มีความพร้อม จะให้ป้องกันป่าทั้งหมดไม่ให้มีการบุกรุกคงจะยาก ขณะนี้ที่ต้องทำเร่งด่วนคือ ในรายที่มีปัญหาแต่พื้นที่ยังไม่มีการพัฒนา เพราะเหมือนเป็นการป้องปรามไม่ให้ก่อสร้าง ก่อนที่จะเกิดปัญหาในภายหลัง
พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวฝากสื่อผ่านไปยังผู้ที่จะมาลงทุนซื้อขายที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ใดๆ ในจังหวัดภูเก็ตว่า ให้ตรวจสอบจากสำนักงานที่ดิน อุทยานสิรินาถ หรือหน่วยงานของป่าไม้ก่อนว่าที่ดินแปลงนั้นๆ อยู่ระหว่างของตรวจสอบของภาครัฐว่าครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการถูกหลอกจากผู้ที่หวังเพียงผลประโยชน์ ในส่วนที่มีกระแสข่าวว่ากรมอุทยานฯ และกรมป่าไม้มีปัญหาขัดแย้งกับกรมที่ดินนั้นตนยืนยันว่า ไม่ใช่อย่างนั้นเพราะที่ผ่านมาต่างก็ทำงานร่วมกันเพียงอาจมีความเห็นต่างกันในบางเรื่อง ซึ่งต่อจากนี้ก็จะทำงานร่วมกันง่ายขึ้นเพราะตนก็ได้รับการประสานจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในเรื่องการอำนวยความสะดวกทำงานร่วมกันของทั้ง 2 กระทรวง
ด้านนายกิตติพัฒน์ ธาราภิบาล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ กล่าวสั้นๆ ว่า หลังจากที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลงมาให้กำลังใจ ก็ตัดสินใจว่าจะไม่ขอย้ายออกจากพื้นที่ แต่พร้อมที่จะต่อสู่ร่วมกับชาวภูเก็ต เพื่อทวงคืนผืนป่ากลับมา ส่วนเรื่องการข่มขู่นั้นคิดว่ามันผ่านไปแล้วจะไม่ขอพูดถึงรายละเอียด ยืนยันขอทำหน้าที่ตรงนี้ต่อไป หลังได้พูดคุยกับทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว ซึ่งท่านรัฐมนตรีได้สร้างความมั่นใจ และพร้อมที่จะช่วยเหลือสนับสนุนในการทำงานอย่างเต็มที่ หลังจากนี้ก็จะเดินหน้าทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปฏิบัติการทวงคืนผืนป่ากลับมาเป็นสมบัติของชาติต่อไป
