ตรัง - ชาวบ้านเกาะลิบง จ.ตรัง ร้องขอความเป็นธรรม หลังบริษัทแห่งหนึ่งยื่นเอกสารสิทธิที่ดิน หรือ น.ส.3 กว่า 400 ไร่ โดยทับที่ดินทำกินของชาวบ้านกว่า 200 ไร่ ด้านชาวบ้านยืนยันมีหลักฐานการเสียภาษีถูกต้อง จึงรวมตัวออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ พร้อมคืนที่ดินโดยเร็ว
วันนี้ (19 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านสุไหงบาตู ม.8 ต.เกาะลิบง และชาวบ้านมดตะนอย ม.3 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ได้รวมตัวกันเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังจากบริษัทแห่งหนึ่งยื่นขอออกเอกสารสิทธิที่ดิน หรือ น.ส. 3 จำนวน 12 แปลง ในเนื้อที่กว่า 400 ไร่ แต่พื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งเป็นลักษณะทับที่ดินทำกินของชาวบ้าน จำนวนกว่า 30 ครอบครัว หรือกว่า 200 ไร่ ทั้งที่ได้อาศัยทำกินมานานกว่า 30 ปี และมีหลักฐานการเสียภาษีที่ดินประจำปีอย่างถูกต้อง
โดยกลุ่มชาวบ้านเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าตรวจสอบ เนื่องจากล่าสุด บริษัทดังกล่าวได้มีเข้าไปไถพื้นที่สวนยางพารา และป่าชายเลน ทำให้เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก เพราะกระทบต่อวิถีชีวิตชุมชน และเปลี่ยนทิศทางไหลของน้ำ จนสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก
ด้าน นายหมาดดะเหร๊ะ หวังดี อายุ 60 ปี ชาวบ้านรายหนึ่ง กล่าวว่า ที่ดินของตนมีอยู่ประมาณ 30 ไร่ และได้เสียภาษีให้แก่ อบต.เกาะลิบง มาโดยตลอด รวมทั้งพยายามขอออกเอกสารสิทธิมานานแล้ว แต่กลับดำเนินการไม่ได้ เนื่องจากหน่วยงานราชการอ้างว่าที่ดินอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง กระทั่งล่าสุด กลับมีบริษัทแห่งหนึ่งมายื่นขอออกเอกสารสิทธิที่ดินแปลงดังกล่าวได้ ทั้งที่อยู่ในเขตป่าสาธารณประโยชน์อย่างชัดเจน พวกตนจึงต้องรวมตัวกันเรียกร้องขอความเป็นธรรม และขอให้ลงมาตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน แต่หากยังไม่ได้รับความเป็นธรรม กลุ่มชาวบ้านก็อาจจะรวมตัวปิดทางเข้าออกหมู่บ้าน เพื่อมิให้นายทุนเข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่า และที่ดินทำกินของชาวบ้านเพิ่มเติมอีก
โดย นายอะเด็น พระคง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.8 บ.สุไหงบาตู กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นชาวบ้านในพื้นที่จะไม่ยินยอมอย่างเด็ดขาด เพราะเป็นการฮุบพื้นที่ป่าสาธารณประโยชน์ ซึ่งชาวบ้านใช้เป็นแหล่งทำมาหากินในการจับสัตว์น้ำทะเลมาใช้ในการยังชีพมายาวนานหลายชั่วอายุคน จึงอยากให้หน่วยงานราชการเร่งทำการตรวจสอบ และนำที่ดินทำกินของชาวบ้านกลับคืนมาโดยเร็ว
