xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านร้อง นอภ.กันตัง จี้สอบบริษัทยื่นขอเอกสารสิทธิทับที่ทำกินชาวบ้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตรัง - นายอำเภอกันตัง จ.ตรัง ถกปัญหาร้องเรียนบริษัทดังออกเอกสารสิทธิทับที่ดินชาวบ้านกว่า 200 ไร่ และรุกล้ำป่าชายเลนในตำบลเกาะลิบง ด้านฝ่ายบริษัทชิ่งไม่สงตัวแทนร่วมหาทางออกจึงยังไม่มีข้อสรุป โดยจะต้องรอพิกัดจากที่สำนักงานที่ดินมาตรวจสอบให้ชัดเจน

วันนี้ (22 ต.ค.) จากกรณีที่ชาวบ้านสุไหงบาตู หมู่ที่ 8 และชาวบ้านมดตะนอย หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ได้รวมตัวกันเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังจากบริษัทแห่งหนึ่งยื่นขอออกเอกสารสิทธิที่ดิน หรือ น.ส.3 ก. จำนวน 12 แปลง ในเนื้อที่กว่า 400 ไร่ แต่พื้นที่กว่าครึ่งหนึ่งเป็นลักษณะทับที่ดินของชาวบ้าน จำนวน 27 ครอบครัว ทั้งที่ได้อาศัยทำกินมานานกว่า 30 ปี และมีหลักฐานการเสียภาษีที่ดินประจำปีถูกต้อง อีกทั้งล่าสุด บริษัทดังกล่าวยังได้มีการเข้าไปไถพื้นที่ป่าชายเลน ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก ก่อเกิดผลกระทบต่อวิถีชีวิตชุมชน และเปลี่ยนทิศทางไหลของน้ำ จนสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านนั้น

ล่าสุด นายวิสิฐ ตั้งปอง นายอำเภอกันตัง ได้รับการประสานจากบุคคลซึ่งอ้างว่า เป็นตัวแทนของบริษัทดังกล่าว โดยขอให้มีการนัดคณะกรรมการประชุมพิจารณาผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับการยื่นขอออกเอกสารสิทธิที่ดิน หรือ น.ส.3 ก.ว่า ถูกต้องหรือไม่ แต่ที่สุดแล้วตัวแทนของบริษัทดังกล่าวกลับไม่ได้เดินทางมาร่วมการประชุมอย่างใด จึงส่งผลให้ยังไม่มีความคืบหน้าในการตรวจสอบข้อเท็จจริงมากนัก โดยเฉพาะเรื่องปัญหาการออกเอกสารสิทธิทับที่ดินทำกินของชาวบ้าน ในเนื้อที่ 243 ไร่ รวมทั้งบ้าน 7 หลังคาเรือน และหลุมฝังศพอีก 1 แห่ง ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป

สำหรับกรณีของการตรวจสอบว่า บริษัทดังกล่าวมีการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนเข้าไปหรือไม่ นายสุพัฒน์ บุษบงก์ไพฑูรย์ หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 40 (บางสัก ตรัง) รายงานต่อที่ประชุมว่า ที่ดิน น.ส.3 ก.จำนวน 12 แปลง เนื้อที่ 447 ไร่ ที่ทางบริษัทถือครองนั้น แบ่งเป็น 2 แปลงใหญ่ คือ แปลงที่ 1 จำนวน 270 ไร่ ซึ่งเมื่อนำพิกัดฉากที่สำนักงานที่ดินจังหวัดตรัง สาขาอำเภอกันตัง ส่งให้มาทำการตรวจสอบสามารถจำแนกได้ว่า เป็นพื้นที่ที่ทำประโยชน์แล้ว จำนวน 76 ไร่ เป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์ จำนวน 86 ไร่ โดยในส่วนนี้สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย หากพบว่ามีการบุกรุก เนื่องจากพื้นที่บางส่วนมีป่าชายเลนขึ้นอย่างหนาแน่น และมีน้ำทะเลหนุนขึ้นสูง

ส่วนที่ดิน น.ส.3 ก. แปลงที่ 2 ที่ทางบริษัทถือครอง จำนวน 177 ไร่นั้น ขณะนี้สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 40 (บางสัก ตรัง) ไม่สามารถตรวจสอบ หรือจำแนกได้ เนื่องจากยังไม่ได้รับพิกัดฉากจากสำนักงานที่ดินจังหวัดตรัง สาขาอำเภอกันตัง ซึ่งต้องรอการส่งเอกสารมาเสียก่อน ถึงจะได้ดำเนินการตามขั้นตอน และสรุปว่าที่ดินแปลงนี้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนหรือไม่ อย่างไร
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น