ตรัง - ชาวบ้าน 3 ตำบล 2 อำเภอ ในพื้นที่ จ.ตรัง ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ซึ่งเรื้อรังนานนับ 10 ปี ไร้หน่วยงานเหลียวแล ล่าสุด ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก น้ำไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร วอนหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน ด้านกำนันเผยกำลังหาแนวทางลดระดับฝายช่วยการระบายน้ำให้สะดวกขึ้น
วันนี้ (28 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวจังหวัดตรังรายงานว่า ขณะนี้ทั้งชาวบ้าน และเจ้าของพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะสวนยางพารา และปาล์มน้ำมันจำนวนกว่า 300 ไร่ ในพื้นที่ 3 ตำบล กับ 2 อำเภอ คือ ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมืองตรัง รวมทั้ง ต.นาเมืองเพชร และ ต.โคกยาง อ.กันตัง กำลังประสบปัญหาความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรระดับสูงประมาณ 1.50 เมตร
โดย นายชัยชาติ ช่องประเสริฐ และนายภูชิสส์ ลีละสกุลมีเกียรติ 2 ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พร้อมกล่าวว่า ปัญหานี้เรื้อรังมานานนับสิบปีแล้ว แต่ไม่ได้รับการแก้ไข หรือเหลียวแลจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีการยื่นหนังสือให้แก่ผู้บริหารท้องถิ่น แต่เรื่องก็เงียบหายไป ทำให้ต้นยางพารา และต้นปาล์มน้ำมันอายุประมาณ 1 เศษ ที่ปลูกเอาไว้ถูกน้ำท่วมขังหลายวันจนตายทั้งหมด
ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณทั้ง 3 ตำบลดังกล่าว เป็นพื้นที่ลุ่มรับน้ำ และมีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ประกอบกับประตูระบายน้ำ ฝายกั้นน้ำบ้านทำเล ม.4 ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมืองตรัง เกิดความเสียหาย ทำให้ไม่สามารถเปิดระบายน้ำเมื่อมีฝนตกหนักได้ น้ำจึงท่วมขังอย่างรวดเร็ว และกินระยะเวลานานหลายวัน จึงขอวิงวอนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งแก้ปัญหานี้โดยด่วน เพราะสร้างผลกระทบ และความเดือดร้อนอย่างหนัก
ด้าน นายอำนวย จันทรัฐ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากการลงไปสำรวจฝ่ายกั้นน้ำบ้านทำเล พร้อมด้วย นายชิต ท่าจีน กำนันตำบลนาโต๊ะหมิง ไม่พบการพังเสียหาย มีเพียงน้ำที่กักเก็บในฝายมีปริมาณจำนวนมากจึงทำให้ล้นฝายออกไป ซึ่งอาจจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านบ้าง โดยกำลังหาแนวทางเพื่อลดระดับของฝายให้ลดลงประมาณ 1 เมตร เพื่อช่วยในการระบายน้ำให้สะดวกยิ่งขึ้น
