ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กรมที่ดิน ยกเลิกคำขอออกโฉนดในที่อุทยานสิรินาถ จ.ภูเก็ต แล้ว 5 แปลง เนื้อที่ 445 ไร่ หลังตรวจสอบพบ ส.ค.1 บินข้ามเขารวกเขาเมืองจากฝั่งตะวันออก มาออกโฉนดฝั่งตะวันตก พร้อมตรวจสอบโฉนดอีก 12 ราย พบถูกต้อง 6 ราย เนื้อที่ 87 ไร่ และส่อเค้าผิดที่ต้องรอตรวจสอบในเชิงลึกอีก 6 ราย เนื้อที่กว่า 552 ไร่ เรียกร้องให้กรมป่าไม้ และกรมอุทยานฯ ส่งข้อมูลการจ่ายเงินชดเชยให้ผู้ครอบครองที่ดินก่อนประกาศเป็นป่า และอุทยานฯ เพื่อใช้ในการพิจารณาตรวจสอบต่อไป
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (8 ส.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายธรรมศักดิ์ ชนะ รองอธิบดีกรมที่ดิน พร้อมด้วยนายสมยศ เล่าชู เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต นายสิทธิชัย พรหมชาติ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ส่วนแยกถลาง แถลงข่าวความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบการออกโฉนดที่ดินบริเวณอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
นายธรรมศักดิ์ กล่าวว่า ตามที่กรมที่ดิน ได้มอบหมายให้ตน พร้อมด้วยคณะกรรมการ และคณะทำงานร่วมตรวจสอบรังวัดการออกโฉนดที่ดินบริเวณอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จำนวน 372 แปลง เนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ ที่ได้มีการออกโฉนดไปแล้วนั้น โดยจะต้องตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค.เป็นต้นมา ผลการตรวจสอบจาก ส.ค.1 ทะเบียนการครอบครองและสารบบที่ดินที่เกี่ยวข้องในเบื้องต้น พบว่า มีการออกโฉนดที่ดินไปโดยชอบ และมิชอบด้วยระเบียบกฎหมาย ดังนี้
การตรวจสอบจากคำขอรังวัดออกโฉนดที่ดิน (ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 5 แปลง เนื้อทีประมาณ 445 ไร่ พบว่าหลักฐาน ส.ค.1 ที่นำมาออกโฉนดที่ดินนั้น ตำแหน่งที่ตั้งของ ส.ค 1 อยู่ในตำแหน่งคนละฝั่งเขา แต่อยู่ในหมู่ 2 ตำบลสาคูเหมือนกัน โดย ส.ค.1 ที่นำมาขอออกนั้นอยู่ทางฝั่งตะวันออกของป่าเขารวกเขาเมือง แต่โฉนดที่ขอออกกลับอยู่ทางฝั่งตะวันตกของป่าดังกล่าว และมีการจัดทำแบบแจงการครอบครองที่ดินขึ้นใหม่ โดยแก้ไขเนื้อที่ ระยะ และการจดแจ้งข้างเคียงให้ตรงกับสภาพที่ดินที่ขอนำมาออกโฉนด โดยจัดทำให้ปรากฎข้างเคียงติดต่อกับที่ดินผืนใหญ่ และนำไปเป็นหลักฐานในการขอออกโฉนดที่ดินบริเวณหาดสาคู ซึ่งอยู่คนละฝั่งเขากับตำแหน่ง ส.ค.1 แต่อยู่ในหมู่เดียวกัน ทางสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต สาขาถลาง ได้มีคำสั่งทางปกครอง ยกเลิกคำขอออกโฉนดที่ดินตามหลักฐาน ส.ค.1 ดังกล่าวแล้ว ซึ่งในกรณีดังกล่าวนี้ ผู้ยื่นขอสามารถอุทรณ์คำสั่งให้ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ซึ่งหลังจากที่ทางกรมที่ดินยกเลิกคำขอแล้ว เป็นหน้าที่ของกรมอุทยานฯ ที่จะต้องเข้าไปดำเนินการต่อผู้ที่ครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าวต่อไป
นายธรรมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จากการตรวจสอบการออกโฉนดที่ดิน จำนวน 12 ราย 53 แปลง บริเวณริมฝั่งทะเลในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ปรากฎว่า มีการออกโฉนดที่ดินเป็นไปตามระเบียบกฎหมายจริง และยังไม่พบเหตุแห่งการเพิกถอน หรือแก้ไข ตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน จำนวน 6 ราย เนื้อที่ 87 ไร่ ส่วนอีกจำนวน 6 ราย เนื้อที่ประมาณ 556 ไร่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลในเชิงลึกเพิ่มเติมว่า มีเหตุแห่งการเพิกถอนหรือแก้ไขตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปได้ในเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม หากมีการตรวจสอบพบว่า การออกโฉนดที่ดินดังกล่าวมีเหตุแห่งการเพิกถอน หรือแก้ไขตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน กรมที่ดิน ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนและขบวนการเพิกถอนหรือแก้ไขต่อไป ซึ่งในส่วนนี้ผู้มีส่วนได้เสียสามารถอุทรณ์คำสั่งได้ตามพระราชบัญญัติวิธีราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ได้เช่นกัน
นายธรรมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ทางกรมอุทยานฯ ออกมาให้ข่าวต่อสื่อมวลชนว่า กรมที่ดิน ไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบเอกสารการออกโฉนดที่ดินนั้น ในข้อเท็จจริงแล้ว กรมที่ดิน และสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต สาขาถลาง ได้ให้ความร่วมมือ และเคยร่วมกันตรวจสอบเอกสารต่างๆ สำหรับสารบบ และระวางแผนที่ ก็ได้ถ่ายไปจากสำนักงานที่ดินทั้งสิ้น แต่ในทางกลับกัน กรมที่ดิน ได้มีหนังสือสอบถามอธิบดีกรมป่าไม้ และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2557 เพื่อขอทราบหลักฐานเกี่ยวกับการจ่ายเงินค่าทดแทนให้แก่ผู้ที่ครอบครองดินก่อนที่จะประกาศเป็นอุทยานฯ แต่ทางกรมที่ดิน ยังไม่ได้รับเอกสารที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานทั้งสองแต่อย่างใด เพราะเอกสารหลักฐานดังกล่าวทางกรมที่ดินจะสามารถนำมาใช้ในการพิจารณาออกโฉนดควบคู่กันไป
“การออกโฉนดที่ดินของกรมที่ดิน กับกรมอุทยานฯ ยังเข้าใจไม่ตรงกัน ทางกรมอุทยานฯ มองว่าพื้นที่ที่อยู่ในอุทยานฯ ทั้งหมดไม่สามารถออกโฉนดได้ แต่ทางกรมที่ดินมองว่าหากมีการครอบครองมาก่อนที่จะประกาศเป็นเขตป่า หรืออุทยานฯ ก็สามารถที่จะออกเอกสารสิทธิที่ดินได้” รองอธิบดีกรมที่ดิน กล่าวในที่สุด