xs
xsm
sm
md
lg

เผยผลตรวจสอบการออกโฉนดอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ภูเก็ต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า
“กรมที่ดิน” เผยความคืบหน้าการตรวจสอบการออกโฉนดที่ดินบริเวณอุทยานแห่งชาติสิรินาถ แจงผลตรวจสอบ ส.ค.1 พบทะเบียนการครอบครองและสารบบที่ดินเกี่ยวข้อง 23 ราย รวม 110 แปลง พบหลักฐาน ส.ค.1 ที่นำมาออกโฉนดที่ดิน ซึ่งเชื่อได้ว่า ตำแหน่ง ส.ค.1 ที่แท้จริงอยู่ในตำแหน่งคนละฝั่งเขาของหมู่บ้านเดียวกัน คาดมีการจัดทำแบบแจ้งการครอบครองที่ดินขึ้นใหม่ โดยแก้ไขเนื้อที่ ระยะ และการจดแจ้งข้างเคียงให้ตรงกับสภาพที่ดินที่นำมาขอออกโฉนดที่ดิน

นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า ตามที่กรมที่ดินได้มอบหมายให้นายธรรมศักดิ์ ชนะ รองอธิบดีกรมที่ดิน พร้อมด้วยคณะกรรมการและคณะทำงาน ร่วมกันตรวจสอบการรังวัดออกโฉนดที่ดินบริเวณอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต นั้น ล่าสุด ผลการตรวจสอบจาก ส.ค.1 ทะเบียนการครอบครองและสารบบที่ดินที่เกี่ยวข้องจำนวน 23 ราย รวม 110 แปลง พบว่า

1.การตรวจสอบจากคำขอรังวัดออกโฉนดที่ดินที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ จำนวน 7 แปลง เนื้อที่ตาม ส.ค.1 ซึ่งมีจำนวนพื้นที่รวม 578-2-37 ไร่ ประกอบด้วย 1.รายของ น.ส.อโนมา ฝางเสน ส.ค.1 เลขที่ 23 2.รายของนายนคร วงษ์สีทอง ส.ค.1 เลขที่ 32 3.รายของนายจันทร์ พงษ์พา ส.ค.1 เลขที่ 110 4.รายของนายประภาส แซ่อ๋อง ส.ค.1 เลขที่ 44 5.รายของนายประภาส แซ่อ๋อง ส.ค.1 เลขที่ 45 6.รายของนายณรงศักดิ์ กรุณา ส.ค.1 เลขที่ 76 และ 7.รายของนายนิคม บำรุงสิน ส.ค.1 เลขที่ 45 พบว่า หลักฐาน ส.ค.1 ที่นำมาออกโฉนดที่ดิน เชื่อว่าตำแหน่ง ส.ค.1 ที่แท้จริงอยู่ในตำแหน่งคนละฝั่งเขา แต่อยู่ในหมู่ที่ 2 (หมู่เดียวกัน) และมีการจัดทำแบบแจ้งการครอบครองที่ดินขึ้นใหม่ โดยแก้ไขเนื้อที่ ระยะ และการจดแจ้งข้างเคียงให้ตรงกับสภาพที่ดินที่นำมาขอออกโฉนดที่ดิน โดยจัดทำให้ปรากฏข้างเคียงติดต่อกันเป็นที่ดินผืนใหญ่ และนำไปเป็นหลักฐานในการขอออกโฉนดที่ดินบริเวณหาดสาคู ซึ่งอยู่คนละฝั่งเขากับตำแหน่ง ส.ค.1 แต่อยู่ในหมู่เดียวกัน ซึ่งสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต สาขาถลาง ได้มีคำสั่งทางปกครองยกเลิกคำขอออกโฉนดที่ดินตามหลักฐาน ส.ค.1 ดังกล่าวแล้ว ในกรณีนี้ ผู้ยื่นคำขอสามารถอุทธรณ์คำสั่งได้ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539

2.จากการตรวจสอบเรื่องราวการออกโฉนดบริเวณอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จำนวน 16 ราย จำนวน 103 แปลง เนื้อที่รวม 890-1-90.9 ไร่ พบว่า จำนวน 8 ราย ซึ่งมีจำนวน 52 แปลง เนื้อที่รวม 268-1-0 ไร่ ได้แก่ 1.รายของบริษัท ภูเก็ต เพนนินซูล่า สปา แอนด์ รีสอร์ท จำกัด 2.รายของบริษัทเซ็นทรัล แอนด์ ซิตี้ ดีเวลล็อบเม้น จำกัด 3.รายของบริษัท แลนสเตท จำกัด 4.รายของนางสุชาดา สังข์สุวรรณ 5.รายของบริษัท พาวิลเลี่ยน บีช รีสอร์ท จำกัด 6.รายของโครงการลาคลอรีนฯ 7.รายของบริษัท ลายันภูเก็ต และ 8.รายของ โครงการบ้านฝรั่ง เป็นการออกโฉนดจากหลักฐานเดิม (ส.ค.1, น.ส.3, หรือ น.ส.3.ก) มีกระบวนการถูกต้อง และมีการตรวจสอบจากหน่วยงานด้านป่าไม้ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เห็นว่าเป็นการออกโฉนดโดยชอบ ในชั้นนี้จึงยังไม่มี เหตุแห่งการเพิกถอนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน

นอกจากนั้น ยังพบว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวอีกจำนวน 3 ราย จำนวน 21 แปลง เนื้อที่รวม 185-1-84.1 ไร่ ได้แก่ 1.บริษัท อันดามัน ไพรเวชบีช จำกัด 2.บริษัท สุรีสัมฤทธิ์ จำกัด และ 3.โครงการอิสทาน่า ได้ตรวจสอบพบว่า หลักฐานที่นำมาออกโฉนดยังไม่ชัดเจน คณะกรรมการมีความเห็นว่า ให้ส่งกรมที่ดินเพื่อให้มีการอ่านแปลภาพถ่ายก่อน

สำหรับที่ดินอีกจำนวน 5 ราย จำนวน 30 แปลง เนื้อที่รวม 463-3-06.8 ไร่ ได้แก่ 1.รายของ บริษัท ทรีดอลฟินซ์ จำกัด (บางส่วน) 2.รายของ โรงแรมพลูแมนภูเก็ต อคาเดีย (บางส่วน) 3.รายของ บริษัท ไนทอน บีช จำกัด (บางส่วน) 4.รายของ นายสุรชัย เหล่าสายเชื้อ นางชมชนก สุธัมมา 5.รายของ บริษัท พินนาเคิล เคป จำกัด เห็นว่าเป็นการออกโฉนดโดยไม่ชอบด้วยระเบียบกฎหมาย ไม่ได้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการในการออกโฉนด บางแปลงได้มีการนำ ส.ค.1 ของที่ดินแปลงอื่นมาเป็นหลักฐานในการออกโฉนด ซึ่งจะต้องส่งกรมที่ดินดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีนี้ผู้มีส่วนได้เสีย สามารถอุทธรณ์คำสั่งได้ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 เช่นกัน

อนึ่ง หากที่ดินบางแปลงมีการตรวจพบในภายหลัง หรือมีหลักฐานเพิ่มเติมว่าเป็นการออกโฉนดโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรมที่ดินก็จะดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินเพิ่มเติมต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น