ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อธิบดีกรมที่ดิน เผยผลตรวจการออกเอกสารสิทธิที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ภูเก็ต พบหลายโรงแรมหรูรุกที่อุทยาน เบื้องต้นมี 30 แปลง ออกโฉนดโดยไม่ชอบด้วยระเบียบกฎหมาย รวมทั้งไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการออกโฉนด ขณะที่บางแปลงใช้ ส.ค.1 ของที่ดินแปลงอื่นมาใช้เป็นหลักฐานในการขอออก
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า อธิบดีกรมที่ดิน แถลงถึงความคืบหน้ากรณีที่กรมที่ดินได้มอบหมายให้นายธรรมศักดิ์ ชนะ รองอธิบดีกรมที่ดิน พร้อมด้วยคณะทำงาน ร่วมตรวจสอบการรังวัดออกโฉนดที่ดินบริเวณอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา เป็นระยะเวลา 60 วัน ซึ่งขณะนี้ทางคณะทำงานได้ดำเนินการตรวจสอบมาแล้วระยะหนึ่ง ปรากฏผลการตรวจสอบจาก ส.ค.1 ทะเบียนการครอบครอง และสารบบที่ดินที่เกี่ยวข้อง จำนวน 23 ราย รวม 110 แปลง ในเบื้องต้นพบว่าเป็นการออกโฉนดที่ดิน โดยชอบ และไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยแบ่งผลการปฏิบัติงานดังนี้ คือ การตรวจสอบจากคำขอรังวัดออกโฉนดที่ดิน ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ จำนวน 7 แปลง เนื้อที่ตาม ส.ค.1 จำนวน 578-2-37 ไร่ ได้แก่ รายอโนมา ฝางเสน ส.ค.1 เลขที่ 23 รายนายนคร วงษ์สีทอง ส.ค.1 เลขที่ 32 รายนายจันทร์ พงษ์พา ส.ค.1 เลขที่ 110 รายนายประภาส แซ่อ๋อง ส.ค.1 เลขที่ 44 รายนายประภาส แซ่อ๋อง ส.ค.1 เลขที่ 456 รายนายณรงค์ กรุณา ส.ค.1 เลขที่ 76 และรายนายนิคม บำรุงสิน ส.ค. เลขที่ 45 จากการตรวจสอบหลักฐาน ส.ค. 1 ที่นำมาขอออกโฉนดที่ดิน เชื่อว่า ตำแหน่งไม่ตรงกัน โดยตำแหน่ง ส.ค.1 ที่แท้จริงอยู่คนละฝั่งเขา แต่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน และมีการจัดทำแบบแจ้งการครอบครองที่ดินขึ้นใหม่ โดยแก้ไขเนื้อที่ ระยะ และการจดแจ้งข้างเคียงให้ตรงกับสภาพที่ดินที่นำมาขอออกโฉนดที่ดิน โดยจัดทำให้ปรากฏข้างเคียงติดต่อกันเป็นที่ดินผืนใหญ่ และนำไปเป็นหลักฐานในการขอออกโฉนดที่บริเวณหาดสาคู ซึ่งในส่วนของ 7 รายดังกล่าวทางสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต สาขาถลาง ได้มีคำสั่งทางปกครอง ยกเลิกคำขอออกโฉนดที่ตามหลักฐาน ส.ค.1 ดังกล่าวแล้ว สำหรับกรณีนี้ผู้ยื่นคำขอสามารถอุทธรณ์คำสั่งได้ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง พ.ศ.2537
การตรวจสอบการออกโฉนดที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จำนวน 16 ราย 1.03 แปลง เนื้อที่ 890 - 1 - 90.9 ไร่ ในส่วนนี้แบ่งผลการปฏิบัติงานออกเป็น 3 ส่วน ซึ่งมีทั้งที่ออกโฉนดโดยชอบ และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ประกอบด้วย มี 8 รายแรก จำนวน 52 แปลง เนื้อที่รวม 268-1-10 ไร่ ได้แก่ 1.บริษัทภูเก็ต เพนนินซูล่า สปา แอนด์ รีสอร์ท จำกัด 2.บริษัทเซ็นทรัล แอนด์ ซิตี้ ดีเวลล็อบเม้น จำกัด 3.บริษัท แลนสเตท จำกัด 4.นางสุชาดา สังข์สุวรรณ 5.บริษัทพาวิลเลี่ยน บีช รีสอร์ท จำกัด 6.โครงการลาคลอรีนฯ 7.บริษัทลายัน ภูเก็ต และ 8.โครงการบ้านฝรั่ง จากการตรวจสอบพบว่า เป็นการออกโฉนดจากหลักฐานเดิม คือ ส.ค.1 น.ส.3 หรือ น.ส.3.ก. มีกระบวนการถูกต้องมีการตรวจสอบจากหน่วยงานด้านป่าไม้ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เห็นว่าเป็นการออกโฉนดโดยชอบ ในชั้นนี้จึงยังไม่มีเหตุแห่งการเพิกถอนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎมายที่ดิน
นอกจากนั้น ในการตรวจสอบพบว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวอีกจำนวน 3 ราย จำนวน 21 แปลง เนื้อที่รวม 185-1-84.1ไร่ ได้แก่ รายของบริษัท อันดามัน ไพรเวชบีช จำกัด บริษัท สุรีสัมฤทธิ์ จำกัด และโครงการอิสทาน่า ได้ตรวจสอบพบว่า หลักฐานที่นำมาออกโฉนดยังไม่ชัดเจน คณะกรรมการมีความเห็นว่าให้ส่งกรมที่ดินเพื่อให้มีการอ่านแปลภาพถ่ายก่อน ทั้งนี้ หากที่ดินบางแปลงมีการตรวจสอบพบในภายหลัง หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหลักฐานเพิ่มเติมว่าเป็นการออกโฉนดโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรมที่ดินก็จะดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมกาสอบสวนตามมาตรา 61 ประมวลกฎหมายที่ดินเพิ่มเติมต่อไป
สำหรับที่ดินอีกจำนวน 5 ราย จำนวน 30 แปลง เนื้อที่รวม 463-3-06.8 ไร่ ได้แก่ 1.บริษัททรีดอลฟินซ์ จำกัด บางส่วน 2.โรงแรมพูลแมน ภูเก็ต อคาเดีย บางส่วน 3.บริษัทในทอน บีช จำกัด บางส่วน 4.นายสุรชัย เหล่าสายเชื้อ นางชมชนก สุธัมมา และ 5.บริษัท พินนาเคิล เคป จำกัด คณะทำงานมีความเห็นว่าเป็นการออกโฉนดโดยไม่ชอบด้วยระเบียบกฎหมาย ไม่ได้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการในการออกโฉนด บางแปลงได้มีการนำ ส.ค.1 ของที่ดินแปลงอื่นมาเป็นหลักฐานในการออกโฉนด ซึ่งต้องส่งให้กรมที่ดิน ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีนี้ผู้มีส่วนได้เสียสามารถอุทธรณ์คำสั่งได้ ตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับกระบวนการเพิกถอนที่ดินทั้ง 5 รายนั้น จะมีการตั้งคณะกรรมการฯ ตามมาตรา 61 ขึ้นมา และดำเนินการตรวจสอบภายในระยะเวลา 120 วัน ถ้าไม่มีการอุทธรณ์คาดว่าจะสามารถเพิกถอนได้ แต่ถ้ามีการอุทธรณ์ก็จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า อธิบดีกรมที่ดิน แถลงถึงความคืบหน้ากรณีที่กรมที่ดินได้มอบหมายให้นายธรรมศักดิ์ ชนะ รองอธิบดีกรมที่ดิน พร้อมด้วยคณะทำงาน ร่วมตรวจสอบการรังวัดออกโฉนดที่ดินบริเวณอุทยานแห่งชาติสิรินาถ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. ที่ผ่านมา เป็นระยะเวลา 60 วัน ซึ่งขณะนี้ทางคณะทำงานได้ดำเนินการตรวจสอบมาแล้วระยะหนึ่ง ปรากฏผลการตรวจสอบจาก ส.ค.1 ทะเบียนการครอบครอง และสารบบที่ดินที่เกี่ยวข้อง จำนวน 23 ราย รวม 110 แปลง ในเบื้องต้นพบว่าเป็นการออกโฉนดที่ดิน โดยชอบ และไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยแบ่งผลการปฏิบัติงานดังนี้ คือ การตรวจสอบจากคำขอรังวัดออกโฉนดที่ดิน ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ จำนวน 7 แปลง เนื้อที่ตาม ส.ค.1 จำนวน 578-2-37 ไร่ ได้แก่ รายอโนมา ฝางเสน ส.ค.1 เลขที่ 23 รายนายนคร วงษ์สีทอง ส.ค.1 เลขที่ 32 รายนายจันทร์ พงษ์พา ส.ค.1 เลขที่ 110 รายนายประภาส แซ่อ๋อง ส.ค.1 เลขที่ 44 รายนายประภาส แซ่อ๋อง ส.ค.1 เลขที่ 456 รายนายณรงค์ กรุณา ส.ค.1 เลขที่ 76 และรายนายนิคม บำรุงสิน ส.ค. เลขที่ 45 จากการตรวจสอบหลักฐาน ส.ค. 1 ที่นำมาขอออกโฉนดที่ดิน เชื่อว่า ตำแหน่งไม่ตรงกัน โดยตำแหน่ง ส.ค.1 ที่แท้จริงอยู่คนละฝั่งเขา แต่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน และมีการจัดทำแบบแจ้งการครอบครองที่ดินขึ้นใหม่ โดยแก้ไขเนื้อที่ ระยะ และการจดแจ้งข้างเคียงให้ตรงกับสภาพที่ดินที่นำมาขอออกโฉนดที่ดิน โดยจัดทำให้ปรากฏข้างเคียงติดต่อกันเป็นที่ดินผืนใหญ่ และนำไปเป็นหลักฐานในการขอออกโฉนดที่บริเวณหาดสาคู ซึ่งในส่วนของ 7 รายดังกล่าวทางสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต สาขาถลาง ได้มีคำสั่งทางปกครอง ยกเลิกคำขอออกโฉนดที่ตามหลักฐาน ส.ค.1 ดังกล่าวแล้ว สำหรับกรณีนี้ผู้ยื่นคำขอสามารถอุทธรณ์คำสั่งได้ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง พ.ศ.2537
การตรวจสอบการออกโฉนดที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จำนวน 16 ราย 1.03 แปลง เนื้อที่ 890 - 1 - 90.9 ไร่ ในส่วนนี้แบ่งผลการปฏิบัติงานออกเป็น 3 ส่วน ซึ่งมีทั้งที่ออกโฉนดโดยชอบ และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ประกอบด้วย มี 8 รายแรก จำนวน 52 แปลง เนื้อที่รวม 268-1-10 ไร่ ได้แก่ 1.บริษัทภูเก็ต เพนนินซูล่า สปา แอนด์ รีสอร์ท จำกัด 2.บริษัทเซ็นทรัล แอนด์ ซิตี้ ดีเวลล็อบเม้น จำกัด 3.บริษัท แลนสเตท จำกัด 4.นางสุชาดา สังข์สุวรรณ 5.บริษัทพาวิลเลี่ยน บีช รีสอร์ท จำกัด 6.โครงการลาคลอรีนฯ 7.บริษัทลายัน ภูเก็ต และ 8.โครงการบ้านฝรั่ง จากการตรวจสอบพบว่า เป็นการออกโฉนดจากหลักฐานเดิม คือ ส.ค.1 น.ส.3 หรือ น.ส.3.ก. มีกระบวนการถูกต้องมีการตรวจสอบจากหน่วยงานด้านป่าไม้ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เห็นว่าเป็นการออกโฉนดโดยชอบ ในชั้นนี้จึงยังไม่มีเหตุแห่งการเพิกถอนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎมายที่ดิน
นอกจากนั้น ในการตรวจสอบพบว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวอีกจำนวน 3 ราย จำนวน 21 แปลง เนื้อที่รวม 185-1-84.1ไร่ ได้แก่ รายของบริษัท อันดามัน ไพรเวชบีช จำกัด บริษัท สุรีสัมฤทธิ์ จำกัด และโครงการอิสทาน่า ได้ตรวจสอบพบว่า หลักฐานที่นำมาออกโฉนดยังไม่ชัดเจน คณะกรรมการมีความเห็นว่าให้ส่งกรมที่ดินเพื่อให้มีการอ่านแปลภาพถ่ายก่อน ทั้งนี้ หากที่ดินบางแปลงมีการตรวจสอบพบในภายหลัง หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหลักฐานเพิ่มเติมว่าเป็นการออกโฉนดโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรมที่ดินก็จะดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมกาสอบสวนตามมาตรา 61 ประมวลกฎหมายที่ดินเพิ่มเติมต่อไป
สำหรับที่ดินอีกจำนวน 5 ราย จำนวน 30 แปลง เนื้อที่รวม 463-3-06.8 ไร่ ได้แก่ 1.บริษัททรีดอลฟินซ์ จำกัด บางส่วน 2.โรงแรมพูลแมน ภูเก็ต อคาเดีย บางส่วน 3.บริษัทในทอน บีช จำกัด บางส่วน 4.นายสุรชัย เหล่าสายเชื้อ นางชมชนก สุธัมมา และ 5.บริษัท พินนาเคิล เคป จำกัด คณะทำงานมีความเห็นว่าเป็นการออกโฉนดโดยไม่ชอบด้วยระเบียบกฎหมาย ไม่ได้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการในการออกโฉนด บางแปลงได้มีการนำ ส.ค.1 ของที่ดินแปลงอื่นมาเป็นหลักฐานในการออกโฉนด ซึ่งต้องส่งให้กรมที่ดิน ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีนี้ผู้มีส่วนได้เสียสามารถอุทธรณ์คำสั่งได้ ตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองเช่นกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับกระบวนการเพิกถอนที่ดินทั้ง 5 รายนั้น จะมีการตั้งคณะกรรมการฯ ตามมาตรา 61 ขึ้นมา และดำเนินการตรวจสอบภายในระยะเวลา 120 วัน ถ้าไม่มีการอุทธรณ์คาดว่าจะสามารถเพิกถอนได้ แต่ถ้ามีการอุทธรณ์ก็จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด