xs
xsm
sm
md
lg

พบแล้ว “ยุพิน เส็งเมือง” สาวไทยใจดีช่วยนักท่องเที่ยวจากสึนามิถล่มที่ภูเก็ต (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - พบแล้วหญิงชาวไทยใจดี “ยุพิน เส็งเมือง” ที่ให้ความช่วยเหลือครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษจากเหตุการณ์สึนามิถล่ม จ.ภูเก็ต พบเปิดร้านขายอาหาร และขายของชำอยู่ที่เขาไตรตรัง ต.ป่าตอง จ.ภูเก็ต เผยรู้สึกดีที่คนที่เคยให้ความช่วยเหลือถามถึง และอยากที่จะพบ เพราะในการช่วยเหลือครั้งนั้นไม่ได้หวังผลอะไร แต่เป็นการช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อนให้ได้รับการบรรเทาทุกข์เท่านั้น



จากกรณีมีการโพสต์ข้อความ 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่ออกตามหา 2 คนไทย ที่เคยให้ความช่วยเหลือ และที่พักพิงในวันที่เกิดเหตุสึนามิถล่มในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และ 6 จังหวัดอันดามันเมื่อปี 2547 ซึ่งทราบเพียงแค่ชี่อ คือ “คุณยุพิน” และ “คุณพิเชษ” เพื่อขอบคุณ และต้องการเดินทางมาเยี่ยม ล่าสุด วันนี้ (15 ก.ค.) ผู้สื่อข่าว “ASTVผู้จัดการ” ได้ออกติดตาม และตรวจสอบ จนทราบว่า “คุณยุพิน” นั้น มีชื่อจริงว่า นางยุพิน เส็งเมือง ชาวจังหวัดนครสวรรค์ แต่เดินทางมาประกอบอาชีพอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตมาแล้วประมาณ 20 ปี และขณะนี้ได้เปิดร้านขายข้าวแกงชื่อร้าน “แม่ตะวัน” และขายของชำอยู่ที่บริเวณเขาไตรตรัง ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เลยร้านบ้านกำนัน ไปประมาณ 50 เมตร ซึ่งร้านติดถนนใหญ่ ลักษณะคล้ายเพิง หลังคามุงด้วยจาก บริเวณด้านหน้าของร้านแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ร้านขายข้าวแกง ร้านขายผลไม้ และร้านขายส้มตำ ส่วนในร้านก็เป็นส่วนของการทำกับข้าว และจำหน่ายของชำ

ขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงร้านขายข้าวแกง เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. พบว่า “นางยุพิน” ไม่ได้อยู่ที่ร้าน และจากการติดต่อสอบถามทางโทรศัพท์ ทราบว่า “นางยุพิน” ได้เดินทางไปทำธุระที่เขาหลัก จ.พังงา กำลังเดินทางกลับ แต่อาจจะกลับมาถึงร้านช้าเพราะจะต้องแวะซื้อตับจากเพื่อนำมาแซมหลังคาร้านที่ถูกลมพัดได้รับความเสียหาย รวมทั้งจะต้องแวะรับลูกที่โรงเรียนด้วย จนกระทั่งเวลา 17.00 น. “นางยุพิน” ได้เดินทางกลับมาถึงร้านพร้อมด้วยของที่ซื้อมาอีกจำนวนมาก ด้วยสภาพที่อิดโรย เพราะเหนื่อยต่อการเดินทาง และการตอบคำถามสื่อมวลชนที่พยายามโทรศัพท์เข้าไปติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์ตลอดเวลา

หลังจากเดินทางมาถึงร้าน นางยุพิน ก็ได้เปิดเผยถึงนาทีการช่วยเหลือครอบครัวชาวอังกฤษ ที่กำลังออกตามหาตัวเองว่า ในช่วงที่เกิดเหตุตนก็ไม่ทราบว่ามีสึนามิเกิดขึ้น เพราะที่สถานที่ที่ตน และเพื่อนๆประมาณ 10 คน อยู่นั้นเป็นที่สูง จึงไม่รู้ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น แต่หลังจากนั้นก็ทราบจากเพื่อนที่เตือนว่า อย่าลงไปที่ทะเลเพราะมีคลื่นยักษ์ ก็พยายามมองลงไปที่ทะเลแต่ก็ไม่เห็นคลื่นยักษ์ตามที่เพื่อนบอกอย่างใด หลังจากนั้นก็เห็นครอบครัวชาวต่างชาติเดินมาตามถนนจนถึงร้านของตน ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้อยู่จุดที่อยู่ปัจจุบัน แต่อยู่เหนือขึ้นไปอีกนิดหนึ่ง โดยทั้ง 3 คน อยู่ในสภาพร่างกายเปียก เนื้อตัวเต็มไปด้วยทราย โดยมีผู้ชาย 1 คน เด็กผู้หญิง 1 คน และเด็กผู้ชาย 1 คน เข้ามาขอความช่วยเหลือ ซึ่งเพื่อนที่พูดภาษาอังกฤษได้เป็นคนสื่อสารกับชาวต่างชาติครอบครัวดังกล่าว จนทราบว่า ครอบครัวนี้มากันทั้งหมด 4 คน คือ พ่อแม่ และลูกชาย ลูกสาว แต่แม่ของเด็กทั้ง 2 คน หายไปในช่วงที่เกิดสึนามิ และเขาต้องการที่จะฝากลูกทั้ง 2 คนไว้เพื่อที่จะออกไปตามหาแม่ของเด็กๆ

หลังจากทราบความต้องการของนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว ก็รับปากที่จะดูแลเด็กทั้ง 2 คนให้ โดยพาไปอาบน้ำ และทอดไข่ดาวให้กิน และคอยกอดปลอบเด็กทั้ง 2 คนไว้ เนื่องจากเด็กร้องไห้และมีอาการกลัว หลังจากนั้นไม่นาน พ่อของเด็กก็เดินทางกลับมา และเรียกๆ ลูกออกไปหาพร้อมกับบอกว่า แม่ของพวกเค้าเสียชีวิตแล้ว ทำให้เด็กทั้ง 2 คน ร้องไห้หนักขึ้นไปอีก ซึ่งเพื่อนๆ ที่อยู่บริเวณนั้นก็ช่วยกันปลอบใจ หลังจากนั้นเขาก็ได้บอกผ่านเพื่อนที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ ว่า เขาต้องการที่จะเดินทางไปสนามบินที่กรุงเทพฯ เพื่อเดินทางกลับประเทศให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะมารับศพของภรรยาโดยเขาต้องการให้ตน และนายพิเชษ ขับรถไปส่ง เนื่องจากถ้าไปเครื่องบินที่ทางเจ้าหน้าที่จัดให้ที่สนามบินภูเก็ตกว่าจะได้เดินทางช้า เขาต้องการที่จะเดินทางโดยเร็วที่สุด

หลังจากได้รับการร้องขอก็ไม่คิดอะไรมาก เห็นเขาเดือดร้อนก็ต้องการที่จะช่วยเหลือโดยไม่ได้เรียกร้องค่าใช้จ่ายใดๆ เลย แต่ก็แจ้งว่าขอเปลี่ยนยางรถยนต์ก่อนเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยในการเดินทาง หลังจากเปลี่ยนยางรถเสร็จก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เลย โดยเด็กๆ ทั้ง 2 คน นั่งที่เบาะหลัง กับตน ส่วนพ่อของเด็กนั่งข้างหน้า ซึ่งตลอดการเดินทางเด็กๆ จะร้องไห้ตลอด ตนก็ต้องคอยปลอบประโลมไปตลอดเส้นทาง เช่นเดียวกับพ่อของเด็กที่จะมีอาการนิ่งเงียบก็ต้องค่อยจับมือให้กำลังใจ เมื่อไปถึงสนามบินที่กรุงเทพฯ เขาก็ขอบคุณที่ไปส่ง พร้อมกับมอบนามบัตรให้ไว้ 1 ใบ รวมทั้งรูปถ่ายของเด็กทั้ง 2 คน นอกจากนั้น ยังให้เงินดอลลาร์มาจำนวนหนึ่ง ส่วนจะเป็นเงินไทยเท่าไหร่ก็ไม่ทราบ ซึ่งก็ได้นำเงินส่วนนั้นไปเติมน้ำมันรถ หลังจากส่งทั้ง 3 คนเสร็จก็เดินทางกลับมายังภูเก็ต และทำงานปกติ

และหลังจากเกิดเหตุสึนามิถล่ม ก็ได้พบกับนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวอีก 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นช่วงที่มาติดต่อขอรับศพภรรยา และอีกครั้งเป็นช่วงที่เดินทางมาดูสถานการณ์หลังเกิดเหตุสึนามิ รวมทั้งเรื่องของการช่วยเหลือเด็กในมูลนิธิซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางเข้าเขื่อนบางวาด ซึ่งครั้งนั้นนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวเดินทางมาเพียงคนเดียว และได้แจ้งต่อพนักงานโรงแรมที่เขาเข้าพักให้ติดต่อมาหาตนเพื่อจะมาเยี่ยม หลังหลังจากติดต่อได้ เขาก็เดินทางมาเยี่ยม และชักชวนให้ไปทำงานดูแลเด็กที่มูลนิธิ ซึ่งตนก็ไปทำงานระยะหนึ่งก็ลาออก เนื่องจากมีลูกที่จะต้องดูแล ประกอบกับรายได้ไม่เพียงพอ จึงของลาออกมาเปิดร้านเอง ซึ่งก็คือร้านที่เปิดอยู่ในปัจจุบัน และหลังจากนั้น ก็เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่ไม่ได้เจอคนในครอบครัวนี้อีกเลย แต่รู้สึกดีที่เด็กทั้ง 2 คนถามหาและอยากที่จะมาพบเพื่อที่จะขอบคุณ ซึ่งการกระทำ และการช่วยเหลือครอบครัวนักท่องเที่ยวในครั้งนี้ตนก็ไม่ได้หวังผลอะไร แต่เป็นการช่วยเหลือคนที่กำลังได้รับความเดือดร้อน และเป็นการแบ่งเบาปัญหาความเดือดร้อนของเขา
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น